ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันจันทร์, 29 เมษายน 2567

ผู้ปกครองไม่มีสิทธิ์บังคับลูกสาวให้เเต่งงาน

ผู้ปกครองไม่มีสิทธิ์บังคับลูกสาวให้เเต่งงาน

ในหะดีษระบุว่า :

إِذَا أَرَادَ الرَّجُلُ أَنْ يُزَوِّجَ ابْنَتَهُ فَلْيَسْتَأْذِنْهَا.

ท่านรอซูลลุลอฮฺﷺกล่าวว่า :

“เมื่อผู้ชายประสงค์ที่จะแต่งงานบุตรสาวของเขา เขาจงขออนุญาตนางเสียก่อน”

(บันทึกโดยอบูยะอฺลา เเละชัยคฺอัลบานียฺให้สถานะศ่อฮีหฺ ใน อัซซิลซิละฮฺ อัศศ่อฮีฮะหฺ : 1206)

ชัยคฺ มุฮัมหมัด บิน ศอลิหฺ อัลอุษัยมีน รอหิมาฮุลลอฮฺ กล่าวว่า :

“นี่เป็นหลักฐานที่ปรากฏชัดว่า ผู้ใดก็ไม่มีสิทธิ์ แม้คนผู้นั้นจะเป็นพ่อ

ที่จะบังคับลูกสาวของเขาให้แต่งงานกับคนที่นางไม่ชอบ

แม้ว่าชายผู้นั้นจะเป็นผู้ที่มีศาสนา และมีมารยาทที่ดีก็ตาม เพราะนางนั้นรู้จักตัวนางดีกว่าใคร

(นูรอะลัดดัรฺบ : 154)

ชัยคุลอิสลาม อิบนุตัยมียะฮฺ รอหิมาฮุลลอฮฺ กล่าวว่า :

“พ่อแม่นั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะบังคับให้ลูกแต่งงานกับผู้ที่เขาไม่ปรารถนา และหากว่าเขาปฏิเสธ

ก็ไม่นับว่าเป็นการอกตัญญูแต่อย่างใด มันเสมือนการบังคับให้ลูกรับประทานในสิ่งที่พวกเขาไม่ชอบ”

(อัลอิคติยารอต : 344)

การห้ามบังคับในที่นี้ ครอบคลุมทั้งลูกชายและลูกสาว

และหากมีคนถามว่า ถ้าลูกสาวต้องการแต่งงานกับคนไม่ดีผู้ปกครองจะทำอย่างไร ?

คำตอบ : วาญิบสำหรับผู้ปกครองที่จะต้องห้ามปรามนาง

หากมีคนถาม ทำไมจะบังคับลูกไม่ได้ ในเมื่อเราเตรียมคนดีไว้ให้ ?

คำตอบ : เพราะท่านนบีﷺห้าม นบีﷺสั่งให้ขออนุญาตนางก่อน

แต่นบีﷺไม่ได้ห้ามที่ผู้ปกครองจะแนะนำคนดี ๆ ให้แก่ลูก หากนางพอใจ ก็แต่งให้นาง

หากนางปฏิเสธ ก็อย่าได้บังคับ ทั้งหมดเพื่อประโยชน์สำหรับตัวของลูกเอง เพราะคนแต่งคือลูกไม่ใช่ผู้ปกครอง

และผู้ปกครองที่รักลูกของเขาจริง ๆ เขาจะไม่บังคับให้ลูกของเขาแต่งงานอย่างเด็ดขาด

แต่เขาจะแนะนำบรรดาคนดีให้แก่ลูกของเขาอยู่เรื่อย ๆ แม้ลูกจะปฏิเสธก็ตาม

ชัยคฺ อับดุลอะซีซ บินบาซ รอหิมาฮุลลอฮฺ ตอบว่า :

“ผู้ปกครองที่บังคับบรรดาลูก ๆ ของเขาให้แต่งงาน จำเป็นที่เขาจะต้องกลับเนื้อกลับตัวเตาบะฮฺกลับไปหาอัลลอฮฺ”

และชัยคฺก็กล่าวอีกว่า “การแต่งงานที่เกิดขึ้นด้วยกับการบังคับนั้น

ถือว่าการแต่งงานนั้นเป็นบาฏิล ใช้ไม่ได้ ไม่ถูกต้อง ใช้ไม่ได้”

(อ้างอิง : นูรอะลัดดัรบฺ , เว็บไซต์อิบนุบาซ)

ข้อควรระวังสำหรับคนเป็นลูก :

ไม่อนุญาตให้ลูกใช้ถ้อยคำที่รุนแรงในการปฏิเสธพ่อแม่ของเขา เพราะนั่นคือการอกตัญญู

มันเป็นการกระทำที่ชั่วช้า แต่ให้ใช้ถ้อยคำที่นิ่มนวล และอ่อนโยนต่อท่านทั้งสอง

นี่คือสิ่งศาสนาได้สอนเอาไว้ ผู้เป็นลูกจำเป็นต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

ดังดำรัสของอัลลอฮฺ ตะอาลา ที่ว่า :

فَلَا تَقُل لَّهُمَا أُفٍّ وَلَا تَنْهَرْهُمَا وَقُل لَّهُمَا قَوْلًا كَرِيمًا

ความว่า : ดังนั้นอย่ากล่าวแก่ทั้งสองว่า อุฟ ! และอย่าขู่เข็ญท่านทั้งสอง

และจงพูดแก่ท่านทั้งสองด้วยถ้อยคำที่อ่อนโยน

(ซูเราะฮฺ อัลอิสรออฺ : 23)

เพิ่มเติม

การเเต่งงานจะต้องได้รับอนุญาตจากฝ่ายหญิงหรือไม่ ?

เเบ่งเป็น 3 สภาพด้วยกัน ซึ่งในเเต่ละสภาพก็จะมีหุก่มที่เเตกต่างกันไป ดังนี้ :

สภาพที่หนึ่ง : ผู้หญิงที่ยังไม่เคยผ่านการเเต่งงาน (โสด) เเละยังเป็นเด็กเล็กที่ยังไม่บรรลุศาสนภาวะ

: กรณีนี้ไม่มีข้อขัดเเย้งใด ๆ เลยว่าบิดาของนางสามารถเเต่งงานนางให้เเก่ชายอื่นโดยไม่ต้องรับอนุญาตจากนาง

เนื่องจากนางไม่มีกรรมสิทธิ์ในการให้อนุญาตในสภาพนี้ (ยังเป็นเด็กเล็ก) เพราะท่านอบูบักรฺ รอฎิยัลลอฮุอันฮุ

ได้เเต่งงานท่านหญิงอาอิชะฮฺให้เเก่ท่านนบีﷺในขณะที่มีอายุได้ 6 ขวบโดยที่ไม่ได้ขออนุญาตจากท่านหญิงเลย

เเละท่านนบีﷺได้ใช้ชีวิตร่วมกับท่านหญิงในตอนที่มีอายุ 9 ขวบ

สภาพที่สอง : ผู้หญิงที่ยังไม่เคยผ่านการเเต่งงาน (สาวโสด) ที่บรรลุศาสนภาวะเเล้ว

: การเเต่งงานในกรณีนี้จำเป็นที่จะต้องได้รับอนุญาตจากนางเสียก่อน เเละการให้อนุญาตของนาง คือ การเงียบของนาง

ดังวจนะของท่านนบีﷺที่ว่า :

“สาวโสดจะยังไม่ถูกเเต่งงานจนกว่าจะขออนุญาตจากนางเสียก่อน”

บรรดาศอหาบะฮฺถามว่า : โอ้ท่านรอซูลุลลอฮฺ ! การอนุญาตของนางเป็นเช่นไร ?

ท่านตอบว่า : “คือการที่นางนิ่งเงียบ”

(หะดีษมุตตะฟะกุลอลัยฮิ)

ดังนั้นจำเป็นที่นางจะต้องอนุญาตเสียก่อน ถึงเเม้ผู้ที่จะเเต่งงานให้นางจะเป็นบิดาของนางก็ตามดังทรรศนะที่ถูกต้อง

สภาพที่สาม : ผู้หญิงที่ผ่านการเเต่งงานมาเเล้ว

: กรณีนี้นางจะไม่ถูกเเต่งงานเว้นเเต่ด้วยกับการอนุญาตของนาง

เเละการอนุญาตของนางจะต้องเกิดขึ้นโดยการเอ่ยปากพูดของนางเท่านั้น

ซึ่งต่างกับสาวโสดที่การอนุญาตของนางคือการนิ่งเงียบ

(อ้างอิง : ตันบีฮาต อะลา อะหฺกาม ตัคตัซษุ บิลมุอฺมินาต ของอัลอัลลามะฮฺ อัลเฟาซาน หน้าที่ : 90)

อิสลามตามแบบฉบับ