
น้ำตาของท่านนบี ตอนที่ 5
[[เพราะอัลกุรอานมีค่ามากกว่าการอวดประชัน]]
พี่น้องที่รักครับ เคยร้องไห้ต่อเนื่องยาวนานที่สุดกี่ชม.?
และที่ร้องไปนั้น เพราะอะไร?
มาดูหนึ่งในการร้องไห้ที่ยาวนานที่สุดของท่านนบีกันครับ…
จากท่านอะฏออฺ กล่าวว่า “ฉันและอุบัยดฺ บิน อุมัยรฺ ได้เข้าไปหาท่านหญิงอาอิชะฮฺ ซึ่งอุบัยดฺได้ถามท่านหญิงว่า
“ช่วยเล่าเรื่องน่าประทับใจที่สุดที่ท่านเห็นจากท่านนบีให้พวกเราฟังหน่อยครับ?
เมื่อท่านหญิงได้ยินนางก็ร้องไห้ และพูดตอบว่า
“ทุกเรื่องราวของท่านนบีนั้นน่าประทับใจ มีคืนหนึ่งเป็นคืนของฉันที่ท่านต้องมาค้างคืนด้วย ท่านได้มานอนข้างฉัน มานอนชิดจนผิวเราสัมผัสกัน และท่านได้พูดว่า
“เธอจะยอมให้พี่ละหมาดเพื่อพระผู้อภิบาลได้ไหม?”
ฉันจึงตอบท่านไปว่า
“ที่ฉันรักมีอยู่ 2 อย่าง รักที่จะอยู่ใกล้ท่าน และรักที่จะให้ท่านได้ทำในสิ่งที่ท่านรัก”
ท่านจึงได้ลุกไปทำน้ำละหมาดโดยใช้น้ำที่น้อยมาก และเริ่มละหมาดตะฮัจจุด
ในขณะที่ท่านละหมาด ท่านร้องไห้จนเคราของท่านชุ่มไปด้วยน้ำตา และเมื่อท่านซุจูด (กราบ) บริเวณที่ท่านซุจูดได้นองไปด้วยน้ำตา จนเมื่อท่านละหมาดเสร็จ ท่านได้มาตะแคงนอนโดยที่ยังร่ำไห้อยู่
จนเมื่อ บิลาล ได้มาขออนุญาตท่านเพื่ออะซาน (ซุบฮฺ) เมื่อเห็นท่านนบีในสภาพดังกล่าว บิลาลจึงถามท่านว่า
“ทำไมท่านต้องร้องไห้ถึงเพียงนี้ ในเมื่อพระองค์อัลลอฮฺไม่เอาผิดท่านทั้งในสิ่งที่ผ่านมาและตลอดไป?”
ท่านได้ตอบว่า
“บิลาลเอ๋ย อะไรจะห้ามฉันจากการร้องไห้ ในเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมานี้ อัลลอฮฺได้ประทานโองการให้แก่ฉัน และความหายนะจะเกิดแก่ใครก็ตามที่อ่านโองการเหล่านี้โดยไม่ได้ครุ่นคิดเกี่ยวกับมัน”
[[แน่นอนในการสร้างฟากฟ้าต่างๆและผืนแผ่นดิน ตลอดจนการให้มีความแตกต่างในช่วงกลางวันและกลางคืน ย่อมเป็นสัญลักษณ์ (โองการ) แก่ผู้มีสติปัญญาที่แท้จริง บรรดาผู้ที่รำลึกถึงอัลลอฮฺทั้งเมื่อขณะที่พวกเขายืน นั่ง และเมื่อพวกเขาเอนสีข้างบนที่นอน พวกเขายังได้ใคร่ครวญถึงการสร้างฟากฟ้าและแผ่นดิน
(เมื่อใคร่ครวญแล้วพวกเขาได้ขอว่า) พระผู้อภิบาลของเรา พระองค์ไม่ได้สร้างสิ่งเหล่านี้อย่างไร้เหตุผล ขอสดุดีต่อพระองค์ โปรดคุ้มครองพวกเราให้รอดพ้นจากไฟนรกด้วยเถิด*
โอ้พระผู้อภิบาลของเรา ผู้ใดที่พระองค์ให้เขาเข้านรก แน่นอนพระองค์ได้ให้เขาพบกับความอัปยศแล้ว และไม่มีการช่วยเหลือใดแก่ผู้ที่อธรรม*
พระผู้อภิบาลของเรา แน่นอนเราได้ยินผู้เรียกร้องเชิญชวนสู่การศรัทธาให้ศรัทธาต่อพระองค์ และเราได้ศรัทธาแล้ว
พระผู้อภิบาลของเรา โปรดยกโทษต่อบาปของพวกเรา โปรดลบล้างความผิดของเรา และโปรดให้เราได้เสียชีวิตร่วมกับคนดีด้วยเถิด …
(ช่วง 10 อายะฮฺสุดท้ายของซูเราะฮฺ อาลิอิมรอน)]]”
บันทึกโดยอิบนุฮิบบาน และชัยคฺอัลบานีระบุว่าเป็นฮะดิษศอฮิฮฺ
เป็นเรื่องเกินจินตนาการของใครหลายคน (รวมตัวผมเอง) ถึงการร้องไห้ยาวนานหลายชั่วโมงที่เกิดจากการใคร่ครวญความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮฺในการสร้างสรรค์สรรพสิ่งรอบตัวเราของพระองค์ ที่ส่งผลให้เกิดความกลัวต่อการลงโทษของพระองค์ผู้ที่สร้างสิ่งต่างในดุนยา เช่นฟากฟ้าและแผ่นดินไว้อย่างน่าอัศจรรย์นี้
นรกจะยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัวเพียงใดกันหนอ???
และด้วยความที่ท่านรู้จักอัลลอฮฺมากกว่าใคร ด้วยความเป็นบ่าวที่รักและยำเกรงต่อพระองค์มากที่สุด ท่านนบีจะคิดถึงอะไรอีกบ้างในขณะที่ท่านอ่านอายะฮฺที่ชวนให้ขนลุกชันและหัวใจสั่นไหวนี้อีก
และอีกมากมายที่พวกเราอยากจะคิดให้ได้ใกล้เคียงกับท่านนบีบ้างซักน้อยก็ยังดี… แต่ด้วยกับดุนยาที่เรายึดมั่นจนสุดตัวนี้ที่ทำให้อายะฮฺเหล่านี้เป็นเหมือนเพียงวลีอีกบทที่เรารีบอ่านให้จบ??
มันน่าคิดที่ว่า คนดีที่ไม่มีทางถูกเอาผิดจากอัลลอฮฺ ถึงกับร้องห่มร้องไห้ถึงเพียงนี้ ด้วยกับโองการไม่กี่บท ในขณะที่คนบาปอย่างพวกเราใจเย็นกับความน่ากลัวของพระเจ้าของเราต่อให้อ่านอัลกุรอานจบทั้งเล่มก็ตาม??
การอ่านอัลกุรอ่าน ควรอ่านเพื่อใคร่ครวญทีละอายะฮฺ แต่พวกเราต่างมีเหตุผลข้ออ้างกันมากมายเหลือเกินที่จะไม่ใคร่ครวญ …
เช่นเดียวกับเรื่องใกล้ตัว อย่างคนข้างเคียงเรา ต้องเป็นสามีแบบไหนกัน ที่ทำให้ภรรยาที่อยู่กินด้วยกันมาอย่างยาวนาน พูดได้เต็มปากว่า “ฉันมีแต่เรื่องที่ประทับใจในตัวเขา”
นี่คือตัวอย่างของคู่รักที่แท้จริงไมใช่หรือ?
คู่รักที่ สามี แม้จะรู้ว่าตนกำลังจะทำความดีที่ยิ่งใหญ่ (คือการละหมาดตะฮัจจุด) แต่ท่านก็ให้สิทธิที่เป็นวาญิบ (สิทธิในยามค่ำคืนของภรรยา) มาก่อน สิทธิที่เป็นซุนนะฮฺ
ท่านให้เกียรติแก่ภรรยาของท่าน โดยที่ท่านไม่ได้อ้างว่า
“ฉันทำเพื่ออัลลอฮฺ เธอจำเป็นต้องยอมฉัน ใครไม่ยอมเท่ากับเป็นเป็นศัตรูต่อพระองค์!?”
เพราะเจ้าของสิทธิที่เราต้องให้ความสำคัญ แน่นอนที่อัลลอฮฺเป็นที่หนึ่ง แต่ก็ยังมีเจ้าของสิทธิบุคคลอื่นอีกที่เราต้องให้ความสำคัญ
และนี่คือ ความงดงามของอัลอิสลามไม่ใช่หรือ??
ชีวิตคู่ที่รักกัน ที่ภรรยารักที่จะอยู่กับสามีและรักที่จะให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขารักโดยเฉพาะเมื่อเป็นสิ่งที่ดี และสามีที่แคร์ภรรยา และคอยให้ความอบอุ่น เช่นการสวมกอด การให้ผิวสัมผัสที่สร้างความอบอุ่น ไม่ใช่เพียงเพราะอารมณ์ทางเพศ ยิ่งอยู่กันนาน เรื่องดีดีเหล่านี้ ยิ่งทำกันน้อยลง …
ฮะดิษเพียงบทเดียวนี้ มีเรื่องให้พวกเราต้องทบทวนตัวเองมากมายนัก
และ ความหายนะจะเกิดแก่ผู้ที่ไม่ได้ใคร่ครวญโองการนี้
น้ำตานี้ของเรามีค่าเพียงใด ใจเราที่ควรรู้ดี
มุสลิมด้วยความเข้าใจ
วัลลอฮุอะอฺลัม
ที่มา Ilyas Waree
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " น้ำตาของท่านนบี "