โครงการอาหารโลกระงับให้ความช่วยเหลือในรัฐยะไข่

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ว่าโครงการอาหารโลก ( ดับเบิลยูเอฟพี ) ซึ่งเป็นโครงการให้ความช่วยเหลือด้านอาหารขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ภายใต้การกำกับดูแลของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ออกแถลงการณ์ในวันเสาร์ ระงับการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทั้งหมดในรัฐยะไข่ของเมียนมา "ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง" ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างน้อย 250,000 คน โดยดับเบิลยูเอฟพียืนยันว่าการระงับภารกิจ "มีผลเพียงชั่วคราว" เท่านั้น
 

WFP labeled high energy biscuits 40 box-cotainers are found again at the Bengali Numalar Keane's home. pic.twitter.com/Hjy2Q4WoBd

— DrKyawSwe (@KyawDr) September 1, 2017

#Myanmar: WFP's statement on biscuits found in Rakhine is now online in both Burmese and English: https://t.co/csgVCie3fA

— WFP_Asia (@WFP_Asia) September 1, 2017

ความเคลื่อนไหวของดับเบิลยูเอฟพีมีขึ้นหลังรัฐบาลเมียนมาภายใต้การนำของนางออง ซาน ซูจี ประกาศในสัปดาห์นี้ ดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาความเชื่อมโยงระหว่าง "องค์กรระหว่างประเทศ" กับกลุ่มติดอาวุธในรัฐยะไข่ หลังพบหีบห่อขนมปังกรอบจำนวนมากที่มีตราสัญลักษณ์ของดับเบิลยูเอฟพี อยู่ภายในค่ายที่พักซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคงเชื่อว่าเป็นของกลุ่มคนร้าย ซึ่งดับเบิลยูเอฟพีปฏิเสธรายงานดังกล่าว แต่ส่งผลให้ยูเอ็นและหน่วยงานระหว่างประเทศหลายแห่งในเมียนมาอพยพเจ้าหน้าที่บางส่วนออกนอกประเทศ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยูเอ็นและรัฐบาลเมียนมาเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานาน เกี่ยวกับข้อครหาว่าให้ความช่วยเหลือฝ่ายสนับสนุนชาวโรฮีนจา กลุ่มชาติพันธุ์ที่ทางการเมียนมายังคงปฏิเสธให้สัญชาติ แม้อาศัยอยู่ในประเทศมากถึง 1.1 ล้านคน

ขณะที่สถานการณ์สู้รบระลอกใหม่ในรัฐยะไข่ระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มติดอาวุธ ที่ปะทุขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 400 คน ถือว่านองเลือดที่สุดนับตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตประมาณ 120 คน ด้านชาวโรฮีนจามากกว่า 58,000 คน พยายามลี้ภัยข้ามพรมแดนไปยังบังกลาเทศ แต่ยังคงถูกผลักดันกลับมา โดยบังกลาเทศยืนยันว่า "ครบโควต้า" การให้ความช่วยเหลือชาวโรฮีนจาแล้ว ที่ในปัจจุบันมีอยู่ราว 400,000 คน.

คลิปประกอบ : Al Jazeera English