 |
 |
 |
 |
 |
The Arakan Rohingya Solidarity Army (ARSA) เป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ติดอาวุธจำนวนไม่มาก ที่สู้รบกับทหารพม่าอยู่ในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศ พวกเขาได้ปฏิเสธว่ากลุ่มของเขามิได้เกี่ยวข้องกับ กลุ่มก่อการร้ายเช่น อัล-กออิดะ ISIS หรือกลุ่มอื่นๆ และพวกเขายังเตือนไม่ให้นักรบต่างชาติกลุ่มต่างๆ เข้ามายังพื้นที่ที่กำลังเกิดความขัดแย้ง
ARSA ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา ว่า กลุ่มของเขาไม่ได้ต้องการให้กลุ่มนักรบต่างชาติกลุ่มอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องในความขัดแย้ง และเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ในภูมิภาค ช่วยป้องกันผู้ก่อการร้ายจากการเข้ามายังพื้นที่อารากัน ซึ่งจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้น
แถลงการณ์ยังระบุว่า พวกเขากังวลต่อสถานการณ์ด้านมนุษยธรรม ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในยะไข่ และเรียกร้องให้กลุ่มช่วยเหลือ และองค์กรไม่สังกัดรัฐบาลเร่งเข้ามาติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างเร่งด่วน และช่วยจัดหาความช่วยเหลือเพื่อประทังชีวิตแก่ผู้ที่ได้รัผลกระทบจากความรุนแรงครั้งนี้
ชาวโรฮิงญาไม่เชื่อว่า การประกาศของกลุ่ม ARSA จะทำให้นานาชาติเลิกล้มการช่วยเหลือชาวโรฮิงญา เนื่องจากองค์กรต่างๆ รับรู้ว่า ไม่เคยมีกลุ่มก่อการร้ายอยู่ในรัฐยะไข่
กลุ่ม ARSA เดิมใช้ชื่อว่า Harakatul Yakeen เริ่มปฏิบัติการเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2016 โดยเข้าโจมตีจุดตรวจของตำรวจในเขตเมืองมวงดอว์ และ Rathedaung ทำให้ตำรวจเสียชีวิต 9 นาย ผู้นำกลุ่ม อะตาอุเลาะฮ์ อะบู อะมัร จูนูนี ปรากฏตัวในวิดีโอความยาว 18 นาที ที่ออกเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2016 เพื่อแถลงปกป้องตนเอง และอ้างว่าเจ้าหน้าที่พม่าเป็นผู้กระตุ้นให้พวกเขากระทำการดังกล่าว โดยกระทำต่อชาวมุสลิมโรฮิงญามานานกว่า 75 ปี
Maung Zarni จากศูนย์แห่งยุโรปเพื่อการศึกษาด้านความรุนแรง กล่าวว่า กลุ่มนี้เป็นเพียงชายที่สิ้นไร้ซึ่งความหวัง และตัดสินใจหันมาจับอาวุธเพื่อปกป้องตนเอง และพวกพ้อง
มีรายงานโดยกลุ่ม International Crisis Group ที่ออกเมื่อเดือนธันวาคม ระบุว่ากลุ่ม ARSA ชี้นำโดยคณะบุคคลชาวโรฮิงญา ที่อพยพเข้าไปอยู่ในราชอาณาจักรซาอุ ฯ และมีการบังคับบัญชาในพื้นที่ โดยชาวโรฮิงญาที่ได้รับการฝึก และมีประสบการณ์ในการต่อสู้แบบสงครามกองโจร และว่า กลุ่มนี้ไม่ปรากฏว่า มีแรงจูงใจจากความสุดโต่ง และยังคงต้องการจะได้รับการพิจารณาด้วยความการุญ และให้การสนับสนุนจากมุสลิมในรัฐยะไข่
http://www.aljazeera.com/news/2017/09/arsa-group-denies-links-al-qaeda-isil-170914094048024.html
http://www.aljazeera.com
ที่มาของเนื้อหา : tangnamnews.wordpress.com
 |
 |
 |
 |
 |