กษัตริย์บรูไน ตอบโต้พวกตะวันตก

สะดุ้งมั้ยล่ะ…….พวกท่าน…

Sultan Brunei Hassanal Bolkiah พระราชาแห่งบรูไนดารุซซาลาม ได้ออกมากล่าวตอบโต้ตบหน้าบรรดาดารานักแสดงและบรรดาพวกตะวันตกหัวโสโครก ที่มีความคิดในด้านลบต่ออิสลามซ่อนอยู่ในกำพืด ที่ต่างพากันเรียงแถวออกมาต่อต้านการนำกฏหมายชารีอะห์อิสลามมาบังคับใช้เป็นรูปธรรมในประเทศบรูไนดารุซซาลามทั้งปวง ท่านกล่าวอย่างเจ็บแสบว่า …
“… เราอาจจะไม่เก่งกาจในเรื่องกฎหมายของพวกท่าน และเราก็อาจจะไม่เก่งกาจในเรื่องกฎหมายของเรามากนัก แต่ว่านี่คือประเทศของเรา เหมือนๆกับที่พวกท่านที่สมยอมให้วัฒนธรรมเกย์ (รักร่วมเพศ) เป็นที่ยอมรับอย่างอุบาทว์ในสังคมของพวกท่าน และพวกเราก็เลือกที่จะปฏิบัติตนตามแนวทางแห่งมุสลิมของเราทั้งในโลกนี้และโลกหน้า พวกเราเป็นหนึ่งในประเทศอิสลามที่จะบังคับใช้กฎหมายอิสลามให้เป็นรูปธรรมให้ได้

ทำไมพวกท่านไม่ห่วงใยเกี่ยวกับชะตากรรมของลูกหลานของพวกท่านที่ถูกมือปืนบุกเข้ายิงถึงในโรงเรียนของพวกเขา ทำไมไม่ห่วงใยเกี่ยวกับอาชญากรรมที่กำลังลุกลามเพิ่มขึ้นแบบไม่อาจยับยั้งได้ จนทำให้อาชญากรในประเทศของพวกท่านนั้นล้นคุก ไปจนไม่มีที่จะคุมขังแล้ว

ทำไมพวกท่านไม่ห่วงใยเกี่ยวกับคดีการฆ่าตัวตายเพื่อหาทางออกให้กับชีวิตอันเนื่องมาจากการว่างงาน เพราะปัญหาเศรษฐกิจของพวกท่าน ทำไมพวกท่านไม่หันไปดูปัญหาการตั้งท้องก่อนแต่งและคดีการทำแท้งเถื่อนในประเทศของท่านที่มีอยู่อย่างล้นหลาม และทำไมพวกท่านถึงไม่ยอมหันไปห่วงใยเกี่ยวกับปัญหาวิกฤติอะไรก็ตามที่พวกท่านจำต้องห่วงใยในประเทศของท่านอีกมากมาย
ทำไมพวกท่านถึงต้องเป็นเดือดเป็นร้อนวิตกกังวลในสิ่งที่จะเกิดขึ้นในประเทศอิสลามทั้งหลายนักหนา ในขณะเดียวกันนั้น พวกท่านไม่ยอมแม้แต่จะเหลียวมอง ไม่เคยรับรู้ ในสิ่งที่กำลังดำเนินและเป็นไปอย่างสุดอธรรมโหดร้ายในดินแดนซีเรีย โรฮิงญา ฟิลัซฏีน และชะตากรรมของมุสลิมในส่วนอื่นๆของอีกหลายประเทศ มุสลิมมากมายกำลังถูกเชือดเฉือนสังหารที่นั่น แต่ทำไมพวกท่านไม่ยอมไปให้ความสำคัญในสิ่งที่ท่านต้องให้ความสำคัญเยี่ยงนั้น

ณ ยามนี้ยังไม่มีใครสักคนเลยที่ถูกประหารชีวิตภายใต้กฎหมายชาย์รีอะห์อิสลามที่นี่ แต่พวกท่านทำเสมือนว่าสิ่งนี้นั้นเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่นักหนา ในขณะเดียวกันผู้คนในประเทศของเราที่นี่ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงนั้น กลับน้อมรับกฏหมายชารีอะห์อิสลามนี้ด้วยความสงบนิ่งยิ่งนัก ต่างก้อตอบรับด้วยดี
แม้นว่ากฎหมายนี้ ดูๆแล้ว มันดูเหมือนอาจจะหนักหนาและแข็งกร้าว แต่มันมิได้หมายความว่า มันจะถูกนำไปบังคับใช้อย่างง่ายดายตามอำเภอใจใคร หลากหลายกระบวนการจำเป็นต้องดำเนินการอย่างรอบคอบรอบด้าน ก่อนที่จะถูกนำไปบังคับใช้ แต่พวกเราทั้งหลายก็สามารถน้อมรับกฎหมายชารีอะห์อิสลามนี้ด้วยความเต็มอกและภาคภูมิใจยิ่งนัก
ในเบื้องต้นนั้น กฎหมายชารีอะห์อิสลามนี้ได้เน้นหนักทางด้านโทษทางด้านการปรับและการคุมขังสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนข้อห้ามที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ เช่น เจตนาที่ไม่ยอมไปละหมาดวันศุกร์ และการล่วงประเวณี และการตั้งครรภ์ที่นอกเหนือการนิกะห์(แต่งงาน)ทั้งหลาย

ในขั้นตอนที่สองต่อไปนั้น อินชาอัลลอฮฺ เราจะออกกฏหมายที่ว่าด้วยการลักขโมยทรัพย์และการปล้นทรัพย์ ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปลายปีนี้
ในขั้นตอนที่สามนั้น โทษต่างๆจะเพิ่มความเข้มข้นออกมามากขึ้น เช่น ตัดอวัยวะต่างๆของร่างกาย และการโบยตีจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปลายปีต่อไป และอินชาย์อัลลอฮฺ กฎหมายว่าด้วยการ “ริยัม” ( โทษผู้ล่วงประเวณี ) จะถูกบังคับใช้สำหรับผู้ที่ประพฤติชู้และล่วงประเวณีทั้งหลาย

ที่มา แนวทาง อุลามาอฺ อะหฺลุซซุนนะห์