
ตำรวจรักษาชายแดนบังกลาเทศเฝ้าสอดส่องชาวโรฮิงญาที่หนีข้ามชายแดนจากรัฐยะไข่
ทางการบังกลาเทศจับกุมแล้วผลักดันชาวมุสลิมโรฮีนจาที่อพยพหนีภัยกลับไปเผชิญชะตากรรมที่รัฐยะไข่เมื่อวันอาทิตย์ ทั้งที่เสียงปืนยังดังสนั่น พร้อมรายงานทหารเมียนมายิงขับไล่ชาวโรฮีนจาที่พยายามหนีข้ามชายแดน และข่าวกองกำลังติดอาวุธทั้งฝ่ายโรฮีนจาและชาวพุทธประหัตประหารอีกฝ่าย
ความรุนแรงระลอกใหม่ในรัฐยะไข่ของเมียนมาปะทุขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ที่ผ่านมา เมื่อกองกำลังติดอาวุธชาวมุสลิมโรฮีนจาโจมตีด่านตำรวจและค่ายทหารพร้อมเพรียงกัน 30 แห่ง และเกิดการปะทะดุเดือด รายงานของเอเอฟพีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม 2560 ระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นมากกว่า 100 คนแล้ว
สถานการณ์ความรุนแรงยังทำให้ชาวบ้านทั้งชาวมุสลิมโรฮีนจาและชาวพุทธหรือเชื้อชาติศาสนาอื่นๆ อพยพหนีภัยออกจากพื้นที่แล้วนับหมื่นคน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม 2560 ว่าตำรวจบังกลาเทศได้จับกุมชาวโรฮีนจาไว้ได้ 70 คนเมื่อวันเสาร์ ภายหลังคนเหล่านี้หนีข้ามชายแดนมาจากพื้นที่ติดชายแดนที่มีรายงานว่า ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น ทหารเมียนมาได้ยิงปืนครกและปืนกลขับไล่ชาวบ้าน
อาบุล คาอีร์ สารวัตรตำรวจในพื้นที่ กล่าวว่า พวกชาวบ้านถูกจับกุมได้ภายในดินแดนของบังกลาเทศราว 4 กิโลเมตรจากชายแดน ขณะที่พวกเขากำลังเดินทางไปยังค่ายผู้อพยพที่เมืองคูตูปาลอง ที่ซึ่งมีชาวโรฮีนจาพำนักอยู่ในสภาพแร้นแค้นอยู่แล้วนับหมื่นคน “ทั้ง 70 คนถูกตำรวจรักษาชายแดนจับกุม และถูกผลักดันกลับเมียนมาในเวลาต่อมา” เขากล่าว
อาริฟุล อิสลาม ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนบังกลาเทศ เผยด้วยว่า ในวันอาทิตย์มีชาวโรฮีนจาถูกจับกุมอีก 20 คนภายหลังข้ามแม่น้ำนาฟ และถูกส่งตัวกลับเช่นกัน
มันซูรุล ฮัสซัน ข่าน ตำรวจชายแดนอีกนาย กล่าวว่า ในวันอาทิตย์ยังมีเสียงปืนดังในหลายหมู่บ้านที่อยู่ติดชายแดนของรัฐยะไข่
เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลบังกลาเทศบอกต่อเอเอฟพีว่า พวกเจ้าหน้าที่ในอำเภอคอกซ์บาซาร์ ที่อยู่ติดชายแดนเมียนมาและเป็นที่ตั้งของค่ายอพยพหลายแห่ง ได้รับคำสั่งไม่อนุญาตให้ชาวโรฮีนจา “เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย” กระนั้น พวกผู้นำชุมชนโรฮีนจา, สื่อท้องถิ่น และผู้สื่อข่าวเอเอฟพีกล่าวว่า แม้บังกลาเทศจะลาดตระเวนชายแดนอย่างหนัก แต่ยังมีผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาสามารถข้ามแดนและไปขอพักพิงในค่ายและหมู่บ้านต่างๆ แล้วไม่ต่ำกว่า 3,000 คนนับแต่วันศุกร์
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีในพื้นที่กล่าวว่า มีอย่างน้อย 100 คนที่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก มาถึงค่ายชั่วคราวในเมืองบาบูคาลี พร้อมกับบอกเล่าความโหดร้ายของทหารและกองกำลังชาวพุทธติดอาวุธ รายหนึ่งชื่อโมฮัมหมัด ซาฟาร์ อายุ 70 ปีอ้างว่าชาวพุทธยิงลูกชายของเขา 2 คนตายกลางทุ่ง ผู้อพยพอีกคนเป็นสตรีชื่อราฮีมา คาตุน บอกว่า หลบบนเนินเขาทั้งคืนหลังจากชาวพุทธในหมู่บ้านวางเพลิงบ้านชาวโรฮีนจา หลายคนยังเล่าว่าพวกผู้ชายส่งพวกตนหนีข้ามชายแดน แต่พวกเขาปักหลักอยู่เพื่อต่อสู้กับกองทัพและกองกำลังชาวพุทธ
มีรายงานเช่นกันว่า ทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ ครอบครัวชาวฮินดู 6 คน ซึ่งรวมถึงเด็ก 3 คน และผู้หญิง 1 คน ตกเป็นเหยื่อสังหารโหด ร่างพรุนด้วยรูกระสุนของพวกเขาถูกพบเมื่อวันอาทิตย์และถูกนำส่งโรงพยาบาลเมืองหม่องดอ ญาติของพวกเขาบอกต่อเอเอฟพีว่า ครอบครัวนี้ถูกกองกำลังชาวโรฮีนจายิงเมื่อค่ำวันเสาร์ ระหว่างที่พวกเขากำลังหนีมายังเมืองนี้
อีกด้านหนึ่งข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างวิน เมียต เอ เจ้าหน้าที่รัฐยะไข่ว่า กระทรวงสวัสดิการสังคมได้อพยพชาวบ้านที่ไม่ใช่มุสลิม 4,000 คนออกนอกพื้นที่ไปพักพิงตามวัดและสถานที่ที่ราชการจัดไว้ให้ แต่เขาไม่ได้กล่าวถึงแผนอพยพชาวโรฮีนจา.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " บังกลาเทศไล่โรฮีนจากลับยะไข่ "