ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันเสาร์, 4 พฤษภาคม 2567

อะลีม ข่าน ทายาทเจงกิส ข่าน คนสุดท้ายที่ได้ครองบัลลังก์

อะลีม ข่าน ทายาทเจงกิส ข่าน คนสุดท้ายที่ได้ครองบัลลังก์

เจงกิส ข่าน (Genghis Khan) คือพระนามของจักรพรรดินักรบชาวมองโกลผู้มีชีวิตอยู่ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12-13 พระองค์ทรงเป็นผู้สถาปนาจักรวรรดิมองโกลอันยิ่งใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่กว้างไกลเกือบครึ่งโลก

ทุกดินแดนที่พระองค์ยาตราทัพผ่าน ข่านผู้ยิ่งใหญ่ทรงรับหญิงสาวชาวพื้นเมืองมาเป็นพระสนม พวกนางให้กำเนิดทายาทมากมาย จนนักวิชาการสมัยใหม่ได้ประเมินกันว่าประชากรโลกกว่า 16 ล้านคนในปัจจุบันมีเชื้อสายของเจงกิส ข่าน อยู่ในตัว

แม้ทายาทเจงกิส ข่านจะมีมากสุดจะคะเนจำนวนได้แน่ชัด หากแต่สถานะความเป็นเจ้าหรือผู้ปกครองอาณาจักรของคนเหล่านั้นกลับสูญสิ้นไม่หลงเหลือมาถึงสมัยปัจจุบัน ด้วยดินแดนที่ลูกหลานเจงกิส ข่าน อาศัยอยู่มักเกิดการรบราฆ่าฟัน แย่งชิงอำนาจกันบ่อยครั้ง กอปรกับในศตวรรษที่ 20 ดินแดนเหล่านี้มักตกอยู่ใต้การปกครองของระบอบคอมมิวนิสต์ ทายาทเจงกิส ข่าน จึงถูกล้มล้างหรือปลดจากราชสถานะไปจนไม่เหลือ

ราชวงศ์สุดท้ายที่สืบสายตรงมาจากเจงกิส ข่าน คือราชวงศ์มานกุด (Manghud Dynasty) ที่มีศูนย์กลางการปกครองอยู่ที่ประเทศอุซเบกิสถาน

กล่าวกันว่าต้นตระกูลของพวกมานกุดคือ โนไก ข่าน (Nogai Khan) ลื่อของเจงกิส ข่าน ซึ่งเป็นผู้นำชาวมองโกลในดินแดนรัสเซีย ตัวข่านผู้นี้ได้เข้ารับนับถืออิสลาม ส่งผลให้ทายาทสายสกุลโนไกกลายเป็นมองโกลมุสลิมกันถ้วนหน้า

หลายร้อยปีต่อมา มานกุด (Manghud) ซึ่งเป็นลูกหลานสายหนึ่งของโนไก ข่าน ได้ย้ายถิ่นไปยังอุซเบกิสถาน กลมกลืนไปกับชนชาติอุซเบก แล้วในปี ค.ศ.1785 ชาห์ มูราด (Shah Murad) ได้สถาปนาตนเองเป็น อะมีร (Emir) หรือเจ้านครรัฐแบบมุสลิมที่เมืองบูคารา/บูฆอรอ (Bukhara) เรียกอาณาจักรนี้ว่า เอมิเรตแห่งบูคารา (Emirate of Bukhara)

เอมิเรตแห่งบูคาราดำรงความเป็นเอกราชอยู่ได้ไม่ถึงร้อยปี ก็ตกเป็นดินแดนอารักขาของจักรวรรดิรัสเซีย ถึงอย่างนั้นราชวงศ์มานกุดที่ครองพระยศอะมีรก็ยังมีอำนาจปกครองตนเองมากพอตัว

อะมีรองค์สุดท้ายแห่งเอมิเรตแห่งบูคารา ทรงพระนามว่า มุฮัมมัด อะลีม ข่าน (Muhammad Alim Khan) พระองค์ประสูติเมื่อวันที่ 3 มกราคม ค.ศ.1880 ที่บูคารา เป็นโอรสในอับดุลอะฮัด ข่าน อะมีรองค์ที่ 7 ของราชวงศ์มานกุด

เมื่ออะลีม ข่าน มีพระชันษาได้ 13 ปี พระชนกได้ส่งพระองค์ไปศึกษาด้านการปกครองและการทหารสมัยใหม่ที่กรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมืองหลวงของรัสเซียขณะนั้นเป็นเวลา 3 ปี ก่อนเดินทางกลับมาตุภูมิ รัสเซียได้แต่งตั้งอะลีม ข่าน เป็นรัชทายาทแห่งบัลลังก์เอมิเรตบูคาราในปี ค.ศ.1896

ขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งเป็นรัชทายาท อะลีม ข่าน ได้รับแต่งตั้งให้เป็นทั้งที่ปรึกษาส่วนพระองค์ของพระชนก และเจ้าเมืองต่าง ๆ รวมกันนานนับสิบปี กระทั่งอับดุลอะฮัด ข่าน ได้ถึงแก่พิราลัยในปี ค.ศ.1910 อะลีม ข่าน จึงได้ขึ้นครองราชย์เป็นอะมีรขณะมีพระชันษาได้ 31 ปี

เนื่องจากได้รับการศึกษาแบบตะวันตกมาจากรัสเซีย อะลีม ข่าน ตั้งพระทัยว่าจะปฏิรูปเอมิเรตแห่งบูคาราให้ทันสมัย ทรงประกาศห้ามมิให้ผู้ใดให้ของกำนัลแด่พระองค์ รวมทั้งยับยั้งการรับสินบนในหมู่ข้าราชการ แต่นโยบายเหล่านั้นกลับไม่ได้ผลเท่าที่ควร เนื่องจากกระแสการปฏิวัติของชนชั้นกรรมาชีพกำลังแพร่สะพัดไปทั่วจักรวรรดิรัสเซีย ไม่เว้นแม้แต่ในดินแดนอารักขาเช่นบูคารา ผู้คนแตกออกเป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมกับฝ่ายปฏิวัติ อะลีม ข่าน ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์จึงจำต้องเลือกข้างอนุรักษ์นิยมเพื่อรักษาอำนาจของพระองค์เอง

ท้ายที่สุด อะลีม ข่าน ก็ทรงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เมื่อเกิดการปฏิวัติรัสเซียขึ้นในปี ค.ศ.1917 กองทัพแดงของพรรคบอลเชวิกถูกส่งมาจากมอสโกเพื่อควบคุมเอเชียกลาง เมืองบูคาราถูกตีแตก ส่วนอะลีม ข่าน ถูกถอดจากราชสมบัติในอีก 3 ปีถัดมา

อดีตอะมีรแห่งบูคาราต้องลี้ภัยไปยังกรุงคาบูลของประเทศอัฟกานิสถาน และประทับอยู่ที่นั่นจนถึงแก่พิราลัยในปี ค.ศ.1944 ขณะมีพระชนมายุได้ 64 ปี หลังจากพระองค์แล้ว โลกของเราก็ไม่เคยมีลูกหลานเจงกิส ข่าน คนไหนได้เป็นประมุขของรัฐอีกเลย

เครดิต ก๊อปมาจากห้องไลน์

ดาบแห่งอัลเลาะห์ แอนตี้ไซออนิสต์