ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

ท่านญุลัยบีบ ซอฮาบะห์ที่เป็นที่รักของท่านนบี

ท่านญุลัยบีบ. رضي الله عنه เป็นศอหาบะฮฺที่

– ตัวเตี้ย, ผิวดำ

– มีลักษณะทางร่างกายที่ผิดปกติ

– เชื้อสายของเขาไม่เป็นที่รู้จัก

– ไม่มีใครรู้จักพ่อแม่ของเขา

– ไม่มีเผ่าไหนปกป้องเขา

– ไม่มีเผ่าไหนรับเขาเป็นพวก

– ฟันหน้าหลอ

– ท่านถูกทิ้งอย่างโดดเดี่ยวอยู่ในเมืองมะดีนะฮฺ แม้แต่เด็กเล็กๆยังแกล้งเขา และล้อเขา

– เนื่องจากความพิการ ทำให้ไม่มีใครอยากเป็นเพื่อนกับเขา

ท่านเอาตัวรอดเท่าที่สามารถจะทำได้ หลายค่ำคืนอันโดดเดี่ยว เขาใช้ชีวิตอย่างสิ้นหวังบนถนนของเมืองมะดีนะฮฺ

น้ำตามักจะอาบแก้มของเขา ไม่มีผู้ใดปรารถนาที่จะรักหรือเห็นอกเห็นใจเขาเลย ไม่มีครอบครัว ไม่มีแม้แต่เพื่อนคนเดียวอยู่บนดุนยานี้

ชีวิตของเขาต้องต่อสู้กับความโดดเดี่ยว

หลังจากที่ท่านรอซูลุลลอฮฺ ﷺ ได้ฮิจเราะฮฺมายังเมืองมะดีนะฮฺ ชีวิตของญุลัยบีบ رضي الله عنه ก็ได้เปลี่ยนไปด้วยกับความเมตตาของอัลลอฮฺ

เขาเคยไปนั่งร่วมวงกับศอหาบะฮฺของท่านรอซูลุลลอฮฺ ﷺ และฟังอย่างตั้งใจ นานๆทีก็ได้พูดบ้าง เขามักจะประหม่าอายเสมอ

เขา ณ ตอนนั้น ได้มีสหายที่ดีที่สุดคือท่านรอซูลุลลอฮฺ ﷺ วันแห่งความเหงาและเปล่าเปลี่ยวได้หายไป เมื่อสิ่งถูกสร้างที่ดีที่สุด ﷺ ได้ปรากฏตัว

ญุลัยบีบ رضي الله عنه ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในสังคมของบรรดาผู้ศรัทธา

วันหนึ่ง เขาได้นั่งกับบรรดาศอหาบะฮฺ และท่านรอซูลุลลอฮฺ ﷺ ได้ถามเขาว่า: “โอ้…ญุลัยบีบ ฉันขอถามบางสิ่ง เจ้ามีสิ่งใดที่เจ้าต้องการไหม?”

เขาเงยหน้าขึ้นช้าๆ และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แสดงความประหม่าว่า: “โอ้…รอซูลุลลอฮฺ ﷺ อัลลอฮฺได้ประทานพรให้แก่ฉันด้วยกับมิตรไมตรีของท่าน
ฉันได้ออกมานั่งอยู่ใต้เท้าอันประเสริฐของท่าน และได้ยินเสียงอันประเสริฐของท่าน แล้วฉันจะยังต้องการอะไรอีก”

ท่านนบี ﷺ ได้ถามว่า: “เจ้าต้องการที่จะแต่งงานไหม ญุลัยบีบ ?”

ญุลัยบีบ ยิ้มอย่างเขินอาย: “นะอัม, รอซูลุลลอฮฺ ﷺ ฉันต้องการ”

ท่านนบี ﷺ ได้ไปยังบ้านของศอหาบะฮฺผู้ทรงเกียรติท่านหนึ่งจากชาวอันศอรฺ

ท่านกล่าวว่า: “ฉันมาถามหามือของลูกสาวท่านเพื่อแต่งงาน”

ศอหาบะฮฺได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวว่า: โอ้…รอซูลุลลอฮฺ ﷺ พรอันใดจะประเสริฐยิ่งกว่านี้”

ท่านนบี ﷺ ได้กล่าวว่า: “ฉันไม่ได้สู่ขอนางเพื่อนตัวเอง แต่เพื่อ ญุลัยบีบ”

ศอหาบะฮฺตกใจ: “เพื่อ ญุลัยบีบ?” ท่านนบี ﷺ ก็ย้ำ: “ใช่ เพื่อญุลัยบีบ”

เขาก็ตอบว่า: “ขอฉันปรึกษากับภรรยาของฉัน” เขาก็ไปบอกภรรยา: “ท่านรอซูลุลลอฮฺ มาสู่ขอลูกสาวให้กับญุลัยบีบ”

นางก็ร้องไห้และโอดครวญ: “ไม่ๆ ใครก็ได้ แต่ไม่ใช่ ญุลัยบีบ ฉันไม่ยกให้”

เมื่อกล่าวเช่นนั้น ลูกสาวของนางก็เดินมา มันเป็นที่กล่าวว่านางสวยมาก ไม่มีสาวชาวอันศอรฺคนใด จะสง่างามเช่นนาง

นางขี้อายและสงวนตัว จนสามารถพูดได้ว่า เมฆบนท้องฟ้า ไม่เคยเห็นนางถอดฮิญาบ นางมีตักวา และใช้เวลาในกลางวันและกลางคืนทำอิบาดะฮฺ

ลูกสาวก็ได้ถามว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็บอกนางว่าท่านนบี ﷺ มาสู่ขอให้กับญุลัยบีบ

แม่ของนางก็ร้องไห้และคร่ำครวญ ลูกสาวจึงบอกกับแม่ว่า: “โอ้…อุมมี ยำเกรงอัลลอฮฺเถิด ลองคิดถึงสิ่งที่ท่านพูด

มันเป็นการหันหนีจากท่านรอซูลุลลอฮฺ ﷺ โอ้…อุมมี ไม่มีสิ่งใดที่จะยังประโยชน์ต่อบรรดาผู้ศรัทธา

นอกเสียจาก การตัดสินใจของอัลลอฮฺและรอซูลของพระองค์ ได้ตัดสินใจในเรื่องนั้นๆ ท่านคิดหรือว่าท่านรอซูลุลลอฮฺ ﷺ จะกลั่นแกล้งพวกเรา?

มันมีความจำเริญมากเท่าใดในสถานะของญุลัยบีบ ที่อัลลอฮฺและรอซูล ได้มาสู่ขอลูกสาวของท่านให้เขา

ท่านรู้หรือไม่ว่า บรรดามะลาอิกะฮฺเองยังอิจฉา ฝุ่นที่อยู่ใต้เท้าของผู้ที่อัลลอฮฺทรงรัก และรอซูล ﷺ ของพระองค์ได้ส่งญุลัยบีบมายังฉัน

ไม่มีสิ่งใดที่จะเป็นพรยิ่งใหญ่สำหรับฉัน นอกจากสามีที่ท่านรอซูลุลลอฮฺ ﷺ ได้นำมา”

แม่ของนางหยุดร้องและกล่าวว่า: “หยุด! ลูกอย่าพูดอะไรไปมากกว่านี้ แท้จริง ฉันขอเตาบัตตัว และฉันได้เตาบัตตัว 1000 ครั้ง สำหรับเหตุการณ์นี้

ไม่มีใครที่คู่ควรกับเจ้ามากกว่าญุลัยบีบ”

เมื่อวันนิกะหฺได้มาถึง

ท่านอุษมาน และท่านอะลี رضي الله عنهما ได้มอบของขวัญเป็นเงินสำหรับจัดงานวะลีมะฮฺ

ไม่นานนัก ญุลัยบีบ ก็ได้เป็นชะฮีด ท่านออกไปญีฮาด ทั้งๆที่เพิ่งจะแต่งงาน

มีการรายงานว่า ญุลัยบีบ ได้แบกดาบที่ยาวเท่ากับความสูงของเขา ศอหาบะฮฺท่านอื่นประหลาดใจ

เพราะญุลัยบีบมักจะขี้อาย แต่ในยามญีฮาด เขากลับกลายเป็นราชสีห์ บนหลังของท่านไม่มีบาดแผล แสดงให้เห็นว่า ท่านไม่เคยหันหลังให้ศัตรู

ในศอฮีหฺ มุสลิม มีบันทึกว่า:
عَنْ أَبِي بَرْزَةَ، أَنَّ النَّبِيَّ صلى الله عليه وسلم كَانَ فِي مَغْزًى لَهُ فَأَفَاءَ اللَّهُ عَلَيْهِ فَقَالَ لأَصْحَابِهِ ” هَلْ تَفْقِدُونَ مِنْ أَحَدٍ ” . قَالُوا نَعَمْ فُلاَنًا وَفُلاَنًا وَفُلاَنًا . ثُمَّ قَالَ ” هَلْ تَفْقِدُونَ مِنْ أَحَدٍ ” . قَالُوا نَعَمْ فُلاَنًا وَفُلاَنًا وَفُلاَنًا . ثُمَّ قَالَ ” هَلْ تَفْقِدُونَ مِنْ أَحَدٍ ” . قَالُوا لاَ . قَالَ ” لَكِنِّي أَفْقِدُ جُلَيْبِيبًا فَاطْلُبُوهُ ” . فَطُلِبَ فِي الْقَتْلَى فَوَجَدُوهُ إِلَى جَنْبِ سَبْعَةٍ قَدْ قَتَلَهُمْ ثُمَّ قَتَلُوهُ فَأَتَى النَّبِيُّ صلى الله عليه وسلم فَوَقَفَ عَلَيْهِ فَقَالَ ” قَتَلَ سَبْعَةً ثُمَّ قَتَلُوهُ هَذَا مِنِّي وَأَنَا مِنْهُ هَذَا مِنِّي وَأَنَا مِنْهُ ” . قَالَ فَوَضَعَهُ عَلَى سَاعِدَيْهِ لَيْسَ لَهُ إِلاَّ سَاعِدَا النَّبِيِّ صلى الله عليه وسلم قَالَ فَحُفِرَ لَهُ وَوُضِعَ فِي قَبْرِهِ . وَلَمْ يَذْكُرْ غَسْلاً

อบู บัรซะอฺ ได้รายงานว่า: “ท่านรอซูลุลลอฮฺ ﷺ ได้อยู่ในสนามรบ ที่อัลลอฮฺได้ให้ท่านมาหารือกันในเรื่องของทรัพย์สงคราม ท่านกล่าวกับศอหาบะฮฺว่า: “มีใครหายไปบ้างไหม?” พวกเขาตอบว่า: “มีคนนั้นคนนี้” ท่านรอซูลุลลอฮฺ ﷺ ได้ถามอีกว่า: “มีใครหายไปบ้างไหม?” พวกเขาก็ตอบว่า: “มีคนนั้นคนนี้” จากนั้น ท่านรอซูลุลลอฮฺ ﷺ ได้ถามอีกว่า: “มีใครหายไปบ้างไหม?” พวกเขาตอบว่า: “ไม่มีแล้ว” จากนั้นท่านรอซูลุลลอฮฺ ﷺ ก็กล่าวว่า: “แต่ฉันไม่เห็น ญุลัยบีบ!” บรรดาศอหาบะฮฺจึงออกค้นหา และพบว่าเขาได้ถูกสังหาร ร่างของเขายังมีศพอยู่ข้างๆอีก 7 ศพ ท่านรอซูลุลลอฮฺ ﷺ ได้เข้ามาและยืนอยู่ข้างๆ และกล่าวว่า: “เขาสังหารได้ 7 คน จากนั้นเขาก็ถูกสังหาร เขา(ญุลัยบีบ)เป็นของฉัน และฉันเป็นของเขา” ท่านรอซูลุลลอฮฺ ﷺ ได้แบกร่างของเขาด้วยมือ ไม่มีคนใดแบกร่างของเขา นอกจากท่านรอซูลุลลอฮฺ ﷺ จากนั้น ท่านรอซูลุลลอฮฺ ﷺ ก็ขุดหลุมสำหรับเขา และท่านก็วางไว้ในสุสาน และไม่มีการอาบน้ำศพ(เพราะเป็นชะฮีด)”

นี่คือความประเสริฐอันยิ่งใดของศอหาบะฮฺผู้พิการ ญุลัยบีบ رضي الله عنه อิสลามไม่ได้วัดค่าของคนที่รูปร่างหน้าตา หากแต่อีหม่าน ที่จะวัดความประเสริฐของคน ญุลัยบีบ รักอัลลอฮฺและรอซูลยิ่งกว่าสิ่งใด แม้ว่าเขาเพิ่งจะได้แต่งงานกับภรรยาที่สวยก็ตาม

ญุลัยบีบ رضي الله عنه ศอหาบะฮฺที่ไม่มีแม้แต่ชื่อจริงๆของตัวเอง (ญุลัยบีบ เป็นชื่อล้อ ที่ชาวมะดีนะฮฺเรียกมาจากคำว่า جلباب แปลว่า ชุดเล็กๆของผู้หญิง) ไม่รู้จักเผ่าของตนเอง ไม่รู้จักพ่อแม่ของตนเอง กลับกลายเป็นผู้ที่ท่านรอซูลุลลอฮฺ ﷺ ได้กล่าวถึงว่า:

هَذَا مِنِّي وَأَنَا مِنْهُ
“เขาเป็นของฉัน และฉันเป็นของเขา”

ที่มา ชมรม ฅนลมเย็น