 |
 |
 |
 |
 |
“ในศาสนาอิสลามผู้หญิงควรได้รับการเคารพในเกียรติ มุสลีมะฮ์เองจะต้องให้เกียรติกับตัวเอง” คาร์ลี่ วัตส์ (Carley Watts) อดีตนางแบบสาวชื่อดังชาวอังกฤษ ที่หันมารับศาสนาอิสลามกล่าว
เธอไม่ใช่ดาราสาวธรรมดา แต่คาร์ลี่ ถือเป็นเน็ตไอดอลของวงการเซ็กซี่ของแฟชั่นผู้หญิง ที่ได้สร้างความประหลาดใจเมื่อเธอได้หันมาเข้ารับอิสลามและทำการปกปิดเรือนร่างของเธอด้วยฮิญาบ
เธอได้พบกับชายชาวตูนีเซียคนหนึ่ง มูฮัมหมัด ซอและห์ ที่ได้เป็นสาเหตุให้เธอได้ศึกษาอิสลามและเริ่มมีความสนใจต่อคำสอนศาสนาอิสลามที่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับการปกป้องผู้หญิง หลังจากที่เธอหันมาเข้ารับอิสลาม เธอได้ตัดสินใจสละทิ้งงานทันทีและมีแผนที่จะเข้าพิธีวิวาห์กับ มูฮัมหมัด และจะใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศตูนีเซีย
เรื่องราวการเข้ารับอิสลามของนางแบบดังชาวอังกฤษในวัย 24 ปี คนนี้ เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงที่เธออยู่ในช่วงของการพักผ่อนริมชายหาด จนกระทั่งด้วยความบังเอิญเธอได้พบกับผู้ดูแลชายหาดคนหนึ่ง ซึ่งก็คือ มูฮัมหมัด ซอและห์ นั่นเอง
“วันนั้นฉันทำใจกล้าเข้าไว้เพื่อถามชื่อของเขา ภาษาอังกฤษของเขาไม่ค่อยจะดีนัก ฉันเลยพูดคุยในภาษาฝรั่งเศส แต่ฉันกลับจำคำศัพท์ได้นิดเดียวเองที่ฉันพอจะจำได้ในช่วงที่เรียน” คาร์ลี่ กล่าวพร้อมรอยยิ้มที่เขินอาย
เริ่มจากที่นั่นความสัมพันธ์ของคอลลี่กับมูฮัมหมัด ได้เริ่มขึ้น คาร์ลี่เริ่มรู้จักศาสนาที่มูฮัมหมัดนับถือ ดูเหมือนว่ามูฮัมหมัดจะฝันเฟื่องในการจะทำให้เธอได้พบกับฮีดายะฮ์ (ทางนำ) หญิงเลี้ยงเดี่ยวผู้นี้ต่อมาก็มีความสนใจต่อคำสอนอิสลาม “มูฮัมหมัด ซอและห์ ได้ทำให้ฉันได้เห็นชีวิตจริงแท้อีกครั้ง ฉันรู้สึกสงบและมีความสุข” เธอกล่าว
ด้วยความช่วยเหลือของ มูฮัมหมัด ซอและห์ เธอได้เรียนรู้อิสลาม ก่อนที่เธอจะค้นพบว่าเหตุใดอิสลามจึงให้เกียรติกับผู้หญิงมากเหลือเกิน ก่อนหน้านี้เธอได้แต่ปล่อยโชว์ความงามเรือนร่างของเธอ ที่เธอรู้สึกมีความเสียใจอย่างมาก ทุกครั้งที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับหลักการอิสลามที่เกี่ยวกับผู้หญิง เธอยิ่งกลับรู้ที่จะยุติการงานของมากขึ้น
เธอรู้สึกว่าที่ผ่านมาเธอใช้ชีวิตค่อนข้างสูญเปล่า นับประสาอะไรกับวิถีชีวิตของหนุ่มสาวชาวอังกฤษ ที่ใช้ชีวิตอย่างเสเพลดื่มแอลกอฮอลล์และไปเที่ยวผับในยามค่ำคืน ที่เสมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของเธอ “ฉันไม่อยากใช้ชีวิตเสเพลอีกแล้ว ไม่อยากกลับไปโชว์เนื้อนมอีกแล้ว และจะไม่เที่ยวในยามค่ำคืนอีกแล้ว” เธอกล่าว
การเลือกทางเดินของชีวิตเธอแน่นอนมันได้สร้างความประหลาดให้กับครอบครัวอย่างแน่นอน พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเธอ เพื่อนๆ ของเธอก็ไม่มีใครสนับสนุนการหมั้นของเธอกับมูฮัมหมัด ซอและห์ “พวกเขารับไม่ได้ที่ฉันหันมารับอิสลามและใส่ฮิญาบ พวกเขากล่าวว่า ฉันกำลังจะหาจุดจบของชีวิตด้วยการเลือกทางเดินดังกล่าว” เธอกล่าวด้วยความโศกเศร้า
อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้หวั่นไหวแต่อย่างใด เธอได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะเป็นมุสลีมะฮอย่างที่เธอตั้งใจ เธอได้กล่าวขอขอบคุณซอและห์ที่ได้ช่วยเหลือตลอดมา “เขารักฉัน และได้ขอฉันเป็นภรรยาของเขา และเราได้ตกลงกันแล้ว (กำหนดที่จะแต่งงาน) เขาต้อนรับฉันในสิ่งที่ฉันเป็น”
มีความตั้งใจที่จะปกปิดเรือนร่าง
หลังจากที่ได้แต่งงานกัน เธอจะย้ายที่อยู่จากอังกฤษไปใช้ชีวิตที่ตูนีเซียพร้อมกับลูกสาวตัวเล็กของเธอ ดญ.อาลานะฮ์ วัยสองขวบ เดือนพฤศจิกายนถือเป็นเดือนที่ได้วางแผนเอาไว้สำหรับชีวิตใหม่สำหรับการใช้ชีวิตในประเทศตะวันออกกลาง เธอและลูกสาวจะอาศัยที่เมืองโมนาสตีร และเธอจะเริ่มชีวิจใหม่ด้วยการเป็นมูอัลลัฟ (มุสลิมใหม่) ในฤดูใบไม้ผลิ ก่อนที่เธอจะเข้าพิธีแต่งงาน
การที่เธอย้ายไปอยู่ที่ประเทศตูนีเซีย ถือเป็นการเหมาะเจาะกับการที่เธออยากจะยุติงานของเธออีกด้วยในฐานะดาราฮอลลีวูด ไม่เพียงแค่นั้นเธอยังได้เตรียมพร้อมที่จะปกปิดร่างกาย “ชีวิตของฉันคงจะใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับสิ่งที่เชื่อนับถือและฉันไม่เคยกังวลแต่อย่างใด” เธอกล่าว
เธอยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมของตูนีเซียอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมการแต่งกายปกปิดเรือนร่างสำหรับผู้หญิง และเธอเองยังยอมรับด้วยว่า เธอชอบการต่งกายดังกล่าว เธอกล่าวด้วยว่าการแต่งกายดังกล่าวเป็นการให้ความเคารพและให้เกียรติแก่เรือนร่างผู้หญิง วัฒนธรรมเช่นนี้เองที่อิสลามได้สอนไว้ที่เธอกำลังศึกษาเรียนรู้
 |
 |
 |
 |
 |
