ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันพฤหัสบดี, 9 พฤษภาคม 2567

มติกอท.“ฟ้อง” ผู้โจมตีให้ร้าย “กอท.-จุฬาราชมนตรี” ด้วยข้อมูลเท็จ

2016-10-21_03-52-39-720x480

เดอะพับลิกโพสต์ – กอท. มีมติยื่นฟ้องศาล “ชาติ จินดาพล” กล่าวโจมตีให้ร้าย และหมิ่น  จุฬาราชมนตรี – กรรมการกลางฯ  ด้าน เลขาธิการ กอท. ระบุ สังคมมุสลิมรับไม่ได้ กล่าวหาผู้นำด้วยคำรุนแรง ลั่น พิสูจน์กันในศาล

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (กอท.) เปิดเผยว่า ตนได้มอบหมายให้ทนายความดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อดำเนินคดีกับนายชาติ จินดาพล ตามที่คณะกรรมการกลางฯ มีมติเห็นชอบในการประชุมเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา

พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ระบุด้วยว่า กอท. ยังมีมติให้ฟ้องนายชาติ กรณีหมิ่นประมาทจุฬาราชมนตรี ประมุขสูงสุดของมุสลิมในประเทศไทยอีกด้วย โดยตนได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการกลางอิสลามฯ ไปสอบถามเจตนารมณ์ของท่าน หากจุฬาราชมนตรีอนุมัติก็จะดำเนินการไปพร้อมกัน

การยื่นฟ้องดำเนินคดีครั้งนี้ เลขาธิการระบุว่า สืบเนื่องจาก การโพสต์ในสื่อโซเชียลของนายชาติ จินดาพล อันเป็นการโจมตี ให้ร้าย คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดทางศาสนาอิสลาม และนายอาซิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ ตามความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 326 ใส่ความบุคคลอื่นต่อบุคคลที่สามที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้น เสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง มาตรา 328 ความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนต์ ภาพหรือตัวอักษรฯ และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) นำเข้าสู่คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่า บางส่วนหรือทั้งหมด หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

“กรณีของจุฬาราชมนตรี เป็นสิ่งที่มุสลิมรับไม่ได้ที่มีการใช้ถ้อยคำหมิ่นประมาท ไม่ให้เกียรติจุฬาราชมนตรี ซึ่งถือประมุขของมุสลิมในประเทศไทย ทำให้เกิดความเข้าใจผิด และเกิดการดูถูกเกลียดชัง” พล.ต.ต.สุรินทร์ กล่าว

เลขาธิการ กอท. กล่าวว่า สาเหตุการฟ้องร้องนั้น มาจากกรณีที่ นายชาติ  ได้โพสต์ข้อมูลการรับเช็คจากบริษัท ซีพี เอฟ จำกัด (มหาชน) ที่มีการละเมิดเครื่องหมายฮาลาล ซึ่งฝ่ายตรวจการฮาลาลของคณะกรรมการกลางฯ ได้ดำเนินการจับกุมเมื่อปี 2555 และ มีการตกลงค่าปรับจำนวน 20 ล้านบาท โดยผู้โพสต์ระบุว่า กอท.มีการใช้เงินที่ได้มาอย่างไม่โปร่งใส ตรวจสอบไม่ได้ ซึ่งเท่ากับเป็นการกลาวหาว่า กอท.ทุจริต

เลขาธิการกอท. กล่าวว่า สาเหตุการการโพสต์มาจากข้อมูลการรับเช็คจากบริษัท ซีพีเอฟ จำกัด(มหาชน) ที่มีการละเมิดเครื่องหมายฮาลาล ซึ่งฝ่ายตรวจการฮาลาลของคณะกรรมการกลางฯ ได้ดำเนินการจับกุมเมื่อปี 2555 และมีการตกลงค่าปรับจำนวน 20 ล้านบาท ซึ่งในครั้งแรก บริษัท ซีพี จ่ายเช็คมูลค่า 10 ล้าน 2 ใบ ในนามสำนักงานเลขาธิการกอท. ซึ่งเป็นการออกเช็คที่ไม่ถูกต้อง จึงได้ส่งคืนและให้บริษัทส่งเช็คมาใหม่ในนามคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งบริษัทได้ส่งเช็คมาในนามคณะกรรมการกลางฯ จำนวน 20 ล้านบาท แต่ได้มีการมีการใช้เงินอย่างไม่โปร่งใสตรวจสอบไม่ได้ เท่ากับเป็นการกลาวหาว่าทุจริต

“เงินจากฝ่ายตรวจการฮาลาลฯ หรือ จากฮาลาล เข้าบัญชีคณะกรรมการกลางฯ ถูกต้องทั้งหมด สามารถตรวจสอบได้ บัญชีธนาคารของคณะกรรมการกลางฯ มี 3 บัญชี คือ บัญชี ธ.กรุงเทพ ธ.ธนาคารไทยพาณิชย์ และเมื่อมี ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จึงได้เปิดบัญชีกับ ธ.อิสลาม  ทั้งนี้ ตนมาทำงานทุกอย่างทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ ดังนั้นกรณีดังกล่าวจึงขอให้ไปพิสูจน์ กันในชั้นศาล  “ พล.ต.ต.สุรินทร์ กล่าว

ทั้งนี้ ที่ผ่านมารายได้จากส่วนนี้ เราได้นำไปใช้จ่ายเพื่อการกุศลจำนวนมาก อาทิ การสร้างสถานฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดที่ศรีบอยา จ.กระบี่ ใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท การช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบภัย น้ำท่วม ไฟไหม้ หรือ กรณีเรือล่ม รวมทั้งให้ทุนการศึกษาเยาวชน  ซึ่งล่าสุดให้ทุนเด็กเดินทางไปตุรกี 22 คน มีการจัดสรรให้มัสยิดในจังหวัดที่ไม่มีคณะกรรมการการฯ แห่งละ 50,000 บาท จัดสรรให้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด เป็นต้น ซึ่งการใช้จ่ายสามารถตรวจสอบได้ พล.ต.ต.สุรินทร์ ระบุ

เลขาธิการ กอท. ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การจ่ายเช็คเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2555 แต่เพิ่งนำมาโพสต์ โดยนำข้อมูลอันเป็นเท็จ มาบิดเบือน เพื่อหวังดิสเครดิตตน อาจเป็นเพราะตนใกล้หมดวาระการดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กอท. ซึ่งอาจจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง

“ฝากเตือนไปยังพี่น้องมุสลิมที่ได้รับข้อความกรณีอย่าส่ง หรือแชร์ต่อ เพราะจะทำให้มีความเข้าใจผิดในตัวจุฬาราชมนตรี ซึ่งท่านไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อยากให้ช่วยกันรักษาภาพลักษณ์ของจุฬาราชมนตรี  และท่านที่แชร์หรือต่อ อาจมีโดนดำเนินคดีข้อนำเข้าคอมิวเตอร์ฯด้วยข้อความอันเป็นเท็จด้วย” พล.ต.ต.สุรินทร์ กล่าว

ที่มา:พับลิกโพสท์