
|| 10 คำสอนแด่ลูกชาย ||
1-“ลูกต้องมีศรัทธาที่มั่นคงในอัลลอฮ์ และตายลงในสภาพของผู้ศรัทธา”
นี่คือคำสอนแรกที่ท่านลุกมานสอนลูก (31 : 13)
และเป็นคำสอนท้ายๆ ที่นบียะอ์กู๊บสั่งเสียลูกๆ เอาไว้ (2 :20)
ลูกอย่าได้ตั้งภาคีต่อพระองค์ และอย่าได้ตายลงเว้นแต่ในสภาพที่เป็นมุสลิม
ชีวิตภายภาคหน้าของลูกจะก้าวหน้าแค่ไหนก็ไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้าลูกไม่มีอิสลาม
และชีวิตภายภาคหน้าของลูกจะมืดมนขมขื่นแค่ไหน มันก็จะยังมีคุณค่าเสมอ ถ้าลูกยังมีพระองค์
2-“ลูกต้องตั้งเป้าหมายในชีวิตไว้เลยว่า จะต้องพาตัวเองและครอบครัวให้พ้นจากไฟนรกให้ได้”
วันหนึ่งข้างหน้า ลูกจะต้องเติบโตไปเป็นผู้นำครอบครัวของลูกเมีย
และกลุ่มคนแรกที่อัลลอฮ์สั่งให้ลูกต้องพาให้พ้นนรกให้ได้ ก็คือตัวเองและครอบครัว (66 :6)
ฉะนั้น ลูกอย่าได้เอาการทำงานเพื่อสังคม หรือใครอื่นมาเป็นข้ออ้างให้ตัวเองละเลยคนในครอบครัว
เพราะมันคือความรับผิดชอบแรกของลูก
3-“ลูกต้องมีบุคลิกภาพของผู้นำ”
อัลลอฮ์ให้นิยามว่า “ผู้ชายคือผู้ปกป้องดูแลผู้หญิง” (4:34)
นี่คือหน้าที่สำคัญที่ลูกต้องเอาใจใส่
อย่าเป็นคนเหลาะแหละที่ใช้ชีวิตไปวันๆ อย่างปราศจากความรับผิดชอบ
แต่จะเป็นผู้นำที่ดีต้องทำอย่างไร?
ลูกจงดูตัวอย่างจากผู้นำที่ดีที่สุดของมวลมนุษย์
นั่นคือท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซํลลัม
ท่านรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นเสมอ
แต่เมื่อถึงเวลาต้องตัดสินใจ ท่านก็เด็ดขาด และไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
ท่านอ่อนโยนที่สุดต่อคนใต้ปกครอง
แต่เมื่อถึงเวลาต้องตัดสิน ท่านก็ไม่เคยเห็นแก่หน้าใครนอกจากความถูกต้อง
สุภาพจนใครๆ ต่างรัก แต่ก็มั่นใจในตัวเองจนใครๆ ต้องให้เกียรติ
4-“ลูกจงเอาใจใส่กับการทำหน้าที่มะห์รอมให้ผู้หญิงในครอบครัว”
เพื่อจะเป็น “ผู้ปกป้องดูแลผู้หญิง” ตามที่อัลลอฮ์ให้นิยามไว้
สิ่งแรกๆ ที่ลูกต้องเอาใจใส่ดูแลพวกเธอก็คือเรื่องศาสนา
อย่าปล่อยให้ภรรยา ลูกสาว พี่น้องผู้หญิงหรือแม้แต่แม่ของตัวเองใช้ชีวิตผิดไปจากหลักการ
อย่าละเลยให้พวกเธอเปิดเผยเอาเราะฮ์ อวดแสดงรูปโฉม หรือไปไหนมาไหนตามลำพังกับชายอื่น
ลูกจงจำไว้เสมอว่าการวางตัวของผู้หญิงคนหนึ่งบ่งบอกความใส่ใจในศาสนาที่มะห์รอมของเธอมี
และไม่ใช่เพียงเรื่องศาสนา แต่ภารกิจทางดุนยาต่างๆ ของพวกเธอ ลูกก็ต้องเอารู้เอาชี้
อย่าปล่อยให้พวกเธอเดินทางไกลโดยไม่ได้รับการดูแล
เมื่อพวกเธอเจ็บไข้ได้ป่วย ลูกต้องเป็นคนพาไปโรงพยาบาล และจัดแจงดูแลหาหมอผู้หญิงให้เท่าที่ทำได้
นี่คือความรับผิดชอบที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งพึงมีต่อผู้หญิงในครอบครัวของตัวเอง
5-ลูกจงเป็นคนที่บริหารจัดการด้านการเงินได้อย่างดี
ในอายะฮ์เดียวกันกับที่ยกไปแล้ว (4 : 34)
อัลลอฮ์ได้บอกถึงเหตุผลที่พระองค์แต่งตั้งให้ผู้ชายเป็นผู้รับผิดชอบดุแลผู้หญิงว่า
เนื่องจากพระองค์ได้ให้เขามีคุณสมบัติหลายประการเหนือกว่าเธอ
และ “เนื่องจากเขาได้มอบค่าใช้จ่ายบางส่วนจากทรัพย์ของตัวเองให้เธอ”
การดูแลค่าใช้จ่ายของสมาชิกในครอบครัวจึงเป็นหน้าที่แรกๆ ที่ศาสนาเรียกร้องจากฝ่ายชาย
และเป็นหน้าที่ที่มุสลิมีนจำนวนมากบกพร่อง
ลูกจึงต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ให้มาก
ชีวิตครอบครัวของผู้คนจำนวนมากประสบปัญหาก็เพราะเรื่องเงิน
ฉะนั้นจงดูแลเอาใจใส่ให้คนในครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดี ปลอดจากหนี้สิน และไม่ต้องขอใครกิน
สภาพเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยการเรียนรู้ที่จะมีความฉลาดทางด้านการเงิน
รู้จักบริหารรายรับ-รายจ่าย พัฒนาศักยภาพของตนเอง เก็บออม และใช้จ่ายอย่างเหมาะสม
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่มีในคำสอนอิสลาม
และมันเป็นหน้าที่ที่ลูกต้องใส่ใจเพื่อจะเป็นผู้นำครอบครัวที่มีคุณภาพ
6-“ไม่ว่าอยู่ในสภาพใด ลูกจงทำหน้าที่ของลูกผู้ชายที่ให้เกียรติผู้หญิง และอย่าได้ฉวยโอกาสใดใดจากเธอ”
ตอนที่นบีมูซาระหกระเหินหนีการตามล่าไปถึงเมืองมัดยัน ในสภาพที่หิวโหย หลงทาง โดดเดี่ยว
เมื่อท่านพบหญิงผู้รักนวลสงวนตัวต้องการความช่วยเหลือ ท่านไม่รีรอรที่จะเข้าไปช่วยเหลือเธอ (28 : 23-24)
โดยไม่ฉวยโอกาสอาศํยความช่วยเหลือนั้นเอาเปรียบใดใดต่อเธอ
แม้แต่เมื่อเดินตามไปหาพ่อของเธอ
ท่านยังแสดงความเป็นสุภาพบุรุษด้วยการเดินนำหน้าแล้วให้เธอบอกทางด้วยการโยนก้อนหินมาจากด้านหลัง
เพื่อจะได้ปลอดภัยในการลดสายตา นี่คือนิยามของสุภาพบุรุษที่ลูกพึงยึดเป็นแบบ
คือลูกผู้ชายที่รู้จักหน้าที่ของตัวเอง พร้อมๆกับรู้ขอบเขต
ไม่ใช่คนที่เอาความอ่อนแอของตัวเองเป็นเงื่อนไขที่จะไม่ช่วยเหลือผู้หญิง
และไม่ใช่คนที่เอาการได้ช่วยเหลือผู้หญิงเป็นเหตุผลให้ละเมิดขอบเขตที่พึงมีต่อเธอ
อย่างไรก็ตาม…ถ้าลูกต้องเผชิญหน้ากับผู้หญิงบางประเภทที่อันตราย
ก็จงเป็นเหมือนนบียูซุฟที่พูดความจริงโดยไม่รักษาหน้าคนผิดไม่ว่าใครคนนั้นจะเป็นชายหรือหญิง (12 : 26)
ผู้หญิงมีหลายประเภท เช่นเดียวกับผู้ชาย
ลูกจงดูแลตัวเองให้เป็นผู้ชายประเภทที่ดี สุภาพให้พอที่จะให้เกียรติกับทุกคน
และฉลาดให้พอที่จะรู้เท่าทันคนประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะมาในรูปของชายหรือหญิง
7-“ลูกต้องไปละหมาดที่มัสญิด เมื่อเข้าเวลา”
นี่เป็นกิจวัตรของท่านนบีมุฮัมมัดที่ท่านหญิงอาอิชะฮ์เล่าถึงเอาไว้
เป็นกิจวัตรอันเรียบง่ายแต่ให้ความหมายยิ่งใหญ่มากสำหรับผู้ชายคนหนึ่ง
การไปละหมาดญะมาอะฮ์ที่มัสญิดให้ตรงเวลาเป็นหน้าที่เบื้องต้นในฐานะบ่าวที่ลูกต้องรักษาเอาไว้ให้ได้
แล้วด้วยการรักษาหน้าที่นี้อย่างดี
มันจะสอนให้ลูกรักษาหน้าที่ส่วนอื่นๆของชีวิตได้อย่างดี
8-“พึงเอารู้เอาชี้กับการช่วยเหลืองานในบ้าน”
ในหะดีษบทเดียวกัน ท่านหญิงอาอิชะฮ์ยังเล่าถึงกิจวัตรยามอยู่บ้านของท่านนบีไว้ด้วยว่า
ท่านจะช่วยเหลืองานของสมาชิกในครอบครัว
นี่เป็นซุนนะฮ์สำคัญที่ลูกต้องไม่ดูดาย
เป็นวิถีชีวิตของสุภาพบุรุษต้นแบบที่จะทำให้ชีวิตครอบครัวของลูกง่ายงาม
9-“ในเวลาที่กำลังโกรธ อย่าเพิ่งพูดอะไรออกมา”
อิสลามผูกการเริ่มต้นและการสิ้นสุดของชีวิตครอบครัวไว้ที่คำพูดของฝ่ายชาย
นั่นหมายถึงศาสนาคาดหวังให้มุสลิมีนทุกคนเป็นคนที่มีความรับผิดชอบในคำพูดของตัวเอง
ฉะนั้น ลูกจงเรียนรู้ที่จะจัดการความรู้สึกของตัวเอง
อย่าได้ใช้อำนาจที่ศาสนาให้นี้ไปกับการทำให้คนที่ลูกรักเจ็บปวด เพียงเพื่อระบายความรู้สึกของตัวเอง
จงเป็นคนที่รอบคอบในคำพูด และเป็นนายของมัน
เมื่อลูกเรียนรู้ที่จะจัดการลิ้นตัวเองให้ได้อย่างดี
ลูกจะพบว่าเรื่องอื่นๆ ในชีวิตก็สามารถจัดการได้อย่างดี
10. -“ลูกต้องสนิทสนมกับอัลกุรอาน”
จงตั้งใจไว้เลยว่า อย่างน้อยที่สุด…
ลูกจะต้องเป็นอิมามนำละหมาดให้คนในครอบครัวได้อย่างดี
นี่คือความหมายแรกสุดของ “ผู้นำ” ที่ลูกต้องเป็นให้ได้
นั่นหมายถึงลูกต้องอ่านอัลกุรอานได้ถูกต้อง ท่องจำซูเราะฮ์ใหม่ๆ เสมอ
อย่าหยุดที่จะเรียนรู้ความหมายและใช้ชีวิตตามสิ่งที่ได้รู้นั้น
ไม่มีแหล่งข้อมูลใดจะนำทางลูกไปสู่การเป็นผู้นำครอบครัวที่ประสบความสำเร็จได้ดียิ่งไปกว่าอัลกุรอาน
ลูกจงสร้างชีวิตที่ผูกพันกับอัลกุรอาน เพื่อจะสร้างครอบครัวที่ผูกพันกับอัลกุรอาน
เพราะมันเป็นทางรอดเดียวเท่านั้นของพวกเราทุกคน !
ในอัลกุรอานและซุนนะฮ์ยังมีคำสอนเปี่ยมคุณค่าอีกมากมายสำหรับลูกๆ ของเรา
มาร่วมเรียนรู้ไปพร้อมๆกันใน #เลี้ยงลูกด้วยอัลกุรอาน
คอร์สออนไลน์เจาะลึกกลุ่มอายะฮ์สำหรับใช้ในการอบรมเลี้ยงดูเด็กๆ
ลึกซึ้ง ตรึงใจ นำไปใช้ได้จริง
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " 10 คำสอนแด่ลูกชาย "