สัมพันธ์อิยิปต์-ซาอุฯ ร้าว หลังอิยิปต์โหวตหนุนรัสเซียถล่มอเลปโปเมื่อเดือนตุลา

เผยเบื้องหลังสัมพันธ์ร้าวซาอุดิอาระเบีย-อิยิปต์ หลังอิยิปต์โหวตหนุนหลังรัสเซียในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในการเดินหน้าโจมตีดินแดนอเลปโปทางตอนเหนือของรัสเซีย เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

หลังจากมีรายงานความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย และอิยิปต์ ที่ก่อนหน้านี้ธนาคารกลางซาอุดิอาระเบียได้ประกาศยกเลิกการอ้างอิงค่าเงินอิยิปต์ที่มีปัญหาค่าเงินตกต่ำ และบริษัทน้ำมันแห่งชาติ Aramco ได้หยุดส่งน้ำมันให้อิยิปต์เป็นเดือนที่ 2 ซึ่งสื่อตะวันตกอ้างว่าเกิดจากการที่อิยิปต์พยายามตีจากสหรัฐอเมริกานั้น ล่าสุดทางเครือข่ายเฝ้าระวังตะวันออกกลางรายงานว่า หลังจากการเดินทางเยือนอิยิปต์ของกษัตริย์ซัลมาน แห่งซาอุดิอาระเบีย เมื่อเดือนเมษายนที่สัญญาส่งน้ำมันให้กับอิยิปต์เดือนละ 700,000 ตันต่อเดือนให้กับอิยิปต์

แต่หลังจากเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เมื่ออิยิปต์ได้โหวตหนุนหลังรัสเซียในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในร่างมติเกี่ยวกับซีเรีย ส่งผลให้บริษัทน้ำมัน Aramco ของซาอุดิอาระเบีย ได้แจ้งไปยัง บริษัทน้ำมัน Egyptian General Petroleum Corporation (EGPC) ของอิยิปต์ ในการระงับการส่งออกน้ำมันไปให้

ทึ้งนี้ร่างมติดังกล่าว เว็บไซด์สหประชาชาติรายงานเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมว่า ร่างมติดังกล่าวคือร่างมติที่ฝรั่งเศส และสเปน เสนอต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติให้รัสเซียต้องยุติการโจมตีจังหวัดอเลปโปทางตอนเหนือของรัสเซียโดยทันที พร้อมต้องเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าในพื้นที่ และต้องกำหนดเขตปลอดภัยเพื่อรักษาชีวิตพลเรือน โดยมติดังกล่าวตกไปหลังชาติถาวรใช้สิทธิวีโตร่างดังกล่าว
โดยชาติที่โหวตสนับสนุนร่างมติ 9 ชาติ ประกอบด้วย France, Japan, Malaysia, New Zealand, Senegal, Spain, Ukraine, United Kingdom, United States
ชาติที่โหวตคัดค้านร่างมติดังกล่าว 4 ชาติ ประกอบด้วย China, Egypt, Russian Federation, Venezuela
ส่วนอีก 2 ชาติ งดออกเสียงประกอบด้วย Angola and Uruguay

ที่มา:I-NEWS