ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันเสาร์, 4 พฤษภาคม 2567

หนุ่มน้อยปากีสถานเดินเท้าสู่ความฝัน ทำฮัจญ์ ณ นครมักกะฮ์

อิสลามาบัต – หนุ่มชาวปากีสถาน อุสมาน อาร์ชัต (Usman Arshad) วัย 25 ปี ออกเดินเท้าจากหมู่บ้านโอคาร่า (Okara) ในเมืองปันจาบ สู่ความฝันครั้งหนึ่งในชีวิต ในการประกอบพิธีฮัจญ์ ณ นครมักกะฮ์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย

อุสมานมีสัมภาระเพียงเป้หลัง 1 ใบ และร่มสีดำ 1 คัน พร้อมกับธงชาติปากีสถานที่กลัดติดบนเสื้อเชิร์ต เขาคาดหวังว่าจะเดินถึงนครมักกะฮ์ ทันฤดูฮัจญ์ปี 2023 โดยเริ่มออกเดินทางตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีเวลา 8 เดือนในการเดินทาง โดยผ่านทางประเทศอิหร่าน อิรัก และคูเวต เส้นทางประมาณ 5,400 กิโลเมตร โดยเขาเดินได้เฉลี่ยวันละ 30 – 40 กิโลเมตร

อุสมานเล่าว่า เขาตัดสินใจเดินเท้าไปทำฮัจญ์หลังจากที่เมื่อปีที่แล้ว เขาเดินเท้าไปตามเส้นทางคุนจีรับ (Khunjerab Pass) เพื่อมุ่งไปสู่เส้นพรมแดนระหว่างปากีสถาน – จีน เส้นทางนี้มีความยาว 1,270 กิโลเมตร ใช้เวลา 34 วัน พรมแดนนี้เป็นที่รู้จักกันว่า เป็นจุดผ่านแดนที่สูงที่สุดในโลก หลังจากกลับมาจากการผจญภัยครั้งนั้น เขาตัดสินใจเดินเท้าไปทำมักกะฮ์ เพื่อประกอบพิธีฮัจญ์ ซึ่งเป็นความฝันอันสูงสุดของมุสลิมทุกคน และเขาตัดสินใจเดินเพราะเขารักในการเดิน

เขายังกล่าวว่า เขามีแผนจะไปเยี่ยมเยียนศาสนสถานทั้งในอิหร่านและอิรัก ระหว่างทางไปมักกะฮ์ และว่าการเดินไปในประเทศต่าง ๆ เท่ากับว่า จะได้พบปะผู้คนในประเทศนั้น ๆ ซึ่งเป็นโอกาสที่จะเผยแผ่อิสลามซึ่งเป็นศาสนาแห่งสันติ

เขายืนยันว่า เขาไม่ได้ต้องการมีชื่อเสียง เพียงแต่ต้องการที่จะทำหน้าที่ทางศาสนาให้สำเร็จสมบูรณ์เท่านั้น คาดว่าเขาจะต้องใช้ทุนในการเดินทางประมาณ 6,800 ดอลล่าร์ (ประมาณ 204,000 บาท) ที่เขาและครอบครัวมีพอเพียงอยู่แล้ว อุสมานเตรียมการเดินทางมาประมาณ 1 ปี และได้ร้องขอให้กระทรวงกิจการต่างประเทศเร่งดำเนินการเรื่องวีซ่า และหวังว่าเขาจะได้วีซ่าทันก่อนจะเดินทางถึงประเทศอิหร่าน

สิ่งของที่เขานำไปในกระเป๋าเป้ มีเพียงเสื้อผ้าไม่กี่ชุด โทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่ชาร์จแบตเตอรี่ เพาเวอร์ แบงก์ ร่ม ไฟฉาย ขวดน้ำ และชุดเครื่องเวชภัณฑ์ และหากขาดอะไร เขาก็จะซื้อเอาตามทางเพราะไม่ต้องการแบกสิ่งของไปมาก เนื่องจากอาจจะทำให้เดินช้าลง

อุสมานยังเป็นเป็นนักศึกษาสาขาวิชาสื่อสารมวลชน และเป็นนักทำสื่อดิจิทัล เขาจะโพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางครั้งนี้ลงบนหน้าบัญชีสื่อของเขา เพื่อแชร์กับผู้ติดตามซึ่งมีมากกว่า 50,000 ราย คลิปวิดีโอของเขามีเนื้อหาเกี่ยวกับธรรมชาติ และภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมของเมืองต่าง ๆ ในปากีสถาน ที่เขาได้เดินทางไปพบเห็น รวมทั้งผู้คนที่เขาได้พบ และอาหารที่เขากินตลอดการเดินทาง

ตลอดเส้นทางที่ผ่านไป เขาได้พบปะและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนจำนวนมาก ผู้คนที่ขับรถ หรือเดินผ่านเขา มักจะทักทายและอวยพรให้เขา หลังจากที่ได้เห็นโปสเตอร์ที่แปะอยู่บนเป้ ที่อ่านได้ความว่า “จากโอการ่า ถึงมักกะฮ์ การเดินเท้าเพื่อไปทำฮัจญ์” หลายคนฝากสลามผ่านเขาไปยังมักกะฮ์ หลายคนให้กำลังใจ และว่า การเดินทางของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้เดินตามความฝัน และเขารู้สึกดีใจและภาคภูมิใจที่ได้รับการต้อนรับ และการอวยพรจากผู้คนที่ได้พบเจอ

ตลอดทางที่ผ่าน เขามักจะแวะพักตามบ้านของเพื่อน และญาติในเมืองต่าง ๆ แต่หากไม่มีบ้านคนรู้จัก เขาจะนอนที่มัสยิด หรือโรงแรม และเพราะเขาโพสต์ผ่านสื่อตลอดทาง ผู้คนจึงมักจะติดต่อกับเขาและเสนอที่พัก หรือเลี้ยงอาหาร และหากเดินทางออกจากปากีสถานแล้ว เขาคาดว่าจะพักตามโรงแรม หรือพักแรมตามสถานที่ที่เปิดให้พักแบบกางเต็นท์ และเขาจะเดินทางโดยเครื่องบินในขากลับจากมักกะฮ์

อุสมานไม่ใช่ชาวปากีสถานคนแรกที่เดินเท้าไปยังมักกะฮ์ ก่อนหน้านี้ นายคาร์ลซาดา คาซรัต รัย เคยเดินเท้าจากเมืองการาจีไปยังมักกะฮ์ ในปี 2013 และได้รับการต้อนรับประดุจฮีโร่ หลังจากใช้เวลา 3 เดือนในการเดินทาง

ที่มา: www.gulfnews.com

muslimthaipost.com