ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันอังคาร, 7 พฤษภาคม 2567

พม่าเมินโรฮีนจาเสนอหยุดยิง


ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาที่เพิ่งมาถึงใหม่ยื้อแย่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่เขตอูเคียของบังกลาเทศ ภาพ AFP

กองกำลังติดอาวุธโรฮีนจาประกาศหยุดยิงโดยฝ่ายเดียวเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ เพื่อเปิดโอกาสให้ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์เหยื่อความรุนแรงในรัฐยะไข่ แต่รัฐบาลของ “อองซาน ซูจี” ไม่ตอบสนองด้วย ยันไม่มีนโยบายเจรจากับผู้ก่อการร้าย ขณะยูเอ็นเผยยอดโรฮีนจาอพยพเข้าบังกลาเทศจ่อ 300,000 คน

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายนว่า ข้อมูลล่าสุดของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ประเมินว่า มีผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาข้ามแดนเข้ามาในบังกลาเทศแล้ว 294,000 คน นับแต่ความรุนแรงรอบใหม่นี้ปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม หลังจากกองกำลังติดอาวุธกลุ่มกองทัพกอบกู้โรฮีนจาแห่งรัฐอาระกัน (เออาร์เอสเอ) หลายร้อยคนโจมตีที่ตั้งของหน่วยความมั่นคงเมียนมาพร้อมกัน 30 จุด ทำให้กองทัพตอบโต้อย่างรุนแรง ส่งผลให้พวกแนวร่วมโรฮีนจาถูกฆ่าตายเกือบ 400 คนแล้ว

คาดการณ์ด้วยว่า ยังมีผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาอีกหลายหมื่นคนที่อยู่ระหว่างเดินทางหนีออกจากรัฐยะไข่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเมียนมา และมีรายงานกล่าวหาว่า กองกำลังความมั่นคงของเมียนมาได้วางกับระเบิดไว้ใกล้ชายแดนบังกลาเทศเพื่อไม่ให้ชาวโรฮีนจาที่หนีภัยสู้รบ เดินทางกลับเข้าเมียนมาอีก ทำให้มีชาวโรฮีนจาเหยียบกับระเบิดเสียชีวิต 3 ราย

ความรุนแรงรอบล่าสุดนี้ ทำให้ชาวพุทธยะไข่และชาวฮินดู 27,000 คนต้องทิ้งถิ่นฐานหนีภัยด้วยเช่นกัน

เมื่อวันเสาร์ เออาร์เอสเอได้ออกแถลงการณ์ผ่านทวิตเตอร์ ประกาศหยุดการต่อสู้ชั่วคราวเป็นเวลา 1 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน ถึงวันที่ 9 ตุลาคม และร้องขอให้ทุกภาคส่วนที่ทำงานด้านบรรเทาทุกข์ เริ่มการส่งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์อีกครั้ง เพื่อช่วยเหลือเหยื่อในวิกฤติมนุษยธรรมครั้งนี้ทุกราย ไม่ว่าจะเชื้อชาติหรือศาสนาใด พร้อมกันนั้นพวกเขายังเรียกร้องให้เมียนมาหยุดการต่อสู้เพื่อมนุษยธรรมในแบบเดียวกัน

ในวันอาทิตย์ กองทัพและรัฐบาลเมียนมายังไม่ได้มีปฏิกิริยาใดต่อข้อเรียกร้องนี้ แต่ในทวิตเตอร์ของโฆษกสำนักงานของนางอองซาน ซูจี มนตรีแห่งรัฐซึ่งเป็นผู้นำรัฐบาลเมียนมาโดยพฤตินัย ยืนกรานว่า “เราไม่มีนโยบายเจรจาต่อรองกับผู้ก่อการร้าย”

อย่างไรก็ดี เมื่อวันเสาร์ ทางการเมียนมาแถลงว่าเจ้าหน้าที่ได้ตั้งค่ายบรรเทาทุกข์ขึ้น 3 แห่งในพื้นที่ที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวโรฮีนจา

ทางการเมียนมาอ้างว่า กองกำลังความมั่นคงกำลังเปิดปฏิบัติการกวาดล้างองค์กรก่อการร้ายกลุ่มเออาร์เอสเอในพื้นที่นั้น แต่ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจากล่าวกันว่า ปฏิบัติการของกองทัพนำไปสู่การสังหารหมู่และการวางเพลิงหมู่บ้านนับพันแห่ง บีบให้ชาวโรฮีนจาต้องอพยพหนีภัยข้ามชายแดน

ผู้อพยพที่มาถึงบังกลาเทศกล่าวอ้างด้วยว่า ชาวพุทธยะไข่ได้เข้าร่วมกับกองกำลังความมั่นคงเข่นฆ่าชาวบ้านโรฮีนจาและวางเพลิงด้วย บางคนก็อ้างว่าพวกเขาถูกเออาร์เอสเอบังคับให้สู้รบกับทางการ แต่อีกด้านหนึ่ง รัฐบาลเมียนมาก็กล่าวหาโรฮีนจาว่าจุดไฟเผาบ้านตนเองเพื่อปลุกความโกรธแค้นและหวาดกลัวทางการ

ชาวโรฮีนจาเป็นชนส่วนน้อยที่เคยมีประชากรอยู่ราว 1.1 ล้านคนในประเทศเมียนมาซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ แม้โรฮีนจาจำนวนมากจะอยู่ในรัฐยะไข่มาหลายชั่วรุ่น แต่เมียนมาไม่ให้สถานะพลเมืองโดยถือว่าพวกเขาเป็นคนเข้าเมืองผิดกฎหมายจากบังกลาเทศ และเรียกพวกเขาว่า “เบงกาลี”

ก่อนหน้าวิกฤติรอบนี้ บังกลาเทศต้องแบกรับผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาที่หนีภัยความรุนแรงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แล้วราว 400,000 คน การอพยพระลอกล่าสุดนี้ทำให้จำนวนชาวโรฮีนจาในยะไข่อพยพหนีภัยแล้วถึง 3 ใน 4 ของประชากร ขณะที่หน่วยงานของยูเอ็นเรียกร้องขอเงินบริจาคเร่งด่วนจำนวน 77 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยเหล่านี้.

ที่มาของเนื้อหา : www.thaipost.net