ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

พิธีฮัจย์ถูกระงับเกือบ 40 ครั้ง ในหน้าประวัติศาสตร์

พิธีฮัจย์ถูกระงับเกือบ40ครั้งในประวัติศาสตร์ มีเหตุการณ์สำคัญใหญ่ๆ ที่มีบันทึกว่าพิธีฮัจย์ในอดีตถูกยกเลิก

ปี ค.ศ ที่ 865

เกิดการสังหารหมู่ที่ทุ่งอารอฟะห์

เกิดกลุ่มกฏ นำโดยอิสมาอีล บินยูซุฟ หรืออัศศอฟัค ได้ทำการปรปักษ์ต่อราชวงศ์อับบาซียะห์ ที่มีศูนย์กลางการปกครองในอิรัก ทำให้กลุ่มกบฏได้เข้าสังหารฮุจยาต(ผู้แสวงบุญ)ที่กำลังวูกุฟ อยู่ ณ ทุ่งอารอฟะห์ เสียชีวิตจำนวนมาก ทำให้พิธีฮัจย์ในปีนั้นถูกยกเลิก

ปี ค.ศ 940-950

กลุ่มชีอะห์กอรอมีเฎาะห์ ซึ่งเป็นชีอะห์สายหนึ่งของอิสมาอีลียะห์ จากบาห์เรน นำโดยอบูตอเฮร อัลญันนาบี้ ได้นำกำลังพลบุกยึดมหานครมักกะฮ์ เมื่อวันที่8ซุลฮิจยะห์ ชีอะห์พวกนี้ได้เข้าสังหารมุสลิมที่กำลังฎอวาฟและที่กำลังละหมาดในมัสยิดฮะรอม เสียชีวิตกว่า 3หมื่นคน ศพฮุจยาต(ผู้แสวงบุญ)เต็มเกลื่อนมัสยิด ความโหดเหี้ยมของพวกมันยังได้ทิ้งศพลงในบ่อน้ำซัมซัม พร้อมทั้งได้ขโมยหินดำ(อัลฮะญัร อัลอัสวัด)กลับไปยังเมืองฮาซ่า ของบาห์เรนอีกด้วย (ปัจจุบันเมืองนี้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของซาอุดิอารเบีย)

ทำให้ฮัจย์ได้ถูกยกเลิก10ปี จนราชวงศ์อับบาซียะห์ไถ่หินดำคืนจากกลุ่มนี้ เนื่องจากหินดำเป็นสมบัติและทรัพย์สินของกะบะห์ เหตุการณ์ขโมยครั้งนี้ทำให้หินดำตกแตกออกเป็น8ก้อนเล็ก จนถึงปัจจุบัน

ชีอะห์พวกนี้เชื่อว่าการทำฮัจย์เป็นเรื่องนอกรีต จึงได้สังหารฮุจยาตจำนวนมาก

ปี ค.ศ 983

ราชวงศ์อับบาซียะห์(อิรัก) และราชวงศ์ฟาตีมียะห์(อิยิปต์) เกิดความขัดแย้ง แย่งชิงอำนาจทางการเมือง ระหว่างคอลีฟะห์(กาหลิบ)สองรัฐ ทำให้เส้นทางเดินทางของมุสลิมไปทำฮัจย์นั้นยากลำบาก จึงมีการระงับฮัจย์ไปทั้งหมด8ปี มีการอนุญาตให้กลับมาทำอุมเราะห์และฮัจย์ได้อีกครั้งในปี ค.ศ 991

ปี ค.ศ 1831 เกิดโรคระบาด

พิธีฮัจย์ถูกระงับ หลังจากเกิดโรคระบาดที่อินเดีย จนไปถึงมหานครมักกะฮ์(เมกกะ)ทำให้มุสลิม ซึ่งมีรายงานว่ามากกว่า75% ที่อยู่ในมักกะฮ์ เสียชีวิตโดยการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องระงับฮัจย์ปีนั้นเพื่อป้องกันโรคและลดการติดเชื้อดังกล่าว

ปี ค.ศ 1846 – 1858 เกิดอหิวาตักโรค2ครั้ง

ค.ศ1846

เกิดอหิวาตักโรค จากฮุจยาต(ผู้แสวงบุญ) ทำให้ชาวมักกะฮ์เสียชีวิตกว่า1หมื่น5พันคน ทำให้ฮัจย์ถูกระงับในปีนั้น

ค.ศ 1858

เกิดอหิวาตักโรค ครั้งที่สอง มีการแพร่ระบาดในมักกะฮ์เหมือนครั้งแรก ฮัจย์ถูกระงับ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องนำผู้ป่วยไปกักรักษาไว้ที่ค่ายชายฝั่งทะเลแดง
จนหายปกติ

ส่วนเหตุการณ์ปิดมัสยิดและหยุดฎอวาฟ(เดินเวียน)รอบกะบะฮ์ชั่วคราว แต่ไม่ได้ยกเลิกฮัจย์

ปี ค.ศ 1941

เกิดอุทุกภัย ฝนตกหนักท่วมมัสยิดฮะรอมและลานฎอวาฟ ทำให้น้ำท่วมสูงจนถึงขอบประตูกะบะฮ์ ทำให้ช่วงขณะนั้น มีเด็กชายชาวบาห์เรนได้ว่ายน้ำวนฎอวาฟ ที่เคยปรากฎภาพไปทั่วโลก (เขาคือ เชคอาลี อัลเอาวะดี้ อัลลอฮ์ยัรฮัม)

ปี ค.ศ 1958

เกิดไฟไหม้มัสยิดฮะรอม ใช้เวลาหลายวัน กว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้

ปี ค.ศ 1979

ช่วงฮัจย์ เกิดกลุ่มก่อการร้ายบุกยึดมัสยิดฮะรอม มีการพกอาวุธเข้าไป โดยคนร้ายอาศัยจังหวะปลอมตัวด้วยการคลุมผ้าเป็นมัยยิต(ศพ)เข้าไปในมัสยิด จนสุดท้ายได้จับฮุจยาต(ผู้แสวงบุญ)เป็นตัวประกันจำนวนมาก นำโดยญุฮัยมาน อัลอุตัยบี้ ผู้มีความสุดโต่งทางความเชื่อ เนื่องจากกลุ่มนี้ต้องการจะโค่นล้มกษัตริย์ซาอุและราชวงศ์อะลิซาอู๊ตและมองว่าการปกครองของกษัตริย์ซาอุในสมัยนั้น หย่อนยานไม่อยู่ในหลักการอิสลาม ทำให้ญุฮัยมาน ที่มีน้องเขยเขา คืออับดุลลอฮ์ อัลเกาะตานี่ พร้อมพรรคพวกสนับสนุน ซึ่งญุฮัยมานมีความเชื่อหลงผิดไปไกลว่าน้องเขยเขาคนนี้เป็นอิหม่ามมะห์ดี ที่มาฟื้นฟูรัฐอิสลามในยุคสุดท้าย

ญุฮัยมานมีสมาชิกเข้าร่วมประมาณ4ร้อยคน ลงมือบุกมัสยิดฮะรอม เกิดขึ้นเวลาเช้ามืดโดยมีการสั่งปิดประตูเข้าออกมัสยิด ด้วยการยิงตำรวจเฝ้าประตูเสียชีวิต2นายก่อน เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ จากนั้นเกิดความโกลาหล ทั้งลานฎอวาฟหรือในมัสยิเ อิหม่ามมุฮัมมัด อัซซุเบล เป็นอิหม่ามมัสยิดในขณะนั้นพอดี มีฮุจยาตและมุสลิมกว่า1แสนคนติดอยู่ในมัสยิด หลายคนถูกจับเป็นตัวประกัน จากนั้นกลุ่มญุฮัยมานได้นำพลซุ่มยิงขึ้นไปประจำบนเสามัสยิดฮะรอม กองกำลังผู้ก่อการร้ายของญุฮัยมานได้ตรึงกำลังพร้อมอาวุธปืนในมัสยิด ญุฮัยมานประกาศผ่านลำโพงมัสยิดฮะรอม ด้วยการปลุกระดมพลางโจมตีต่อกษัตริย์ และอูลามาฮ์ของซาอุต่างๆนาๆ เพื่อจะได้ในสิ่งที่ตัวเองหวังมาตั้งแต่ต้น สุดท้ายเหตุการณ์ยืดเยื้อ ทางซาอุไม่สามารถจัดการขั้นเด็ดขาดได้ ต้องขอกำลังความช่วยเหลือจากปากีสถานและฝรั่งเศส ใช้เวลาประมาณ 2สัปดาห์ ในการต่อสู้ปะทะกันระหว่างทหารกับกลุ่มก่อการร้าย จนกลุ่มก่อการร้ายของญุฮัยมานเสียชีวิตเกือบทั้งหมด หนึ่งในนั้นคือ อับดุลลอฮ์ อัลเกาะตานี่ ที่อ้างว่าเป็นอิหม่ามมะห์ดีก็ถูกสังหารด้วย ส่วนฮุจยาตทหารซาอุและชาติพันธมิตร เสียชีวิต127คน บาดเจ็บอีก 451คน

สำหรับญุฮัยมานและลูกน้องที่เหลือ67คนถูกจับเป็น ต่อมาโดนสั่งประหารชีวิตทั้งหมด

ปี ค.ศ 1987

กลุ่มชีอะห์ได้ก่อจราจลในเมืองมักกะฮ์ โดยอาศัยช่วงพิธีฮัจย์เป็นชนวนความขัดแย้ง มีการเดินประท้วงใช้สโลแกนการต่อต้านอิสราเอลกับอเมริกาทั่วมักกะฮ์ จนเกิดความวุ่นวาย ซึ่งกลุ่มชีอะห์ได้ถูกทหารซาอุสังหารไป 402คน เป็นชาวอิหร่าน275คน

ปี ค.ศ 2020

เกิดไวรัสโคโรน่า(โควิด19)ระบาดทั่วโลก มัสยิดฮะรอมได้ปิดลานฎอวาฟและระงับบุคคลไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในมัสยิด เพื่อป้องกันและทำความสะอาดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตอนนี้มีการเปิดปิดลานฎอวาฟเป็นช่วงเวลา เพื่อให้มีการฎอวาฟเป็นรอบในช่วงที่ทางการกำหนด

ที่มา https://themuslimvibe.com
https://english.alaraby.co.uk

#Pageรู้จักมุสลิมรู้จักอิสลาม เรียบเรียง