ปาเลสไตน์จี้ยูเอ็นยุติการยึดครองดินแดนของอิสราเอล

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ว่าประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ( ยูเอ็นจีเอ ) เมื่อวันพุธ มีสาระสำคัญว่าแนวคิดการถือผิวหรือเหยียดเชื้อชาติ เป็นเรื่องที่ล้าสมัยอย่างมากในยุคศตวรรษที่ 21 และประณามนโยบายของอิสราเอลที่เดินหน้าโครงการขยายอาณาเขตนิคมชาวยิวในฝั่งตะวันออกของกรุงเยรูซาเลม และเขตเวสต์แบงก์ ว่ายังคงเป็นการเสี่ยงทำลาย "แนวทางสองรัฐ" ที่หมายถึงการยอมรับการมีตัวตนของรัฐอิสราเอลและรัฐปาเลสไตน์คู่กัน เนื่องจากนโยบายดังกล่าวของอิสราเอลทำให้ไม่เหลือพื้นที่สำหรับอาณาเขตของรัฐปาเลสไตน์อีกต่อไป และอับบาสเรียกร้องให้ยูเอ็นหาทางยับยั้งอิสราเอลในเรื่องนี้ "อย่างมีเป้าหมาย"

ทั้งนี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ไม่เคยยอมรับโครงการก่อสร้างนิคมที่อยู่อาศัยของอิสราเอลในพื้นที่พิพาทกับปาเลสไตน์ และผ่านมติประณามเรื่องนี้เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โดยสหรัฐใช้สิทธิ์งดออกเสียง สร้างความไม่พอใจอย่างหนักให้กับอิสราเอล อย่างไรก็ตาม อับบาสยืนยันการผลักดันให้สหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) รับรองปาเลสไตน์ในฐานะรัฐเอกราชต่อไป แม้ประเด็นนี้มีความเสี่ยงสูงที่สหรัฐจะใช้อำนาจวีโต้ก็ตาม แต่ยูเอ็นจีเอมีมติเมื่อปี 2555 อนุมัติสถานะ "ผู้สังเกตการณ์ที่ไม่ใช่สมาชิก" ให้แก่ปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นสถานะเทียบเท่ากับนครรัฐวาติกัน

ขณะเดียวกัน อับบาสแสดงความเชื่อมั่นมากขึ้น ว่าการเจรจาสันติภาพกับอิสราเอลจะมีความคืบหน้า และอาจมีการบรรลุข้อตกลงร่วมกันในประเด็นสำคัญภายในปีนี้ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ให้คำมั่นในการช่วยสร้างสรรค์ "ข้อตกลงแห่งศตวรรษ" แต่หวังว่าแนวทางของสหรัฐจะไม่ส่งผลต่อแนวทางสองรัฐ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของปาเลสไตน์.

คลิปประกอบ : RT