ศาลฝรั่งเศสระงับ “คำสั่งห้ามสวมเบอร์กินี” ชุดว่ายน้ำมุสลิม ชี้ไร้น้ำหนักคุกคามสาธารณะชน

เอเอฟพีรายงานวันนี้(2 ก.ย)ว่า คณะผู้พิพากษาศาลปกครองเมืองนีซได้ออกคำพิพากษาในวันพฤหัสบดี(1 ก.ย)โดยให้เหตุผลว่า การออกคำสั่งของเมืองนีซด้วยการประกาศสั่งห้ามการสวมชุดว่ายน้ำที่ออกแบบมาเพื่อสตรีมุสลิมที่เรียกว่า “เบอร์กินี” (burkini) และการให้เหตุผลโยงไปถึงเหตุก่อการร้ายวันชาติฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมล่าสุดในเมืองริเวียรานั้นดูไม่สมเหตุสมผล

ทั้งนี้คำสั่งของศาลเมืองนีซเมื่อวานนี้(1 ก.ย) เกิดขึ้นหลังจากในสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า ศาลปกครองสูงสุดฝรั่งเศสออกคำพิพากษา ระงับคำสั่งทางปกครองของเมืองในฝรั่งเศสจำนวนร่วม 30 เมือง รวมไปถึงเมืองนีซ ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ โดยประกาศไม่อนุญาตให้เมืองเหล่านี้ “ห้ามการสวมชุดเบอร์กินีในที่สาธารณะ”

แต่อย่างไรก็ตาม เอเอฟพีชี้ว่า ที่ผ่านมามีบางเมือง รวมไปถึงเมืองนีซ ได้เพิกเฉยต่อคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดฝรั่งเศส และยังคงบังคับใช้คำสั่งห้ามการสวมชุดเบอร์กินีในที่สาธารณะต่อไป ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างแข็งกร้าวของชุมชนมุสลิมฝรั่งเศส

เอเอฟพีรายงานว่า นีซกลายเป็นเมืองแรกของฝรั่งเศสในการออกคำสั่งห้ามการสวมเบอร์กินีในหน้าร้อนปีนี้ โดยทางเจ้าหน้าที่เมืองนีซได้ให้เหตุผลว่า เป็นภัยคุกคามต่อการบังคับใช้กฎหมาย หลังเกิดเหตุสลดมุสลิมหัวรุนแรงได้ขับรถบรรทุกพุ่งเข้าชนฝูงชนที่แน่นขนัดใกล้ชายหาดที่มีชื่อแห่งหนึ่งของฝรั่งเศสในวันชาติฝรั่งเศสปีนี้ และทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 86 คน

แต่ทว่าศาลปกครองเมืองนีซกลับออกคำสั่งในวันพฤหัสบดี(1 ก.ย)โดยชี้ว่า “การไม่มีอยู่จริงของความเสี่ยงเช่นนั้น จากความกังวลต่อการถูกก่อการร้าย โดยเฉพาะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 14 กรกฎาคมล่าสุด ถือเป็นเหตุที่ไม่มีมูลมากพอจะอ้างถึงความชอบธรรมทางกฎหมายในการคงคำสั่งห้ามทางปกครองเช่นนี้ต่อไป”

และนอกจากนี้ศาลเมืองนีซยังพบว่า เบอร์กินีมีความปลอดภัย เหมาะสม และให้สุขอนามัยที่ดีต่อผู้สวมใส่ในขณะกำลังว่ายน้ำ

เอเอฟพีรายงานอีกว่า ประเด็นชุดเบอร์กินีกลายเป็นเรื่องถกเถียงไปทั่วประเทศฝรั่งเศสหลังจากในสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาพข่าวปรากฎไปทั่วโลกแสดงถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศสชายกลุ่มหนึ่งกำลังรุมล้อม สั่งให้หญิงมุสลิมคนหนึ่งบนชายหาดฝรั่งเศส ถอดชุดเบอร์กินีออก ซึ่งเธอสวมชุดว่ายน้ำที่มีลักษณะปกปิดมิดชิดตั้งแต่ลำคอ รวมไปถึงปลายแขนทั้งสองข้าง

โดยทางเมืองนีซได้ออกแถลงการณ์ปฎิเสธหลังจากนั้น โดยอ้างว่า หญิงคนดังกล่าวไม่ได้ถูกบังคับให้เปลื้องชุดเบอร์กินีออก ทางเจ้าหน้าที่เมืองนีซได้อ้างในการให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า หญิงผู้ตกเป็นข่าวได้อวดเจ้าหน้าที่ถึงชุดว่ายน้ำของเธอที่สวมไว้ใต้เสื้อ และเลกกิ้งในขณะที่กำลังถูกถ่ายภาพ

นอกจากนี้ยังพบว่า มีใบสั่งจำนวนไม่ต่ำกว่า 30 ใบถูกเขียนออกไปในเมืองนีซนับตั้งแต่ทางเมืองได้ประกาศให้การสวมเบอร์กินีเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และพบว่าคำสั่งห้ามนี้ได้รับการท้าทายจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนฝรั่งเศส ฮิวแมนไรท์ ลีก(Human Rights League) และจากทางกลุ่มต่อต้านการเกลียดชังมนุษย์ฝรั่งเศส

อย่างไรก็ตามในวันพุธ(31 ส.ค)อัยการหญิงเมืองนีซได้กล่าวปกป้องคำสั่งห้ามเบอร์กินี โดยยังอ้างว่า เบอร์กินีเป็นภัยต่อการบังคับใช้กฎหมาย โดยเธอกล่าวว่า “เมืองเกือบที่จะตกอยู่ในสงครามกลางเมืองแล้ว”