ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

ลือมะกันปรับแผนต่อต้านหัวรุนแรง หันมาเน้นจัดการอิสลามอย่างเดียว

 

เอเจนซีส์ – แหล่งข่าววงใน เผย ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการจะนำโครงการของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เคยถูกออกแบบไว้ใช้ต่อต้านพวกที่มีอุดมการณ์หัวรุนแรงทุกรูปแบบ มาปรับปรุงแก้ไขเพื่อจะเน้นใช้จัดการกับพวกอิสลามหัวรุนแรงแต่เพียงอย่างเดียว

แหล่งข่าวระบุว่า โครงการต่อต้านผู้ที่มีแนวคิดหัวรุนแรง จะถูกปรับปรุงแก้ไขและเปลี่ยนชื่อเป็นโครงการต่อต้านอิสลามหัวรุนแรง และจะไม่เพ่งเล็งไปที่เป้าหมายอื่น อย่างเช่น กลุ่มหัวรุนแรงที่เป็นคนขาว ซึ่งเคยก่อเหตุร้ายในอเมริกา ก็จะไม่ถูกเพ่งเล็งจากโครงการนี้ เพราะจะเน้นไปที่มุสลิมเป็นหลัก

แผนการนี้มีทั้งฝ่ายที่สนับสนุน ว่า จะช่วยให้สามารถมุ่งเน้นความพยายามในการปราบปรามความรุนแรงได้ ส่วนฝ่ายที่แย้งระบุว่า การตีตรา “อิสลามหัวรุนแรง” จะทำให้ชาวมุสลิมใฝ่สันติหลายล้านคนในอเมริกาเกิดความรู้สึกแปลกแยก

การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนนโยบายในการหาเสียงของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และการวิจารณ์อดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามาว่า อ่อนแอในการต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) รวมทั้งยังไม่ยอมใช้วลี “อิสลามหัวรุนแรง” กับไอเอสที่อ้างความรับผิดชอบในการโจมตีพลเรือนในหลายประเทศ

โครงการนี้มีเป้าหมายทำการขัดขวางกลุ่ม หรือบุคคลผู้ก่อเหตุร้าย ผ่านการเป็นพันธมิตร และการให้ความรู้แก่ชุมชนต่างๆ หรือการรณรงค์ด้วยการรับส่งข้อความต่อต้านร่วมกับบริษัท อาทิ กูเกิล และ เฟซบุ๊ก

ฝ่ายสนับสนุนบางคนกลัวว่า การเปลี่ยนชื่อโครงการจะทำให้รัฐบาลมีปัญหาในการขอความร่วมมือจากชาวมุสลิมที่เริ่มไม่ไว้วางใจฝ่ายบริหารชุดใหม่ โดยเฉพาะหลังจากที่ทรัมป์ออกคำสั่งแบนการเดินทางของพลเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิม เป็นการชั่วคราวเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวที่มุ่งเน้นผู้พำนักในสหรัฐฯ และไม่เกี่ยวข้องกับความพยายามของกองทัพในการต่อสู้กับลัทธิสุดโต่งในระบบออนไลน์นั้น ถูกวิจารณ์แม้กระทั่งจากผู้สนับสนุนบางส่วนว่าไร้ประสิทธิภาพ

แหล่งข่าวที่ร่วมงานใกล้ชิดกับกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เผยว่า สมาชิกทีมผ่องถ่ายอำนาจของทรัมป์ กับทีมเฉพาะกิจของโครงการนี้ ได้พบกันครั้งแรกในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา พร้อมนำเสนอแนวคิดในการเปลี่ยนชื่อและเป้าหมายของโครงการ

ต่อมาในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (26 ม.ค.) ซึ่งมีเจ้าหน้าที่อาวุโสของ จอห์น เคลลี รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งมาตุภูมิเข้าร่วมด้วยนั้น มีการขอให้ลูกจ้างรัฐบาลอธิบายเหตุผลในการเลือกองค์กรชุมชนบางแห่งเป็นผู้รับเงินช่วยเหลือของโครงการนี้

แม้รัฐสภาอนุมัติการจัดสรรกองทุนให้โครงการแล้ว รวมทั้งมีการแจ้งรายชื่อผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือในช่วงวันท้ายๆ ของคณะบริหารของอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา แต่เงินจำนวนนั้นยังไม่ได้ถูกปล่อยออกไป แหล่งข่าวยังบอกว่า เคลลี่กำลังทบทวนเรื่องนี้อยู่

อย่างไรก็ตาม ทั้งกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิและทำเนียบขาวต่างปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

สมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาบางคนโจมตีโครงการนี้ ว่า เป็นการพยายามใช้ถ้อยคำสุภาพแต่ไร้ประสิทธิภาพ ทั้งยังอวดอ้างว่าการเลือกปฏิบัติ และการใช้คำว่า “อิสลามหัวรุนแรง” จะช่วยให้สามารถมุ่งเน้นความพยายามในการยับยั้งความรุนแรงได้

ทว่า ยังมีหลายฝ่ายที่แย้งว่า การตีตราด้วยคำว่า “อิสลามหัวรุนแรง” จะทำให้ชาวมุสลิม-อเมริกัน กว่า 3 ล้านคน ที่รักสันติเกิดความรู้สึกแปลกแยก ทั้งนี้ หลายชุมชนไม่ไว้วางใจโครงการนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เนื่องจากเกรงว่าอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือสอดแนมเพื่อการบังคับใช้กฎหมาย

โฮดา ฮาวา ผู้อำนวยการด้านนโยบายสำหรับสภากิจการสาธารณะมุสลิม เผยว่า ได้รับบอกเล่าจากเจ้าหน้าที่โครงการตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วว่า มีการผลักดันเพื่อปรับโฟกัสโครงการ จากเดิมจัดการกับพวกหัวรุนแรงทั้งหมด ให้หันมาเพ่งเล็งแต่เพียงอิสลามหัวรุนแรง ด้านแหล่งข่าวสามคนขานรับว่า มีการถกเถียงเรื่องนี้จริง แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่า การถกเถียงได้ข้อสรุปแล้วหรือยัง

ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารของโอบามาพยายามส่งเสริมความสัมพันธ์กับกลุ่มต่างๆ ในชุมชน เพื่อดึงเข้าร่วมความพยายามในการต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งปีที่แล้วรัฐสภาจัดสรรเงินสนับสนุน 10 ล้านดอลลาร์ให้กับโครงการนี้ ส่วนกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิก็อนุมัติการมอบเงินช่วยเหลือล็อตแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา ก่อนทรัมป์เข้ารับตำแหน่งแค่สัปดาห์เดียว

ที่มา:MGR Online