หญิงมุสลิมแดนภารตะเผยถูกแก๊งทรชนกล่าวหากินเนื้อ เป็นข้ออ้างรุมโทรม

หญิงมุสลิมชาวอินเดีย อายุ 20 ปี เปิดเผยกับสำนักข่าวบีบีซีว่า ตนเองและเด็กหญิงวัย 14 ปีที่เป็นญาติ ถูกชาย 4 คนเข้ามารุมโทรมขืนใจถึงในบ้าน ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน โดยทรชน 4 คนนี้กล่าวหาว่าเธอกินเนื้อวัว แล้วใช้เป็นข้ออ้างในการข่มขืน แม้ว่าตนเองจะยืนกรานปฏิเสธว่าไม่ได้กินเนื้อก็ตาม

หญิงสาวชาวมุสลิมที่ตกเป็นเหยื่อเปิดเผยด้วยว่า ทรชนกลุ่มนี้ยังทำร้ายลุงและป้าของเธอจนเสียชีวิตในบ้านที่ตั้งอยู่ในเมืองมีวัต รัฐหรยาณา ห่างจากกรุงนิวเดลีของอินเดียไปราว 100 กิโลเมตร โดยคนร้ายยังขู่ว่าจะฆ่าเธอ หากนำเรื่องนี้ไปบอกใคร

บีบีซีรายงานว่า แม้เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นตั้งแต่ 2 สัปดาห์ก่อน ทว่าเพิ่งได้รับการเปิดเผยออกมา และว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นแก๊งทรชนก่อเหตุรุมข่มขืนหญิงสาวชาวมุสลิมในเมืองมีวัตรายนี้ได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวแล้ว และถูกตั้งข้อหาข่มขืนและฆาตกรรม

ด้านนายรามซาน ชอดารี หัวหน้าชุมชนชาวมุสลิมในเมืองมีวัต เปิดเผยว่า ชาวมุสลิมในชุมชนต่างช็อกและหวาดกลัว เพราะเหตุทำร้ายที่น่ากลัวเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชุมชนมุสลิมแห่งนี้ ขณะที่บางคนมองว่าเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นเป็นการวางแผนเพื่อสร้างความขัดแย้งระหว่างชุมชนชาวมุสลิมและชาวฮินดู แต่นายชอดารี อูรังเซ็บ หัวหน้าพรรคภาราติยะ ชนะตะ พรรครัฐบาลอินเดีย ปฏิเสธทฤษฎีนี้ โดยชี้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องของฮินดูหรือมุสลิม และว่า คนที่ก่อเหตุจะต้องถูกลงโทษ ไม่ว่าจะมาจากชุมชนไหน

ทั้งนี้ วัวถือเป็นสัตว์ที่ศักดิ์สิทธิ์และในหลายรัฐของอินเดียมีกฎหมายห้ามฆ่าวัว ขณะที่คดีข่มขืนและคดีความรุนแรงทางเพศเป็นปัญหาที่อยู่ในความสนใจในอินเดียในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลังจากเกิดคดีรุมข่มขืนและฆาตกรรมนักศึกษารายหนึ่งในกรุงนิวเดลีในปี 2555 ส่งผลให้รัฐบาลอินเดียออกกฎหมายต่อต้านการข่มขืนที่เข้มข้นขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังคงมีรายงานผู้หญิงและเด็กตกเป็นเหยื่อถูกทำร้ายทางเพศในอินเดียมาอย่างต่อเนื่อง

ที่มา:มติชนออนไลน์