
บ่อน้ำที่ท่านนบีมูซา(โมเสส)ได้มาพบกับลูกสาวสองคนของท่านนบีชุอัยบ์ ในอัลกรุอ่าน
ปัจจุบันตั้งอยู่ในหมู่บ้านมัดยัน เมืองการัก ตำบลซะนึยะห์ ประเทศจอร์แดน
บ่อน้ำแห่งนี้ยังอยู่จนถึงทุกวันนี้โดยที่น้ำไม่ได้เหีอดแห้ง ปัจจุบันคนก็ยังใช้น้ำบ่อนี้อยู่
เรื่องราวมีอยู่ว่า เมื่อท่านนบีมูซา – อลัยฮิสสลาม -ได้เดินทางมาถึงเมืองมัดยัน เขาก็ได้พบบ่อน้ำแห่งหนึ่ง และได้พบว่ามีผู้คนจำนวนมากกำลังทำการตักน้ำขึ้นมาให้กับสัตว์เลี้ยงของพวกเขา ทันใดนั้นท่านนบีมูซาก็เห็นหญิงสาวสองคนที่คอยห้ามฝูงแกะออกจากบ่อน้ำ เนื่องจากนางทั้งสองไม่ได้มีพละกำลังความสามารถเฉกเช่นผู้ชายในการตักน้ำ ซึ่งนางทั้งสองต้องรอจนกว่าผู้คนเหล่านั้นจะเสร็จสิ้น และเมื่อนบีมูซาเห็นเช่นนี้ท่านจึงกล่าวถามว่า :
มีอะไรกระนั้นหรือ ? ทำไมถึงไม่ตักน้ำขึ้นมาล่ะ ?
นางทั้งสองจึงตอบว่า :
“เราไม่สามารถจะตักนำได้ จนกว่าคนเลี้ยงแกะเหล่านั้นจะถอยออกไป และพ่อของดิฉันทั้งสองก็แก่ชรามากแล้ว ไม่สามารถที่จะตักน้ำได้”
ต่อมาท่านนบีมูซาก็ได้ตักน้ำให้แก่หญิงสาวทั้งสอง (ซึ่งต้องใช้คนจำนวนมากในการยกฝาบ่อน้ำ แต่นบีมูซาสามารถยกเองเพียงคนเดียวได้) จากนั้นท่านก็ไปพักใต้ร่มไม้ พร้อมกล่าวว่า:
رَبِّ إِنِّي لِمَا أَنْزَلْتَ إِلَيَّ مِنْ خَيْرٍ فَقِيرٌ
“ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ แท้จริงข้าพระองค์อยากได้ในความดีที่พระองค์ทรงประทานลงมาให้แก่ข้าพระองค์” (อัลกุรอ่าน 28:24)
ไม่ว่าจะเป็นความดีใดก็ตาม เช่น อาหาร ซึ่ง ณ ตอนนั้นนบีมูซาหิวโหยอย่างมาก
ต่อมาหญิงสาวหนึ่งจากทั้งสองก็ได้เดินมาหาท่านนบีมูซาอย่างมีสภาพที่เขินอายและละอาย โดยอัลลอฮฺ ตรัสเล่าเอาไว้ว่า :
فَجَآءَتۡهُ اِحۡدٰٮہُمَا تَمۡشِىۡ عَلَى اسۡتِحۡيَآءٍ قَالَتۡ اِنَّ اَبِىۡ يَدۡعُوۡكَ لِيَجۡزِيَكَ اَجۡرَ مَا سَقَيۡتَ لَـنَا
“นางคนหนึ่งในสองคนได้มาหาเขา เดินมาอย่างขวยเขิน แล้วกล่าวขึ้นว่า : คุณ
พ่อของดิฉันขอเชิญท่านไป เพื่อจะตอบแทนค่าแรงแก่ท่านที่ได้ช่วยตักน้ำให้เรา” (อัลกุรอ่าน 28 : 25)
ท่านชัยคฺ อับดุรร็อซซาก อัลบัดรฺ ได้กล่าวว่า :
“นางได้มาหาท่านนบีมูซาด้วยกับความละอายทั้งในท่าทีการเดิน การกระทำ และคำพูดของนาง และการสนทนาของนางต่อนบีมูซา (ทั้งหมดนี้อยู่บนความละอาย)
ดังนั้นความละอายคือสิ่งประดับประดาสำหรับผู้หญิง และคือความสวยงามของนาง และเมื่อใดที่ความละอายถูกถอดออกไปจากผู้หญิง ความงามของนางก็หมดสิ้น เพราะความงามของนางอยู่ที่ความละอายของนาง และทุกครั้งที่ความละอายมีความหนักแน่นขึ้นในตัวนาง มันก็จะเป็นสิ่งผลักดันนางไปสู่สิ่งที่ดีงาม”
????จากหนังสือ “อัลฮะยาอ์ ซีนะตุ้ลมัรอะฮ์ วะญะมาลุฮา”
และในท้ายที่สุดนี้ท่านนบีมูซาก็ได้รับคำเชื้อเชิญจากพ่อของนางทั้งสอง (นบีชุอัยบฺ) ให้แต่งงานกับคนใดคนหนึ่งในหมู่พวกนาง และท่านนบีมูซาก็ได้ตอบรับข้อเสนอและได้แต่งงานกับนาง
ท่านชัยคฺ อุษัยมีน ได้กล่าวว่า :
สิ่งที่ได้รับจากบทเรียนนี้
หนึ่ง : อธิบายถึงความมีเกียรติความสุขุมที่อัลลอฮ์ทรงมอบให้แก่ท่านนบีมูซา ซึ่งที่หญิงสาวดังกล่าวได้เดินมาหาท่านนบีมูซาในสภาพที่เขินอายและมีความละอายก็เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ท่านนบีมูซา นั่นก็เพราะว่าเมื่อใดที่มนุษย์มีความสุขุมมากเท่าไหร่ ความละอายจากตัวเขาก็มีมากเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ใครที่ไม่มีความสุขุม เราจะพบว่าผู้คนจะไม่แสดงท่าทีละอายแก่เขาและไม่สนใจเขา(คือผู้คนก็จะไม่ใส่ใจ) และผู้คนก็จะพูดจา(กับเขา)ด้วยกับคำพูดที่ไม่เหมาะสม หรือกระทำการใดๆที่ไม่เหมาะสม เนื่องเพราะคนคนนั้นไม่มีความสุขุมนั่นเอง…”
สอง : อธิบายถึงคุณลักษณะจรรยามารยาทที่สมบูรณ์แบบของหญิงสาวทั้งสองคนนี้ เนื่องจากนางได้มาหาท่านนบีมูซาในสภาพที่เดินเท้าเข้ามา(แบบช้า) ไม่ได้ผลีผลามเข้ามาแบบรวดเร็ว ทว่านางเดินมาด้วยความสงบเสงี่ยม นี่คือหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่านางมีมารยาทที่สมบูรณ์แบบ และเช่นเดียวกันการที่นางมีลักษณะความเขินอาย มีความละอาย นี่ก็เช่นเดียวกันคือหนึ่งในความสมบูรณ์แบบในจรรยามารยาท…”
???? ตัฟซีร อิบนิ อุษัยมีน (ซูเราะฮ์ อัลเกาะศอศ : 25)
จากเรื่องราวนี้ได้ให้ข้อคิดกับเรา (โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิง) ว่า ความละอายนั้นเปรียบดั่งสิ่งประดับประดาอันเลอค่าและคือความสวยงามที่อยู่บนตัวผู้หญิง ผู้หญิงจะมีค่าและมีเกียรติได้นั่นขึ้นอยู่กับปริมาณความละอายบนตัวของนาง และเมื่อผู้หญิงไม่มีความละอายความมีค่าในตัวนางก็สูญสิ้น
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " บ่อน้ำที่นบีมูซา ได้พบลูกสาวสองคนของนบีชุอัยบ์ "