องค์การความร่วมมืออิสลามบอกพม่าต้องหารือเพื่อนบ้านแก้วิกฤตผู้ลี้ภัยปกป้องสิทธิโรฮิงญา

รอยเตอร์ – พม่าต้องปกป้องสิทธิของชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮิงญา คำกล่าวของหัวหน้าองค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) วานนี้ (3) และเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าทำงานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม เพื่อแก้ไขวิกฤตผู้ลี้ภัย

ประชาชนราว 75,000 คน ได้หลบหนีไปบังกลาเทศ หลังทหารพม่าเริ่มปฏิบัติการปราบปราม ที่มาพร้อมกับข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการข่มขืน ทรมาน และสังหารโดยกองกำลังรักษาความมั่นคง ในการตอบโต้เหตุโจมตีด่านชายแดนของกลุ่มติดอาวุธโรฮิงญาเมื่อวันที่ 9 ต.ค.

ฝ่ายบริหารของนางอองซานซูจี ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านั้น และปฏิเสธการเข้าประเทศของคณะผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติที่จะเข้าตรวจสอบข้อกล่าวหาโดยระบุว่า จะยิ่งยกระดับความตึงเครียดของสถานการณ์ในรัฐยะไข่

“พม่าควรหารือกับบังกลาเทศ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤต” ยูซุป บิน อะห์มัด อัล-โอตัยมีน เลขาธิการ OIC กล่าว

“เราเรียกร้องให้รัฐบาลพม่ารับรองสิทธิมนุษยชนสำหรับชาวโรฮิงญา พม่าไม่สามารถปฏิเสธสิทธิมนุษยชนของชาวโรฮิงญา และเรายังเรียกร้องให้รัฐบาลพม่ารับรองสิทธิการเป็นพลเมืองสำหรับชาวโรฮิงญาด้วย” อัล-โอตัยมีน กล่าวต่อผู้สื่อข่าวระหว่างการเยือนกรุงธากา เมืองหลวงของบังกลาเทศเป็นเวลา 4 วัน

ในการประชุมหารือนัดหนึ่งกับนายกรัฐมนตรีของบังกลาเทศ เลขาธิการ OIC กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาต้องเกิดขึ้นผ่านการหารือระหว่างผู้นำชาวพุทธจากพม่า และผู้นำมุสลิมจากบังกลาเทศ

“ผู้นำทางศาสนาจากทั้งสองประเทศควรเข้าร่วมในการหารือเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาโรฮิงญานี้” อัล-โอตัยมีน กล่าว

นายกรัฐมนตรีบังกลาเทศ ยังยืนกรานคำร้องของรัฐบาลที่ต้องการให้พม่ารับพลเมืองของประเทศกลับไป ซึ่งเวลานี้มีผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาเกือบ 400,000 คน อาศัยอยู่ในบังกลาเทศ.

ที่มา:MGR Online