 |
 |
 |
 |
 |
กำลังทหารของชาดอย่างน้อย 4 นาย และสมาชิกอีก 7 รายของกลุ่มติดอาวุธโบโก ฮารัม จากไนจีเรีย เสียชีวิตจากการปะทะกันข้ามชายแดนในพื้นที่ใกล้ทะเลสาบชาด ในรอบสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
รายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวด้านความมั่นคงในวันอาทิตย์ (25 กันยายน) ระบุว่า เหตุยิงปะทะกันระหว่างทหารของชาดกับกลุ่มโบโก ฮารัม เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ (24) หลังจากที่สมาชิกกลุ่มติดอาวุธจากไนจีเรีย เป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีก่อนต่อเป้าหมายที่เป็นจุดตรวจทางทหารของกองทัพชาดที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากชายแดนของไนเจอร์
ที่ผ่านมา กำลังทหารจากชาดถือเป็นส่วนหนึ่ง ในกองกำลังผสมนานาชาติของประเทศในภูมิภาคที่จัดตั้งขึ้นเพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามของกลุ่มโบโก ฮารัมที่แผ่ขยายออกจากพื้นที่ภาคเหนือของไนจีเรีย และกระจายไหลล้นไปรอบทะเลสาบชาด
ก่อนหน้านี้เมื่อ 29 สิงหาคมทางการชาด ยืนยัน ได้ทำการประหารชีวิตด้วยการ “ยิงเป้า” สมาชิกกลุ่มติดอาวุธโบโก ฮารัม จากไนจีเรียรวม 10 รายรวด
รายงานข่าวซึ่งได้รับการยืนยัน จากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงในรัฐบาลของชาด ระบุว่า มีการประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าสมาชิกจำนวน 10 คน ของกลุ่มติดอาวุธโบโก ฮารัมจากไนจีเรีย ซึ่งการประหารชีวิตดังกล่าว มีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่นักรบโบโก ฮารัม ทั้ง 10 รายนี้ ถูกศาลเฉพาะกิจของทางการชาดตัดสินว่า มีความผิดจริงในข้อหา “ก่อการร้าย”
รายงานข่าวระบุว่า การประหารชีวิตสมาชิกของกลุ่มสุดโต่งจากไนจีเรีย ในครั้งนี้มีขึ้นที่ลานประหารในเขตมัสซาเกต์ ที่อยู่ในความควบคุมของกองทัพชาด ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงเอ็นจาเมนา ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศออกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 60 กิโลเมตร
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทางการชาดมีขึ้นไม่นาน หลังจากที่ทางสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติไนจีเรียออกคำแถลงเตือนให้บรรดานักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวตะวันตก ให้เพิ่มความระมัดระวัง ในขณะใช้บริการที่สนามบินนานาชาติเอ็นนามดี อาซิคิเว ในกรุงอาบูจา หลังหน่วยงานความมั่นคงของไนจีเรียสามารถจับกุมเด็กชายวัย 14 ปีรายหนึ่ง ซึ่งยอมรับสารภาพว่า ทำงานให้กับกลุ่มโบโกฮารัม และถูกส่งให้มาดูลาดเลาความเคลื่อนไหวด้านระบบรักษาความปลอดภัย ภายในสนามบินแห่งนี้
ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมปีนี้ กลุ่มติดอาวุธโบโกฮารัม ที่มีขอบเขตการก่อเหตุรุนแรงทั้งในไนจีเรีย แคเมอรูน และอีกหลายประเทศรายรอบทะเลสาบชาดได้ประกาศสวามิภักดิ์กับกลุ่มดาอิชในซีเรีย ภายใต้การนำของอาบู บาการ์ อัล-บักห์ดาดีที่กำลังแผ่ขยายอิทธิพลอยู่ในอิรัก ซีเรีย และลิเบีย แต่ก่อนหน้านี้มีสัญญาณความแตกแยกในกลุ่มดังกล่าวหลังกลุ่มดาอิชประกาศตั้งผู้นำโบโกฮารัมคนใหม่ ขณะที่ผู้นำเก่าไม่ยอมรับการแต่งตั้งดังกล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงเวลา 6 ปีที่ผ่านมากลุ่มติดอาวุธโบโกฮารัมได้สังหารผู้คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือนไปแล้วไม่น้อยกว่า 13,000 คน ขณะที่อีกราว 1.5 ล้านคนต้องไร้ที่อยู่ เพราะหนีตายออกจากบ้านเรือนของตน
ที่มา:i-News
 |
 |
 |
 |
 |
