ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

ด้วยศรัทธา..เขาเดินเท้าจากอินโดนีเซียสู่นครมักกะห์เป็นระยะ 1 ปี

 

☪️ #เขาเดินเท้าจากอินโดนีเซียสู่นครมักกะห์เป็นระยะ 1 ปี

เขากำลังเดินทางด้วยแสงสว่างจากหัวใจ แบกกระเป๋าเป้สะพายหลัง ประดับด้วยธงอินโดนีเซียขนาดเล็กและสวมเสื้อที่เขียนว่า “ผมกำลังเดินทางไปสู่มักกกะห์ด้วยการเดินเท้า”

Mochammad Khamim Setiawan วัย 28 ปี จากอินโดนีเซียเดินทางไปนครมักกะห์ จากเมืองเปอกาโลงัน ในจังหวัดชวากลางของอินโดนีเซียโดยเดินเท้าเกือบหนึ่งปีมาแล้ว เขากล่าวว่าตามที่พระคัมภีร์อัลกุรอาน “การเดินเป็นรูปแบบการทำฮัจญ์ที่บริสุทธิ์”

เขาเชื่อและไว้วางใจในพระเจ้า โดยบอกว่า “เราทุกคนบนโลกคือแขกของพระเจ้า” เขาเริ่มเดินทางมากกว่า 9,000 กิโลเมตร ในวันที่ 28 สิงหาคม 2016 การเดินทางโดยไม่มีอะไรเลยนอกจากเสื้อกับกางเกง 2 ชุด ร้องเท้า 1 คู่ ถุงเท้าหนึ่งโหล ชุดชั้นใน ถุงนอน เต็นท์ ไฟฉายแบบพกพา โทรศัพท์สมาร์ทโฟนและ GPS

เขาได้เบื่อหน่ายจากสังคมที่เป็นอยู่ ได้ทิ้งธุรกิจที่อินโดนีเซีย (เขาจบการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่ง Semarang State University และมีบริษัทที่กำลังเป็นที่เฟื่องฟู) เขาเริ่มต้นด้วยเงินรูเปียห์แค่จำนวน 2 ใบที่มีติดตัวเค้าเท่านั้น (เงินประเทศอินโดนีเซีย)

เหตุผลที่สำคัญสำหรับการเดินทางของเขาคือการทดสอบความแข็งแรงทางกายภาพและทางจิตวิญญาณของเขา และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือได้แบ่งปันความรู้สึกทั้ง “ความหวัง ความอดทน และความสามัคคี” “ผมเชื่อว่าการทำฮัจย์ไม่ใช่แค่การพิสูจน์ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับพี่น้องมุสลิม” Mochammad กล่าวว่า “วิธีการของผมคือการจำนนต่ออัลลอฮ (คือการเรียนรู้อิสลามจากนักวิชาการมุสลิมหลายคนและผู้คนที่มีความเชื่อต่างกันเพื่อศึกษาวัฒนธรรมของพวกเขาและปฏิบัติด้วยความอดทน”

“ผมยังทำรูปแบบของญิฮาดมากขึ้นซึ่งเป็นการฝึกวินัยตัวเองและเอาชนะการต่อสู้ทางจิตใจและตราบาป” Mochammad ผู้ซึ่งได้อดอาหารทุกวันยกเว้นในช่วงวันหยุดทางศาสนาในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะเดินทาง Mochammad กล่าวว่าเขาใช้เวลาสองสัปดาห์ในป่าของจังหวัด Banten ในอินโดนีเซียสำหรับการปรับสภาพร่างกาย นอกจากนี้เขายังใช้เวลาหลายสัปดาห์ในมัสยิดเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจ

เพราะเขาอดอาหาร เขาจึงเดินทางเฉพาะในเวลากลางคืนอย่างน้อย 50 กิโลเมตรทุกวันเมื่อเขาอยู่ในสภาพร่างกายที่พร้อม แต่ถ้าเขารู้สึกว่าเข่าของเขาอ่อนล้าเขาจะเดินเพียง 10 – 15 กิโลเมตรต่อวัน แม้จะมีความยากลำบากของการเดินทางแต่เขาเจ็บป่วยเพียงแค่สองครั้งที่อินเดียและมาเลเซีย เขากินอาหารฮาลาลเพียงอย่างเดียวและไม่มีอาหารเสริมใดๆ เขาแค่นำน้ำผึ้งผสมกับน้ำเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับสภาพอากาศที่แปรปรวน เขาบอกว่าเขาไม่เคยพบคนร้ายบนท้องถนน แต่เล่าว่าเขามีประสบการณ์อย่างน้อยสามครั้งที่พบเจอกับงูพิษในป่ามาเลเซีย “แต่มันหน้าเหลือเชื่อ ก่อนที่พวกมันจะกัดผมพวกมันก็ก้มลงและตายไปซะก่อน”

Mochammad กล่าวว่า “ผมไม่เคยขออาหารจากคนอื่น แต่ผมก็มักจะได้เจอกับคนที่มอบอาหารแก่ผมและเสบียงอื่นอีกอยู่เป็นประจำ” เขาเล่าต่อว่า “ผมได้รับการต้อนรับที่ดีงามในวัดของศาสนาพุทธในประเทศไทย ในหมู่บ้านชาวพม่าก็ต้อนรับผมและทำอาหารให้ผมทาน ผมได้ศึกษาและพบนักวิชาการอิสลามจากประเทศต่างๆที่มัสยิดจามาอาห์ Tabligh ในอินเดียและผมก็กลายเป็นเพื่อนกับคนคริสเตียนชาวไอร์แลนด์ที่ขี่จักรยานอยู่ในกรุงย่างกุ้ง

Mochammad เสริมอีกว่า “มันเกิดจากความงดงามของพระเจ้าซึ่งทำให้เกิดความคิดความรู้สึกที่ดี – ไม่มีความรู้สึกที่ย่ำแย่ต่อผู้คนที่ได้พบเจอผม – ถึงกระนั้นผมเองยังสามารถเดินทางต่อไปได้แม้จะไม่มีปัจจัยทางการเงินก็ตาม

ในวันเสาร์ Mochammad จะไปสถานทูตอินโดนีเซียในกรุงอาบูดาบีเพื่อรอวีซ่า จากนั้นเขาจะเดินทางต่อไปยังเมืองมักกะห์ “เป้าหมายของพระองค์ คือการไปถึงเมืองที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของศาสนาอิสลามก่อนวันที่ 30 สิงหาคมปีนี้”

ในขณะเดียวกันกงสุลอินโดนีเซีย Mr. Murdi Primbani กล่าวว่า Mochammad เป็นแบบอย่างสำหรับมุสลิมหนุ่มที่ดีเนื่องจากความอ่อนน้อมถ่อมตน จิตวิญญาณ ความเท่าเทียมและความมุ่งมั่น

ที่มา : Convert to lslam

แปล/เรียบเรียง : Afia Al-Islam