สองหนุ่มใหญ่ชาวอังกฤษปั่นจักรยานจากลอนดอนไปทำฮัจญ์

หน้าแรก > ข่าวมุสลิม > สองหนุ่มใหญ่ชาวอังกฤษปั่นจักรยานจากลอนดอนไปทำฮัจญ์

หมวดหมู่ : ข่าวมุสลิม เปิดอ่าน 149 ครั้ง

ถูกแชร์ทั้งหมด : 0

รอชีดอาลี และ อับดุลฮันนาน สองหนุ่มใหญ่มุสลิมชาวชาวอังกฤษได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการกลายเป็นสองคนแรกที่เดินทางจากกรุงลอนดอนไปยังนครมักกะห์โดยการปั่นจักรยาน และพวกเขาทำทั้งหมดนี้เพื่อการกุศล

รอชีดอาลี กล่าวว่า “อัลฮัมดุลิ้ลลาฮ์ ขอบคุณพระเจ้า เราทำได้หลังผ่านไปสองเดือน มันเป็นความรู้สึกที่สุดยอด และตอนนี้การเดินทางทั้งหมดกำลังจะจบลงแล้ว”

ด้าน อับดุลฮันนาน บอกว่า “ผมคงไม่สามารถขอบคุณอัลลอฮ์ได้มากพอ(กับความสำเร็จที่ปพระองค์ประทานให้) เราอยู่ที่นี่(มักกะห์)ในวันนี้และกล่าวว่า ‘ลับบัยกั้ลลอฮุมมะลับบัยก์’ มันรู้สึกเยี่ยมทุกครั้งที่ได้มองไปกะอ์บะฮ์ มันกระแทกหัวใจของผม”

รอชีด อาลี และ อับดุล ฮันนาน ตัดสินใจออกเดินทางครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตร่วมกันด้วยการปั่นจักรยานจากกรุงลอนดอนไปยังมักกะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย เป็นระยะทางกว่า 5,700 กิโลเมตร เพื่อเข่าร่วมพิธีฮัจญ์

การเดินทางพวกเขาเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา จากโอลิมปิกพาร์คกรุงลอนดอน พวกเขาเดินทาง ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรีย สโลวีเนีย โครเอเชีย บอสเนีย เซอร์เบีย บัลแกเรีย กรีซ และตุรกี ก่อนจะข้ามมายังอียิปต์ และเข้าสู่ประเทศซาอุดิอาระเบีย

การเดินทางที่น่าตื่นเต้นครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อระดมทุนให้กับโครงการช่วยเหลือเด็กๆ มากกว่า 2,000 คน ที่ต้องเร่ร่อนอยู่บนท้องถนนในประเทศบังคลาเทศ องค์กรการกุศล Muslim Charity ในประเทศอังกฤษ

รอชีด อาลี ได้กล่าวไว้ใน london2makkah.com เว็บไซต์เฉพะากิจของโปรเจคต์ปั่นจักรายานไปมักกะห์ในครั้งนี้ว่า

“ใช่แล้ว ผมจะปั่นจักรยานจากลอนดอนไปยังซาอุดิอารเบีย ผมตั้งใจจะใช้เวลา 56 วัน เดินทางผ่าน 16 ประเทศ ด้วยระยะทางเฉลี่ย 100 กม. ต่อวัน ด้วยความสัตย์จริง นี่เป็นสิ่งเร้าใจที่ท้าทายและสร้างแรงบันดาลใจมากที่สุดเท่าที่ผมเคยทำ แต่เมื่อนึกถึงภาพเด็กๆ ที่กำลังนอนหลับอยู่บนถนนสายต่างๆ ของบังคลาเทศ และได้ยินเรื่องราวของการค้ามนุษย์ หัวใจของผมก็เป็นหนึ่งเดียวกับพวกเขา ในการระดมทุนและความตระหนักในการช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้น

ผมอาจต้องเผชิญกับพายุฝน แสงอาทิตย์แผดเผา ทะเลทรายแห้งแล้ง แต่ผมเชื่อว่า หากผมสามารถช่วยชีวิตเด็กได้แม้เพียงแค่คนเดียวจากการเดินทางครั้งนี้ มันก็คุ้มค่าเพียงพอแล้ว”

France