อินโดฯ ส่งรมว.ต่างประเทศเจรจาพม่ายุติความรุนแรงกับโรฮิงญา

ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย ได้ส่งรัฐมนตรีต่างประเทศเยือนพม่าเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลพม่ายุติการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อชาวโรฮิงญา หลังชาวอินโดนีเซียจำนวนมากรวมตัวประท้วง และมีมือดีปาระเบิดขวดใส่สถานทูตพม่าในกรุงจาการ์ตา

เหตุโจมตีสถานทูต ที่ตำรวจระบุว่าทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ขนาดเล็ก เกิดขึ้นในช่วงเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ (3) ท่ามกลางกระแสความไม่พอใจที่เพิ่มมากขึ้นในหมู่ประชาชนชาวอินโดนีเซียเกี่ยวกับเหตุรุนแรงต่อชาวโรฮิงญาในพม่า

เจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังออกลาดตระเวนบนถนนด้านหลังสถานทูตสังเกตพบเพลิงไหม้ที่ชั้นสองของอาคารในเวลาประมาณ 2.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น และได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้ารักษาความปลอดภัยที่ประตูหน้า ตามคำแถลงของตำรวจกรุงจาการ์ตา
คำแถลงระบุว่า หลังเพลิงสงบ ตำรวจพบเศษขวดเบียร์และเชือกชุ่มน้ำมันติดอยู่ และคาดว่าผู้ก่อเหตุหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุด้วยรถอเนกประสงค์ MPV ซึ่งตำรวจจาการ์ตากำลังสืบสวนเหตุการณ์นี้

กลุ่มนักเคลื่อนไหวรวมตัวชุมนุมประท้วงที่สถานทูตในวันเสาร์ (2) เรียกร้องให้คณะกรรมการรางวัลโนเบลปลดรางวัลของนางอองซานซูจี ตามการรายงานของสำนักข่าว Antara

การชุมนุมประท้วงยังดำเนินต่อเนื่องในวันอาทิตย์ (3) ที่ใจกลางกรุงจาการ์ตา ผู้ชุมนมหลายเรียกร้องให้รัฐบาลอินโดนีเซียมีส่วนร่วมมากขึ้นในความพยายามที่จะยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวโรฮิงญาในพม่า

ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ระบุว่า เขาได้ส่งนางเรตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ เยือนพม่าเพื่อสื่อสารอย่างเข้มข้นกับฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสหประชาชาติ

“ในบ่ายวันอาทิตย์ (3) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศได้ออกเดินทางไปพม่าเพื่อขอให้รัฐบาลพม่ายุติและป้องกันความรุนแรง เพื่อปกป้องคุ้มครองประชาชนทุกคน รวมทั้งชาวมุสลิมในพม่า และเพื่อให้เข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรธ” ผู้นำอินโดนีเซีย กล่าว

ประธานาธิบดีวิโดโด ยังเสริมว่า การดำเนินการที่เป็นรูปธรรมเป็นสิ่งจำเป็นและรัฐบาลอินโดนีเซียมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือเพื่อแก้ไขวิกฤติด้านมนุษยธรรม และมาร์ซูดีจะเดินทางไปยังบังกลาเทศเพื่อเตรียมความช่วยเหลือเพิ่มเติมให้กับผู้ลี้ภัยที่นั่น

หน่วยงานให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ประเมินว่ามีชาวโรฮิงญาหลบหนีความรุนแรงในพม่าที่ปะทุขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ก่อนเข้าไปในบังกลาเทศแล้วราว 73,000 คน