พึงระวัง การใส่ร้ายที่เราไม่รู้ตัว

พึงระวัง การใส่ร้ายที่เราไม่รู้ตัว

ในยุคสมัยของท่านอิหม่ามมาลิก มีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมีพฤติกรรมที่ไม่ดี เธอมักจะนอนกับผู้ชายและไม่เคยปฏิเสธคําเชิญของผู้ชาย (โสเภณี) อยู่มาวันหนึ่งเธอก็ได้เสียชีวิตลง ในขณะที่สตรีคนหนึ่ง ซึ่งทำงานเป็นคนอาบน้ำและจัดการศพ กำลังอาบน้ำศพอยู่นั้น ทันใดนั้นเอง มือของสตรีที่อาบน้ำศพก็ติดแน่นอยู่กับร่างของศพผู้หญิงคนั้น

ชาวบ้านและบรรดาผู้รู้อุลามาอ์ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากมือของสตรีที่อาบน้ำศพติดแน่นกับศพหญิงจนคนที่อยู่ในที่นั้น ไม่รู้จะทำยังไงดีที่จะให้มือของสตรีที่อาบน้ำนั้นหลุดออกจากศพ

จึงได้มีคำแนะนำ ให้แนวคิดต่างๆนานาเพื่อแก้ปัญหานั้น ในที่สุด ก็มีคำแนะนำอยู่สองอย่างที่ดูแล้วน่าจะแก้ไขได้ แต่ทว่าเป็นเรื่องที่หนักมากถ้าจะทำ

ประการแรกคือ ให้ตัดมือของสตรีที่อาบน้ำศพ

และประการที่สองคือ ให้ฝังไปทั้งสองคนพร้อมกันเลยในหลุมเดียวกับญ่ะนาซะห์นั้น

และเนื่องจากข้อเสนอทั้งสองอย่างนั้น ไม่เป็นที่ยอมรับ ดังนั้น จึงได้มีคนๆหนึ่งได้เสนอให้ไปถามความคิดเห็นของท่านอิมามมาลิก

ท่านอิมามมาลิก มิใช่คนธรรมดาที่จะออกฟัตวาง่ายๆ เมื่อท่านอิมามมาลิกได้เดินทางมาถึง และได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ท่านอิมามมาลิกจึงได้ถามกับสตรีที่อาบน้ำศพคนนั้นว่า
“เธอเคยทำหรือกล่าวหาอะไรบ้างมั๊ยต่อศพหญิงนี้ในขณะที่อาบน้ำศพ?”

สตรีที่อาบน้ำศพคนนั้นก็ได้กล่าวอย่างจริงจังว่า ตนเองไม่ได้ทำอะไรหรือพูดอะไรกับศพนี้เลย

หลังจากที่ได้เค้นถามประกอบกับสตรีที่อาบน้ำคนนั้นก็กลัวว่ามือของเธอจะถูกตัดหรือถูกฝังไปกับศพหญิงที่เธออาบน้ำให้
ในที่สุด สตรีที่อาบน้ำศพจึงได้ยอมบอกสิ่งที่เธอทำกับศพหญิงว่า

“กี่ครั้งกี่หนแล้วที่ร่างนี้ได้ทำซินาพร้อมกับตบตีร่างศพหญิงหลายต่อหลายครั้ง”

ท่านอิมามมาลิกจึงได้กล่าวว่า “ตกลงเธอได้ทำการ กอซอฟ (กล่าวหาทำซินา) แก่หญิงคนนั้น ทั้งๆที่เธอมิได้มีพยานรู้เห็น 4 คน และในสภาพการณ์เช่นนี้ เธอจะหาพยายานมาจากไหนได้? ดังนั้น เธอจึงสมควรที่จะถูกลงโทษ ฮูดู๊ด ด้วยการถูกเฆี่ยน 80 ครั้ง เนื่องจากได้ทำการกล่าวหาคนอื่นทำซินาโดยปราศจากพยาน 4 คน

ในขณะที่สตรีที่อาบน้ำศพถูกลงโทษด้วยการถูกเฆี่ยนนั้น อยู่ๆ พอถึงการเฆี่ยนครั้งที่ 80 ด้วยกับอนุมัติจากอัลลอฮ์ มือของเธอก็หลุดออกจากศพหญิงทันที

#บทเรียน :
จงระวังปาก ระวังคำพูดคำจา รวมถึงนิ้วที่ใช้พิมพ์ข้อความใดๆ เพื่อการเผยแพร่ฟิตนะห์
อย่าได้อคติคิดร้ายใดๆกับอำนาจความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮ์ แม้ว่าเราจะรู้ว่าสตรีคนหนึ่งเป็นโสเภณีทำงานขายตัวก็ตาม แต่ถ้าเรายังไม่เคยเห็นพฤติกรรมของนางกับสายตาเราที่นางทำซีนา ก็จงอย่าได้กล่าวหานางอย่างเด็ดขาด หวังว่าเรื่องราวของอิมามมาลิก และผู้กาฝั่นมัยยัตนี้ จะเป็นบทเรียนให้กับเราทั้งหลาย
ด้วยเหตุนั้นเอง พึงสังวรเถิด เมื่อใดที่เราทำการใส่ร้ายป้ายสี แพร่ข่าวร้ายข่าวไม่ดีในสังคม ในประเทศชาติบ้านเมือง ทั้งๆที่เราก็ยังไม่ได้เห็นกับตาต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่มีพยานใดๆมายืนยัน ดังนั้น จงระวังไว้ให้ดีเถิด สักวันหนึ่ง เราเองก็จะได้รับผลกรรมตอบแทนอย่างสาสม แม้ว่าเรื่องนั้นมันจะผ่านไปแล้วก็ตาม ระวังให้ดี อย่าเผลอไปติดกับดักกับบรรดาเข็มแห่งความชั่วร้าย

ที่มา Arkom Somnas