เหตุร้ายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ปลอดภัยหน้าโรงเรียน ไม่เพียงแค่ทำให้ครอบครัว “เว๊าะบ๊ะ” สูญเสียสมาชิกครอบครัวไปพร้อมกันถึง 2 คนเท่านั้น แต่ชีวิตต่อไปจากนี้ของลูกชายคนโตที่ต้องสูญเสียพ่อและน้องสาวไปในคราวเดียวกันจะอยู่อย่างไร?
จากการบอกเล่า ของผู้ที่ใกล้ชิดครอบครัว ด.ญ.มิตรา. ซึ่งโดยปกติ ด.ญ.มิตรา จะเป็นเด็ก ที ร่าเริง พูดเก่ง ยิ้มง่ายและ มักจะติด สอยห้อย ตามผู้เป็นพ่ออยู่ ตลอดเวลา มาในเช้า วันนี้…น้องตื่นแต่ เช้ากว่า ใครในครอบครัว…เมื่ออาบน้ำแต่งตัวกินอาหารเช้าพร้อมกับน้องชายอีกคน ซึ่งตอนนี้เรียนอยู่โรงเรียนศูนย์เด็กเล็กที่ไม่ห่างมากนักจากโรงเรียนของน้องมิตราเองคือโรงเรียนบ้าน ตาบา…..( สถานที่เกิดเหตุ)
“จะส่งอาเด๊ะ(น้องชาย)ก่อน. หรือจะส่ง ก๊ะรา ก่อนก็ได้” ด.ญ.มิตราเอ่ยบอก คุณพ่อ ขณะที่นั่ง ซ้อนมอเตอร์ไซค์ กับ น้องชายที่มี คุณพ่อเป็นผู้ขับขี่มา ตามถนนอย่าง ช้าๆแบบไม่รีบเร่ง….”ส่งน้องก่อนแล้วกันเดี๋ยวเราจะได้ไปด้วยกันที่โรงเรียนเลย” คุณพ่อพูด เบาๆให้ ด.ญ. มิตรา ฟัง ในขณะที่ตรง ไปยังโรง เรียน ศูนย์เด็กเล็กเพื่อส่งลูกชาย ผู้เป็น น้องของ ด.ญ.มิตราก่อน และนั้นหมายถึงคำพูดสุดท้ายที่พ่อลูกทั้งสองได้พูดกัน….
เวลา 7.45 น.เป็นวินาทีที่พ่อลูกทั้ง สอง ไปถึงหน้าโรงเรียนบ้านตาบา ซึ่งด.ญ.มิตราจัดแจงกระเป๋าเสร็จสับเรียบร้อยมือทั้งสองที่ทำอยู่เป็นประจำทุกวันเมื่อคุณพ่อมาส่งถึงโรงเรียนคือ….“สลาม” ถูกต้องครับเป็นสลามสุดท้ายที่มาพร้อมกับเสียงกึกก้อง ควันฟุ้งฝุ่นตลบอบอวนเป็นบริเวณกว้าง เสียงของคนที่อยู่ในบริเวณนั้นกรีดร้องระงมไปทั่ว ทั้งสองแน่นิ่ง.!!!
และเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ ด.ญ.มิตราพร้อมกับคุณพ่อจากไปอย่างไม่มีวันกลับ…
ในเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายอยู่นั้นทุกคนที่อยู่ไม่ห่างจากตรงนั้น จากสถาน ที่เกิด เหตุพอหายจากอาการ ตกใจก็ ดิ่งเข้าไปช่วยเหลือทันที เพื่อนำส่งผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาล พร้อมทั้งร่างที่ไร้วิญญาณ ด.ญ.มิตราและ คุณพ่อ…
โรงเรียนบ้านตาบาประกาศหยุดการเรียนทันทีเพราะเหตุการณ์ไม่น่าไว้วางใจ……ตามด้วยโรงเรียนอื่นๆที่ อยู่ใกล้ เคียงรวมทั้งโรงเรียนศูนย์เด็กเล็กที่ น้องชายของ ด.ญ.มิตราเรียนอยู่…ซึ่ง ด.ญ.มิตรา เพิ่งไปส่งมา อยู่หยกๆ กับ คุณพ่อ…
คุณครูประกาศให้หยุดการเรียนการสอนด้วยเช่นกันและโทรเรียกผู้ปกครองให้มารับตัวนักเรียนกลับบ้านเป็นการด่วน แต่คุณครูไม่สามารถติดต่อได้กับคุณพ่อของ ด.ญ. มิตรา เพื่อให้มารับน้องชายของด.ญ.มิตรา จนนักเรียนอื่นๆมีผู้ปกครองมารับนักเรียนจนเกือบจะหมดอยู่แล้ว รอจนเวลาสายจึงมีคนมาบอกคุณครู ถูกแล้วครับเพราะความไร้เดียงสาสำหรับในตอนนั้นน้องชายของด.ญ.มิตรา คงไม่รู้หรอก ว่าการที่โรงเรียน ประกาศหยุดการเรียนในวันนี้นั้น เนื่องมาจากเป็นวันการจากลาอย่างไม่มีวันกลับของก๊ะรา(ด.ญ.มิตรา)กับคุณพ่อนั้นเอง…
“ด.ช.พงศภัค เว๊าะบ๊ะ” หรือ “น้องอาซัน” วัย 6 ขวบ นั่งเล่นอยู่กับเพื่อนๆ ภายในบ้านเลขที่ 23/1 บ้านตาบา ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ ท่ามกลางเหล่าผู้ใหญ่มากหน้าหลายตาที่เข้ามาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจและมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสียเบื้องต้น
ด้วยความไร้เดียงสาของเด็กน้อยเวลานี้ แม้จะรับรู้ว่าน้องสาวและพ่อได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ แต่ในบางช่วงเวลาก็ยังเอ่ยและถามถึงน้องสาวและพ่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ความไร้เดียงสานี้ ทำให้ผู้พบเห็นสลดใจและเสียใจต่อสิ่งที่เด็กน้อยต้องเผชิญ
โตขึ้นใครอยากเป็นทหาร ยกมือขึ้น?… สิ้นคำถาม น้องอาซันรีบยกมือขึ้น แสดงตัวชัดเจนอยากเป็นทหารและตำรวจ พฤติกรรมของหนูน้อยสร้างรอยยิ้มปนคราบน้ำตาให้แก่สมาชิกครอบครัวและผู้มาเยือน
โดยเฉพาะ “แมะละ เว๊าะบ๊ะ” ป้าแท้ๆ ของอาซัน ที่ต้องรับหน้าที่เป็นแม่บุญธรรมเพื่อให้เด็กน้อยได้รู้สึกว่ายังมีครอบครัวอยู่เหมือนเดิม ต้องตกอยู่ในสภาพร่างกายและจิตใจบอบช้ำอย่างหนัก ตาที่แดงก่ำบ่งบอกว่าน้ำตาไม่เคยเหือดแห้งตลอด 24 ชั่วโมง ที่ต้องพบกับความสูญเสียในครั้งนี้
ที่มา:southernreports.com
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " คำบอกเล่าของผู้ที่ใกล้ชิดครอบครัว “ด.ญ.มิตรา เว๊าะบ๊ะ” "