
นั้าตาและเสียงร้องไห้
แปลสรุปโดย อ.มัสลัน มาหะมะ
มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
บทความนี้เป็นบทวิเคราะห์ของอิบนุลก็อยยิม รอฮิมะฮุลลอฮฺที่มีความลุ่มลึกและละเอียดอ่อนที่ได้รับกลั่นกรองจากรัศมีแห่งอีมานและทางนําแห่งความรู้ของอุละมาอฺนามอุโฆษยุคศตวรรษที่ 8 ฮศ.ผู้นี้อยากให้ทุกท่านดื่มด่ ากับบรรยากาศแห่งความรู้ เพื่อเติมเต็มอีมานที่กําลังร่อยหรอลงไปทุกวัน ให้กลับมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
อิบนุลก็อยยิม รอฮิมะฮุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า
การร้องไห้ของมนุษย์เรา น่าจะมาจากสาเหตุหลัก 10 ประการ ได้แก่
1. ร้องไห้เพราะรู้สึกสงสารคนอื่น
2. ร้องไห้เพราะหวาดกลัวและวิตกกังวล
3. ร้องไห้เพราะเสียใจ
4. ร้องไห้เพราะรักและห่วงใย
5. ร้องไห้เพราะดีใจ
6. ร้องไห้เพราะได้รับความเจ็บปวด
7. ร้องไห้เพราะท้อแท้ สิ้นหวังหรือหมดกําลังใจ
8. ร้องไห้เพราะเสแสร้งหรือแกล้งร้อง หากแกล้งร้องที่มาจากหัวใจที่อ่อนโยนและมีความเกรงกลัวอัลลอฮฺแล้ว ถือเป็นการร้องไห้ที่น่ายกย่อง แต่หากแสร้งร้องเพื่อต้องการโอ้อวดหรือเอาใจมนุษย์ด้วยกันก็ถือเป็นการร้องไห้ที่น่าตําหนิ
9. ร้องไห้เพราะถูกจ้างให้ร้อง
10. ร้องไห้เพราะคล้อยตามคนที่ร้องไห้อยู่แล้ว
ความแตกต่างระหว่างการร้องไห้เนื่องจากเสียใจกับการร้องไห้เพราะหวาดกลัวและวิตกกังวลนั้น การร้องไห้เนื่องจากเสียใจ จะเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์อันเลวร้ายได้ผ่านไปแล้ว แต่การร้องไห้เนื่องจาความวิตกกังวลจะเกิดขึ้นด้วยการคาดการณ์ว่าสิ่งนั้นอาจเกิดขึ้นในอนาคต ส่วนความแตกต่างระหว่างการร้องไห้เพราะดีใจกับการร้องไห้เพราะเสียใจนั้น นํ้าตาแห่งความดีใจจะเย็นฉํ่าและหัวใจมีความสุขเบิกบาน แต่นํ้าตาแห่งความเสียใจจะอุ่นร้อนในขณะที่หัวใจทุกข์ระทม“และแท้จริงพระองค์ทรงท้าให้หัวเราะและทรงท้าให้ร้องไห้” (อันนัจมุ,53 : 43)
อัลลอฮฺเป็นผู้ทรงท าให้ผู้คนหัวเราะและร้องไห้พร้อมทรงบันดาลเหตุปัจจัยที่ทําให้บุคคลได้หัวเราะและร้องไห้เช่นเดียวกัน หยาดน้ าตาอันมากมายที่ไหลรินอยู่บนโลกนี้และไหลอาบแก้มผู้คนอย่างต่อเนื่อง ต้องมีสาเหตุและเบื้องหลังอย่างแน่นอน ถึงแม้นัยน์ตาจะมีขนาดเล็ก แต่ก็สามารถผลิตนํ้าตาที่ไม่เคยแห้งเหือด มันจะไหลพรั่งพรูออกมาทุกวันอย่างไม่ขาดสาย เสมือนแม่นํ้าที่ไหลสู่มหาสมุทรอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีวันหมด หากมีการเก็บกักนํ้าตาแล้วไซร้ คงจะเกิดนํ้าตาท่วมโลกอย่างมิต้องสงสัย
การร้องไห้ในบางกรณีก็สมควรแก่การชื่นชมสนับสนุน เช่นร้องไห้เพราะเสียใจต่อความผิดพลาดในอดีตหรือเกรงกลัวการทรมานของอัลลอฮฺ แต่ในบางกรณีก็น่าตําหนิและไม่เป็นที่สนับสนุน เช่น การร้องห่มร้องไห้เนื่องจากสูญเสียคนรักในลักษณะรําพึงรําพัน ถึงขนาดตบตีใบหน้า ทําร้ายร่างกายหรือฉีกเสื้อผ้า การร้องไห้ในลักษณะนี้ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของชนยุคอวิชชา ดังนั้น
– เจ้าอย่าร้องไห้เนื่องจากผิดหวังในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพราะทุกอย่างพระองค์ได้กําหนดเป็นที่แน่นอนแล้ว
– เจ้าอย่าร้องไห้เนื่องจากถูกปฏิเสธความรักจากคนพิเศษ เพราะเขาหรือเธออาจไม่ใช่เนื้อคู่ที่แท้จริงก็เป็นได้
– เจ้าอย่าร้องไห้เนื่องจากคะแนนข้อสอบไม่ได้ดั่งใจหวัง บางทีเจ้ายังใช้ความ พยายามอุตสาหะที่ไม่ดีพอ
– เจ้าอย่าร้องไห้เพราะไม่มีใครคบค้าสมาคมด้วย เพราะบางทีเจ้าไม่ค่อยมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีพอกับคนเหล่านั้น
– เจ้าอย่าร้องไห้เนื่องจากทรัพย์สินเงินทองสูญหายหรือถูกขโมย บางทีเจ้าอาจไม่ค่อยชอบบริจาคทานก็ได้
– เจ้าอย่าร้องไห้เนื่องจากต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคร้ายที่รุมเร้า บางทีมันเป็นสาเหตุให้เรากลับเนื้อกลับตัวหรือเพิ่มพูนผลบุญก็ได้
– เจ้าอย่าร้องไห้อย่างบ้าคลั่งกับชัยชนะที่ได้รับ บางทีมันเป็นแค่การทดสอบของอัลลอฮฺว่าเจ้าจะรู้จักขอบคุณพระองค์มากน้อยเพียงใด
– เจ้าอย่าร้องไห้เพื่ออื่นใดเว้นแต่เกรงกลัวอัลลอฮฺ เสียใจต่อความผิดพลาดในอดีตหวาดกลัวการโทษทัณฑ์ของพระองค์และความวุ่นวายของวันกิยามะฮฺ เพราะนํ้าตาของเจ้ามีคุณค่าเกินกว่าที่จะมัวหลั่งรินกับสิ่งไร้สาระและไม่จีรัง
การร้องไห้ของนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว ะสัลลัม ก็มีลักษณะที่คล้ายคลึงกับการหัวเราะของท่าน กล่าวคือท่านจะกลั้นเสียงร้องไห้เสมือนที่ท่านกลั้นเสียงหัวเราะ ท่านร้องสะอื้นด้วยนํ้าตาที่อาบแก้ม จนกระทั่งผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับท่านได้ยินเสียงสั่นเครือที่ดังขึ้นจากทรวงอกของท่านเสมือนเสียงนํ้าที่กําลังเดือดบนเตาไฟ
นบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ระบุ คน 7 ประเภทที่สามารถพึ่งพิงร่มเงาใต้อะรัชในวันกิยามะฮฺ หนึ่งในนั้นคือผู้ที่รําลึกอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา เพียงคนเดียวและนํ้าตาของเขาไหลอาบแก้มเนื่องจากเกรงกลัวอัลลอฮฺและเสียใจต่อความผิดพลาดของตนในอดีต
Al-Kandi รอฮิมะฮุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า นํ้าตาที่หลั่งออกมาเนื่องจากเกรงกลัวอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา สามารถดับทะเลไฟนรกได้ ท่านอิบนุอับบาส รอฎิยัลลอฮุอันฮุมา ได้รายงานจากนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมว่า นัยน์ตาสองประเภทที่จะไม่ถูกไฟนรกสําผัสได้ คือ
1) นัยน์ตาที่ร้องไห้ช่วงหลังเที่ยงคืนเนื่องจากเกรงกลัวอัลลอฮฺ
2) นัยน์ตาที่อดนอนเพราะเป็นยามรักษากิจการในหนทางของอัลลอฮฺ
อะบูซัลมาน อัดดารอนีย์ รอฮิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า หัวใจที่ปราศจากความย าเกรงอัลลอฮฺคือหัวใจที่พังพินาศ เพราะอัลลอฮฺได้กล่าวความว่า “แล้วพวกเขารู้สึกปลอดภัยจากอุบายของอัลลอฮฺกระนั้นหรือ ไม่มีผู้ใดที่มั่นใจว่าจะปลอดภัยจากอุบายของอัลลอฮฺ นอกจากกลุ่มชนที่ขาดทุนเท่านั้น” (อัลอะอฺรอฟ, 7 : 99)
ดังนั้น เจ้าจงรักษาและทะนุถนอมนํ้าตาเหล่านี้ไว้ให้ดี อย่าให้นํ้าตาของเจ้าไหลรินออกมาเพียงเพื่อตอบสนองความจอมปลอมทั้งหลาย จงหลั่งนํ้าตาให้อาบแก้ม ขณะที่เจ้าก้มสุญูดยามหลังเที่ยงคืนอันเงียบสงัด มีความสํานึกผิดและเสียใจต่อความผิดพลาดที่ได้กระทําลงไป โศกาอาดูรกับบาปที่สร้างรอยด่างในชีวิต เศร้าโศกกับความบกพร่องที่เป็นเหตุให้เกิดจุ ดด าในหัวใจ ยามนั้นขอให้เจ้าจงขอลุแก่โทษด้วยหัวใจที่นอบน้อม ส ารวม เพื่อก้าวสู่อาทิตย์อุทัยแห่งทางนําของอัลลอฮฺสุบฮานะฮูวะตะอาลา
จงเรียกนํ้าตาที่ถูกกักไว้ในคลังนัยน์ตาของเจ้า ให้ไหลรินอาบแก้มตลอดเวลา เพื่อทําหน้าที่ชโลมจิตและชําระหัวใจให้สะอาดหมดจด เพื่อทลายบาปที่สุมเป็นกองพะเนิน เผื่อว่าเจ้าจะได้รับความโปรดปรานจากอัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งในความเมตตา
ข้าแต่พระองค์ได้โปรดประทานให้หัวใจของฉันมีความมั่นคงในศาสนาของพระองค์ และได้โปรดให้ฉันหลั่งน้ าตาเนื่องจากรู้สึกยําเกรงพระองค์ด้วยเถิด
แปลสรุปโดย อ.มัสลัน มาหะมะ
มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
แหล่งอ้างอิง
หนังสือ Zadul maa’ad โดย อิบนุลก็อยยิม
http://www.way2sunnah.com/vb/f5/715/ สืบค้นเมื่อ 26มกราคม 2544
http://www.mr7-ly.com/vb/showthread.php?t=9507 สืบค้นเมื่อ 26 มกราคม 2544
http://www.shamsqatar.com/vb/f2/t89529.html สืบค้นเมื่อ 26 มกราคม 2544
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " น้ำตาและเสียงร้องไห้ "