
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ว่า ความขัดแย้งถูกแปลเป็นความน่าเชื่อถือติดลบ สำหรับ 6 ประเทศสมาชิกคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (จีซีซี) ทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย ซาอุดีอาระเบีย ยูเออี บาห์เรน คูเวต โอมาน และกาตาร์ จากรายงานของมูดีส์
วันที่ 5 มิ.ย. ซาอุดีอาระเบีย ยูเออี บาห์เรน และอียิปต์ ประกาศความสัมพันธ์ทางการทูต และกำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อกาตาร์ ตามข้อกล่าวหาให้การสนับสนุนกลุ่มหัวรุนแรงทางศาสนา แต่กาตาร์ปฏิเสธ
สเตฟเฟน ไดค์ รองประธานมูดีส์ กล่าวว่า ความรุนแรงของความขัดแย้งทางการทูตระหว่างกลุ่มประเทศรอบอ่าวเปอร์เซียไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งขยายความไม่แน่นอน และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การเงินและสังคม ของจีซีซีทั้งหมด
กาตาร์เผชิญกับค่าใช้จ่ายจำนวนมากทางเศรษฐกิจ การเงินและสังคม อันเป็นผลจากการถูกจำกัดด้านการเดินทางและการค้า แต่ที่ผ่านมากาตาร์ได้รับผลกระทบหนักสุดทางด้านการค้า การท่องเที่ยว และภาคการธนาคาร โโยมีเงินทุนไหลออกจากระบบธนาคารของกาตาร์ราว 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างเดือน มิ.ย. และ ก.ค. และคาดว่าจะไหลออกอีก เมื่อธนาคารต่างๆ ของจีซีซี เลือกที่จะไม่ต่ออายุสินเชื่อของตน
ประเมินกันว่า รัฐบาลกาตาร์ใช้เงินประมาณ 38,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,277,360 ล้านบาท) หรือเท่ากับ 23 % ของจีดีพีประเทศ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในช่วง 2 เดือนแรกที่ถูกคว่ำบาตร
คาดว่ากาตาร์จะไม่จำเป็นต้องกู้ยืมจากตลาดทุนระหว่างประเทศในปีนี้ แต่ค่าใช้จ่ายด้านการเงินของประเทศจะสูงขึ้น
กรณีพิพาทยืดเยื้อยังอาจสร้างความเสียหายต่อความยั่งยืนของการตรึงค่าเงินของบาห์เรนต่อเงินดอลลาร์สหรัฐ และยังอาจจะเพิ่มค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมสำหรับราชอาณาจักรบาห์เรน ประเทศฐานะยากจนที่สุด ในบรรดา 6 ชาติสมาชิกของจีซีซี
ความขัดแย้งทางการทูตยังจะสร้างความเสียหายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต่อการทำหน้าที่ของจีซีซี และความเสียหายจะหนักขึ้นเรื่อยๆ เมื่อความขัดแย้งยืดเยื้อออกไป.
คลิปประกอบ – OILWIRE
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " มูดีส์ อินเวสเตอร์ชี้ รุมคว่ำบาตรกาตาร์บาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย "