ผบ.สส.เมียนมาโยนความผิด "โรฮิงยา" ก่อวิกฤตสะท้านโลก ย้ำไม่ใช่คนของพม่า

ซ้ายภาพจากเฟซบุ๊กมิน อ่อง ไหล่ ขวาภาพ AP Photo/Dar Yasin

บีบีซีรายงานวันที่ 16 ก.ย. ว่า ผู้นำกองทัพพม่ายังคงยืนกรานกล่าวโทษชาวโรฮิงยาว่าเป็นต้นเหตุก่อวิกฤตผู้อพยพหลายแสนคนที่หนีภัยเข้าไปยังประเทศบังกลาเทศ ในขณะที่ประเด็นดังกล่าวจุดกระแสประท้วงและตำหนิพม่าในประเทศต่างๆ ไปจนถึงสหประชาชาติ

พล.อ.มิน อ่อง ไหล่ ผบ.สส.พม่า ลงข้อความในเฟซบุ๊กตนเอง เรียกร้องให้ประชาชนและสื่อมวลชนในพม่ารวมใจเป็นหนึ่งในประเด็นโรฮิงยา พร้อมย้ำว่า ชาวโรฮิงยาไม่ใช่กลุ่มชาติพันธุ์ของพม่า อีกทั้งยังย้ำการเรียกกลุ่มชาวโรฮิงยาว่าเป็นเบงกาลี

เฟซบุ๊กของมิน อ่อง ไหล่

“ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่เป็นฝีมือของกลุ่มติดอาวุธเบงกาลี ซึ่งต้องการสร้างฐานในเมืองปูตีต่อง และหม่องดอว์ พวกนี้เรียกร้องให้ยอมรับโรฮิงยาซึ่งไม่เคยเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ในพม่า เมื่อเรื่องเบงกาลีเป็นประเด็นระดับชาติขึ้นมา เราต้องสามัคคีกันยืนหยัดในความจริง” พล.อ.มิน อ่อง ไหล่ กล่าว

เฟซบุ๊กของมิน อ่อง ไหล่

อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงที่เป็นข่าวไปทั่วโลก หลังจากกองกำลังติดอาวุธโรฮิงยาบุกโจมตีด่านตำรวจในรัฐยะไข่ สังหารเจ้าหน้าที่ความมั่นคง 12 ราย เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ก็คือกองทัพพม่าถูกกล่าวหาว่ามุ่งทำร้ายและขับไล่พลเรือนโรฮิงยา จนชาวบ้านหลั่งไหลหนีภัยข้ามพรมแดนอย่างไม่ขาดสาย

นายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวย้ำในวันอาทิตย์ที่ 17 ก.ย. เรียกร้องให้นางออง ซาน ซู จี ในฐานะผู้นำพม่า พูดถึงการยุติใช้กำลังในการแถลงข่าวที่นางซู จี นัดไว้ว่าจะแถลงต่อประชาชนทั่วประเทศในวันอังคารที่ 19 ก.ย.นี้ หลังจากที่นางซู จี เคยให้ข่าวตำหนิว่า สถานการณ์นี้ถูกบิดเบือนด้วยข่าวปลอม และโหมเพื่อผลประโยชน์ของผู้ก่อการร้าย

ชาวโรฮิงยาหลบฝนในค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศ/ AFP

“ถ้าเธอล้มเหลวอีก ผมก็ไม่เห็นว่าจะพลิกสถานการณ์นี้ในอนาคตได้อย่างไร” เลขาธิการยูเอ็นกล่าวในรายงานฮาร์ดทอล์กของบีบีซี และแสดงความเห็นด้วยว่า “นี่เป็นเรื่องชัดเจนทีเดียวว่า ทหารพม่ายังคุมอำนาจที่เหนือกว่าในประเทศนี้”

ที่มาของเนื้อหา : www.khaosod.co.th