มหัศจรรย์แห่งคำพูดนบี “โรคระบาดเหมือนดั่งสิงโต”

#โรคเรื้อนคือสิงโต!!
#โรคโควิดคือสิงโตด้วยมั้ย??

#มหัศจรรย์แห่งคำพูดนบี ﷺ

ทำไมนบีﷺถึงได้เปรียบเทียบโรคเรื้อนกับสิงโต..
ท่านเคยกำชับให้เหล่าสหายของท่านว่า..

فِرَّ مِنَ المَجْذُوْمِ فِرَارَكَ مِنْ الأَسَدِ

จงระวังจากโรคเรื้อน (โรคที่เนื้อหนังหลุดร่วง) เหมือนดั่งที่มนุษย์นั้นระวังตัว (ป้องกันตัว) จากสิงโต..
(อันนี้แปลจากใจความ), (ซอเฮียะห์บุคอรี, 5707)..

ถ้าแปลตามตัวบทคือ.. จงวิ่งหนีจากโรคเรื้อนด้วยสปีดการวิ่งที่เร็วสุดของเจ้าจากสิงโต..

#ข้อคิดที่ได้จากฮาดีษบทนี้คือ..

1. ปรากฏว่าเมื่อแพทย์ได้ศึกษาแล้วก็พบว่าลักษณะของไวรัสที่ทำให้เป็นโรคเรื้อนนั้นมีความคล้ายกับสิงโต.. คือเมื่อส่องดูแล้วตัวของเชื้อมีเส้นขนเยอะ.. ท่านนบี ﷺ จึงได้เปรียบเทียบกับสิงโต..

2. ผู้ที่ติดเชื้อนี้เมื่อถึงขั้นร้ายแรงคือเนื้อหนังจะเน่าจนร่วงหลุดจากกระดูก.. ซึ่งเหยื่อที่โดนสิงโตเขมือบก็จะโดนขย้ำฉีกเนื้อออกจากกระดูกเหมือนกัน..

3. สิงโตมีขอบเขตการหากินที่กว้างและย้ายถิ่นฐานเป็นระยะ.. แต่ละตัวจะพยายามกินอาหารให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้..

4. สิงโตจะไม่เลือกเหยื่อที่ขวางหน้า, จะไม่มีความเมตตาแก่เหยื่อของมัน..

5. สัตว์แต่ละชนิดที่เป็นเหยื่อของสิงโตจะมีสปีดการวิ่งหนีที่ต่างกัน.. สปีดการวิ่งหนีจากโรคของมนุษย์เราก็คือ.. #ปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์..

6. นบี ﷺ เองก็มีคำแนะนำให้ปฎิบัติเช่นกัน, เช่น..

6.1 จากท่านญาบิร บินอับดุลลอฮ ครั้งหนึ่งในกลุ่มของผู้แทนจากเผ่าสะกีฟ มีชายคนหนึ่งที่เป็นโรคเรื้อนอยู่ด้วย ท่านนบี ﷺ ได้ส่งข่าวไปหาเขาว่า “จงกลับไปเสีย และเราได้รับประกันความซื่อสัตย์ของพวกท่านแล้ว” (ซอเฮียะห์มุสลิม 126/2231)

6.2 จากหะดีษของท่านอิบนิอับบาสรายงานว่า ท่านนบี ﷺ ได้กล่าวว่า “อย่าจ้องมองคนเป็นโรคเรื้อนเป็นเวลานาน ๆ” (ซอเฮียะห์อิบนิมาญะห์ 3543)

6.3 จากหะดีษของท่านอบีฮูรอยเราะห์กล่าวว่า ท่านนบี ﷺ ได้พูดว่า “อย่าเอาคนป่วยไปอยู่ใกล้ๆคนที่มีสุขภาพดี” (ซอเฮียะห์มุสลิม 5771)

6.4 ได้เล่าจากท่านนบี ﷺ ว่า “ให้พูดคุยกับคนเป็นโรคเรื้อน โดยมีระยะห่างระหว่างหนึ่งถึงสองความยาวหอก” (มุสนัดอะหมัด, 78/1) (ประมาณ1-2เมตร)

7. โรคที่ถูกกล่าวในฮาดีษคือ المَجْذُوْمِ หมายถึงผู้ที่ติดเชื้อแล้ว, ซึ่งตัวของเชื้อจะเรียกว่าญุซาม جذام.

8. นี้เป็นมุอฺยีซะฮ์ของท่านนบี ﷺ ที่ท่านสามารถเทียบกับสิงโตให้ฟังในวันที่โลกของเรายังไม่มีกล้องจุลทัศน์..

9. ชี้ให้เห็นว่าทุกคำพูดของท่านคือวะฮ์ยูจากอัลลอฮจริงๆ, หาใช่คำพูดพร่ำเพรื่อหรือพูดด้วยอารมณ์ตัวเอง..

10. คำพูดของท่านถูกตอกย้ำว่ามีความสัจจริงโดยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์.. ถ้าไม่มีแพทย์เราก็ยังไม่รู้ว่าทำไมถึงเทียบกับสิงโต..

11. ตัวอย่างเพิ่มเติม..
จากอายัตที่80ซูเราะห์ยาซีน..
مِّنَ الشَّجَرِ الْأَخْضَرِ
ใจความว่า..อัลลอฮผู้ทรงทำให้มีไฟสำหรับพวกเจ้าจากต้นไม้เขียวสด (แล้วจงดูซิ) พวกเจ้าก็ได้จุดมันจากเชื้อไฟนั้น..

นักวิทย์ได้วิจัยว่าต้นไม้ที่มีใบเขียวสดจะเป็นเชื้อเพลิงที่ให้ไฟได้ดีกว่าหากเทียบกับต้นที่มีใบเป็นสีอื่น..
นี่ก็ชี้ว่ากุรอ่านไม่ได้พร่ำเพรื่อเอ่ยถึงสีเขียวไปงั้นๆ..

#ยังมีอีกหลายตัวอย่าง..

12. เราจะเข้าใจกุรอ่านและฮาดีษได้ดียิ่งขึ้นด้วยการให้ความร่วมมือของฝั่งผู้เชี่ยวชาญในวิชาชีพต่างๆ..
อิสลามจึงไม่เคยปลีกห่างจากผู้เชี่ยวชาญในแขนงวิชาการต่างๆในทุกๆด้าน..

13. หาใช่ว่าในทุกๆเรื่องจะต้องพึ่งคำแนะนำอุลามาอ์อย่างเดียว, เพราะในหลายๆเรื่องอุลามาอ์เองก็ยังต้องพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ..

14. เราจึงต้องให้เกียรติกับพวกเขาทุกคนเพราะปราศจากพวกเขาเราก็ยากที่จะเข้าใจในอีกหลายๆเรื่อง..

15. เชื้อโคโรนาอาจไม่ได้มีรูปร่างหน้าตาหรือมีขนคล้ายสิงโต, แต่มันก็ไล่ล่าชีวิตเหยื่อไม่ต่างกับสิงโตเช่นกัน..

16. คำพูดท่านนบีจึงเป็นการบอกเหตุการณ์เหมารวมถึงทุกๆโรคที่เป็นโรคระบาดด้วยเช่นกัน..

#ลองเอาคำว่า_جذام_ไปค้นหาในกูเกิ้ลจะเห็นภาพต่างๆเกี่ยวกับไวรัสตัวนี้..
ผมจะเม้นท์ว่า جذام ไว้สำหรับเพื่อนๆที่ไม่มีแป้นพิมพ์อาหรับได้คัดลอกไปค้นหาภาพกัน..

#ผู้ป่วยบางรายถึงกับมีผิวหนังบนใบหน้าที่ยับเสมือนหนึ่งว่าเป็นสิงโตเลยทีเดียว..

#สุดท้ายนี้..

#ขอเป็นกำลังใจให้ทีมแพทย์_พยาบาลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการปฎิบัติหน้าที่นี้ทุกคนครับ..

เครดิต: Ama Doloh