ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันเสาร์, 4 พฤษภาคม 2567

ชัยชนะของทรัมป์ ศาลฎีกาอนุมัติชั่วคราวบังคับใช้คำสั่งพิเศษห้าม6ชาติมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐฯ

27 มิ.ย. 2017
444

 

รอยเตอร์ – ศาลฎีกาสหรัฐฯในวันจันทร์(26มิ.ย.) มอบชัยชนะแด่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังอนุญาตให้เขาแบนนักเดินทางจาก 6 ชาติมุสลิมและผู้ลี้ภัยทั้งหมดชั่วคราว สำหรับบุคคลที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับอเมริกา ในขณะเกี่ยวกับก็ยินยอมรับคำอุทธรณ์ของเขาในการจับตาดูเที่ยวบินใกล้ชิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ศาลฎีกาลดขอบเขตคำตัดสินของศาลชั้นและศาลอุทธรณ์ ที่พิพากษาระงับคำสั่งพิเศษของทรัมป์ที่ออกเมื่อวันที่ 6 มีนาคมโดยสิ้นเชิง โดยรับวินิจฉัยการยื่นอุทธรณ์ของรัฐบาลในการพิจารณาครั้งต่อไป

ทั้งนี้ศาลฎีกาจะเริ่มทำการไต่สวนกรณีดังกล่าวในเดือนตุลาคม ซึ่งในระหว่างนี้ ศาลจะอนุญาตให้มีการบังคับใช้คำสั่งห้ามดังกล่าวในบางส่วน ระหว่างที่การพิจารณาคดีกำลังดำเนินไป

คณะผู้พิพากษาอนุมติคำร้องขอฉุกเฉินบางส่วนของรัฐบาล ที่ขอให้คำสั่งมีผลบังคับใช้ทันทีระหว่างการต่อสู้ทางกฎหมาย แต่ศาลบอกว่าคำสั่งแบนจะมีผลบังคับใช้เฉพาะกับชาวต่างชาติที่ไม่มีความสัมพันธ์อย่างแท้จริงกับบุคคลหรือองค์กรใดๆในสหรัฐฯ

ศาลบอกด้วยว่าจะอนุญาตให้บังคับใช้คำสั่งห้ามผู้ลี้ภัยทั้งหมดเดินทางเข้าสหรัฐฯเป็นเวลา 120 วัน เปิดทางให้รัฐบาลคัดผู้ขอลี้ภัยที่ไม่มีความสัมพันธ์กับบุคคลหรือองค์กรสหรัฐฯอย่างแท้จริง ออกจากอเมริกา

เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา ทรัมป์ ลงนามคำสั่งแบนพลเมืองจากประเทศมุสลิมฉบับใหม่ แบนนักเดินทางจาก 6 ชาติมุสลิม ประกอบด้วย ลิเบีย, อิหร่าน, โซมาเลีย, ซูดาน, ซีเรียและเยเมน เดินทางเข้าสหรัฐฯเป็นเวลา 90 วัน และห้ามผู้ลี้ภัยทั้งหมดเดินทางเข้าประเทศเป็นเวลา 120 วัน เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลใช้กระบวนการขัดกรองต่างๆเข้มงวดขึ้น อย่างไรก็ตามมันถูกขัดขวางจากศาลกลางหลายแห่ง ก่อนจะมีผลบังคับใช้ตามแผนในวันที่ 16 มีนาคม

การออกคำสั่งของทรัมป์มีขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อเหตุโจมตีก่อการร้ายจากฝีมือของพวกนักรบอิสลามิสต์ อย่างเช่นในปารีส, ลอนดอน, บรัสเซลส์, เบอร์ลินและเมืองอื่นๆ แต่ฝ่ายเห็นต่างวิจารณ์มันว่าเป็นคำสั่งใจทราม ใจแคบและไม่เป็นอเมริกัน

รัฐฮาวายและกลุ่มโจทก์ในแมรีแลนด์ ซึ่งมีสหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกันเป็นตัวแทน อ้างว่าคำสั่งดังกล่าวละเมิดกฎหมายคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลางและรัฐธรรมนูญที่ห้ามรัฐบาลเลือกปฏิบัติกับศาสนาใดกับศาสนาหนึ่ง ทั้งนี้ศาลอุทธณ์ภาคในเวอร์จิเนียและแคลิฟอร์เนียต่างพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในการห้ามคำสั่งดังกล่าว

ศาลอุทธรณ์ของสหรัฐฯมีคำวินิจฉัยว่าประธานาธิบดีทรัมป์ได้ใช้อำนาจเกินกว่าที่ได้รับมอบหมายจากสภาคองเกรส และคำสั่งของปธน.ทรัมป์ได้ละเมิดบทบัญญัติที่ได้ห้ามการกีดกันทางด้านเชื้อชาติ ขณะที่ปธน.ทรัมป์จะต้องดำเนินการตามกระบวนการเฉพาะในการกำหนดจำนวนผู้ลี้ภัยที่จะเข้าสู่สหรัฐฯในแต่ละปี

ที่มา:MGR Online