
ความรู้จะต้องคู่ไปกับการปฏิบัติ แต่ปฏิบัติโดยไร้ความรู้ก็หายนะได้เหมือนกัน
และเรื่องนี้ได้มีกล่าวไว้ในฮะดีษอันประเสริฐที่ว่า:
(إن مِن أول من تُسعربهم الناريوم القيامة، عالم لم يعمل بعلمه)
“แท้จริงหนึ่งในบุคคลแรกที่ไฟนรกจะเผาไหม้พวกเขาในวันกิยามะฮ์คือผู้รู้ที่ไม่ปฏิบัติตามความรู้ของตนเอง” [1]
ความรู้จะต้องคู่ไปกับการปฏิบัติ และการปฏิบัติคือภาคผลของความรู้ ดังนั้นแล้วความรู้ที่ปราศจากการปฏิบัติมันก็เหมือนกับต้นไม้ที่ไม่ออกผล ไม่มีประโยชน์ใดๆ ในตัวมันเลย และแท้จริงความรู้นั้นมันถูกประทานลงมาเพื่อการปฏิบัติ
เช่นเดียวกัน การปฏิบัติที่ปราศจากความรู้ มันก็จะกลายเป็นความเสียหายและความหลงผิดให้กับคนที่กระทำมัน ถ้าหากว่าคนใดที่ปฏิบัติการงานโดยไม่มีความรู้ แน่นอนการงานของเขาก็จะเสียหายและเหนื่อยเปล่ากับตัวเขาเอง
ท่านเราะซูล กล่าวว่า:
«مَنْ عَمِلَ عَمَلًا لَيْسَ عَلَيْهِ أَمْرُنَا فَهُوَ رَدٌّ»
“ใครก็ตามที่ปฏิบัติการงานหนึ่งการงานใดที่มิใช่การงานของเรา มันก็จะไม่ถูกตอบรับ” [2]
และด้วยเหตุนี้เราจึงอ่านในซูเราะฮ์อัลฟาติฮะฮ์ในทุกๆ เราะกะอัตว่า
اهْدِنَا الصِّرَاطَ الْمُسْتَقِيمَ
صِرَاطَ الَّذِينَ أَنْعَمْتَ عَلَيْهِمْ غَيْرِ الْمَغْضُوبِ عَلَيْهِمْ وَلَا الضَّالِّينَ
“ขอพระองค์ทรงนำทางพวกข้าพระองค์ ซึ่งทางอันเที่ยงตรง (คือ) ทางของบรรดาผู้ที่พระองค์ได้ทรงโปรดปรานแก่พวกเขา มิใช่ทางของพวกที่ถูกกริ้ว และมิใช่ทางของพวกที่หลงผิด” [ซูเราะฮ์ อัลฟาติฮะฮ์ อายะฮ์ที่ 6-7]
อัลเลาะฮ์ทรงเรียกบรรดาผู้ที่ปฏิบัติการงานโดยปราศจากความรู้ว่าเป็นพวกที่หลงผิด และได้ทรงเรียกบรรดาผู้ที่รู้แต่ไม่ยอมปฏิบัติว่าเป็นพวกที่ถูกโกรธกริ้ว ดังนั้นเราควรจะตระหนักในเรื่องดังกล่าวนี้ เพราะมันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
[1] รายงานโดยติรมีษี ฮะดีษหมายเลข 2382 และเป็นฮะดีษที่ยาว และในฮะดีษบทนี้มีสำนวนว่า: “ทั้งสามคนเหล่านั้นคือสิ่งถูกสร้างแรกของอัลเลาะฮ์ที่ไฟนรกจะเผาไหม้พวกเขาในวันกิยามะฮ์” จากฮะดีษของท่านอะบูฮุร็อยเราะฮ์
[2] รายงานโดยบุคอรีเป็นฮะดีษมุอัลลัก อยู่ก่อนฮะดีษหมายเลข 7350, และมุสลิม ฮะดีษหมายเลข 18, 1718 จากฮะดีษของท่านหญิงอาอิชะฮ์ นางกล่าวว่า: ท่านเราะซูล กล่าวว่า: “ใครก็ตามที่อุตริสิ่งใดในกิจการงานของเราซึ่งมันไม่ใช่ส่วนหนึ่งจากมัน มันก็ย่อมไม่ถูกตอบรับ”
พูดอย่างรวบรัด สังคมที่อุดมปัญญามักจะมีการถ่ายทอดองค์ความรู้จากจุดเริ่มต้นของบ่อเกิดแห่งความรู้ ไม่ว่าจะเป็นการไปศึกษาร่ำเรียน หรือแปลตำรา ในสังคมมุสลิมไทยการแปลตำราหนังสือศาสนาในเวลาที่ผ่านมาก็มีอยู่ และบางครั้งก็กระจัดจายในหมวดหมู่เนื้อหาตามผู้จัดทำ
โครงการแปลตำราจึงจัดตั้งขึ้นเพื่อแปลตำราของบรรดาปวงปราชญ์ร่วมสมัยร่วมถึงบรรพชนรุ่นอดีต เพื่อขยายมิติของความรู้และเปิดประตูสู่การเรียนรู้ศาสนาเป็นขั้นเป็นตอนในสังคมไทย ไม่ว่าจะหมวดฟิตนะฮ์ร่วมสมัย หมวดอะกีดะฮ์ หมวดฮะดีษ หมวดฟิกฮ์ หมวดอูศูลต่างๆ แม้กระทั้งหมวดประวัติศาสตร์ ทางเราจึงจัดตั้งหลักสูตรขึ้น เพื่อเป็นกรอบในการแปลตำราให้อยู่ในทิศทางที่ควรจะเป็น (โดยมีหนังสือที่เขียน/แปลอยู่แล้วในสังคม และเสริมที่ยังขาดหายไป)
ประโยชน์ที่หวังว่าจะเกิดขึ้นคือ เราจะมีตำราให้ศึกษาศาสนาแบบเป็นขั้นเป็นตอน ง่ายต่อการเรียนรู้ เข้าใจ และปฏิบัติ เป็นข้อแนะนำ เป็นข้อปฏิบัติสำหรับการศึกษาศาสนา และผลพลอยได้ที่เราได้รับคือ การได้ช่วยเหลือบรรดานักเรียนศาสนาที่สำเร็จการศึกษาแล้วให้มีรายได้ ถึงแม้ว่าจะไม่มากก็ตาม
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " การปฏิบัติโดยไร้ความรู้ก็หายนะได้เหมือนกันนะ "