ความประเสริฐของซูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺ

بسم الله الرحمن الرحيم

(ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาและปราณีเสมอ)

ซูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺ

ประกอบด้วย 25,500 พยัญชนะ 6,120 คำ 286 โองการ(อายะฮฺ)

นับตามจำนวนของอัลกูฟีและอะลี อิบนุอะบีฏอลิบ-เราะฎิยัลลอฮุอันหุ-

ความประเสริฐของซูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺ

อิมามอะหฺมัดได้กล่าวว่า อาริมได้รายงานแก่เราว่า มุอฺตะมิรได้รายงานว่า จากบิดาของเขา จากชายคนหนึ่ง จากบิดาของชายคนนี้ และจากมะอฺกิล อิบนุยะหซารฺ ว่า ท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า

الْبَقَرَةُ سَنَامُ الْقُرْآنِ وَذُرْوَتُهُ ، نَزَلَ مَعَ كُلِّ آيَةٍ مِنْهَا ثَمَانُونَ مَلَكًا ، وَاسْتُخْرِجَتْ : ( اللَّهُ لَا إِلَهَ إِلَّا هُوَ الْحَيُّ الْقَيُّومُ ) [ الْبَقَرَةِ : 255 ] مِنْ تَحْتِ الْعَرْشِ ، فَوُصِلَتْ بِهَا ، أَوْ فَوُصِلَتْ بِسُورَةِ الْبَقَرَةِ ، وَ ” يس ” : قَلْبُ الْقُرْآنِ ، لَا يَقْرَؤُهَا رَجُلٌ يُرِيدُ اللَّهَ وَالدَّارَ الْآخِرَةَ إِلَّا غُفِرَ لَهُ ، وَاقْرَءُوهَا عَلَى مَوْتَاكُمْ

“ซูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺคือยอดและจุดสูงสุดของอัลกุรอาน ในทุกอายะฮฺจะประทานลงมาพร้อมกับ 80 มะลีอีกะฮฺ และ( اللَّهُ لَا إِلَهَ إِلَّا هُوَ الْحَيُّ الْقَيُّومُ ) (อัล-บะเกาะเราะฮฺ 2/255) นำออกมาจากบังลังค์(อะรัช)ของอัลลอฮฺ แล้วต่อด้วยสิ่งนี้หรือแล้วต่อด้วยซูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺ และ ซูเราะฮฺ”ยาซีน” เป้นหัวใจของอัลกุรอาน ไม่มีใครอ่านซูเราะฮฺนี้นอกจากคนที่ต้องการอัลลอฮฺและที่พำนักในโลกสุดท้าย(สวรรค์) และจงอ่านซูเราะฮฺ(ยาซีน)นี้แก่คนทีเสียชีวิตของพวกเจ้า ” อีมามอะหฺมัด คนเดี่ยวเท่านั้นที่บันทึกหะดีษนี้

อิมามอะหฺมัดได้บันทึกไว้อีกว่า มีรายงานจาก อาริม จากอับดุลลอฮฺ อิบนุอัลมุบาร็อก จากสุไลมาน อัตตะมีมีย์ -ไม่ใช่อันนะหฺดี- จากบิดาของเขา จากมะอฺกิล อิบนุ ยะซารฺ ได้กล่าวว่า ท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) ได้กล่าว่า

اقْرَءُوهَا عَلَى مَوْتَاكُمْ .

“พวกเจ้าจงอ่านซูเราะฮฺนี้แก่คนทีเสียชีวิตของพวกเจ้า ” คือ ซูเราะฮฺ “ยาซีน”
สายรายงานที่สองนี้ยืนยันหะดีษแรกที่มีสายรายงานที่คลุ่มเครือ และมีหะดีษที่มาในลักษณะเดียวกันกับหะดีษที่สองนี้ที่บันทึกโดย อะบูดาวูด อันนะซาอีย์ และอิบนุมาญะฮฺ

อัตติรมีซีย์ ได้บันทึกจากหะดีษที่รายงานโดย หะกีม อิบนุญุไบร์ เป็นหะดีษที่มีสายรายงานที่มีสายรายงานที่อ่อน(เฎาะอีฟ) อะบูศอลิฮฺ ได้รายงานว่า อะบูฮุร็อยเราะฮฺ ได้รายงานมาว่า ท่านนบี(ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า

لِكُلِّ شَيْءٍ سَنَامٌ ، وَإِنَّ سَنَامَ الْقُرْآنِ الْبَقَرَةُ ، وَفِيهَا آيَةٌ هِيَ سَيِّدَةُ آيِ الْقُرْآنِ : آيَةُ الْكُرْسِيِّ

“ทุกสิ่งทุกอย่างจะมียอดของมัน และยอดของอัลกุรอานคือ ซูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺ ในอัลกุรอานจะมีผู้นำ และผู้นำของอายะฮฺอัลกุรอาน คือ อายะฮฺ อัล-กุรซีย์”

ในหนังสือ มัซนัดของอิมามอะหฺมัด เศาะหีหมุสลิม อัตติรมีซีย์ และอันนะซาอีย์ จากหะดีษที่รายงานโดย ซุไฮล์ อิบนุ อิบีย์ศอลิฮฺ ได้รับรายงานจากพ่อเขา ว่า อะบูฮุร็อยเราะฮฺ ได้รายงานว่า ท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า

لَا تَجْعَلُوا بُيُوتَكُمْ قُبُورًا ، فَإِنَّ الْبَيْتَ الَّذِي يُقْرَأُ فِيهِ سُورَةُ الْبَقَرَةِ لَا يَدْخُلُهُ الشَّيْطَانُ

” พวกเจ้าอย่างทำบ้านเรือนของพวกเจ้าเป็นเหมือนสุสาน เพราะไชฏอนจะไม่เข้าบ้านที่อ่านซูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺ”
อัตตีรมีซีย์ ได้กล่าวว่า หะดีษนี้ เป็นหะดีษที่น่าเชื่อถือ หะซัน เศาะหีหฺ

อะบู อุบัยดิลกอเซ้ม อิบนุ ซะลาม ได้กล่าวว่า อิบนุ อาบูมัรฺยัม ได้เล่าว่า อิบนุ ละฮีอะฮฺ ได้รายงานว่า จากรายงานของ ยะซีด อิบ อะบี หะบีบ ว่า รายงานจากซะนาน อิบนุ ซะอฺดิน ว่า อะนัซ อิบนุ มาลิก ได้กล่าวว่า ท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า

إِنَّ الشَّيْطَانَ يَخْرُجُ مِنَ الْبَيْتِ إِذَا سَمِعَ سُورَةَ الْبَقَرَةِ تُقْرَأُ فِيهِ

“ไชฏอนจะออกจากบ้าน เมื่อเขาได้ยินซูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺที่ได้อ่านในบ้านหลังนั้น ”
ซินาน อิบนุ ซะอฺดิน บางรายงานบอกว่า เขามีชื่อที่ตรงกันข้าม (คือ ซะอัด อิบซะนนาน) อิบนุ มะอีน เชื่อถือในตัวเขา แต่อิมามอะหฺมัด อิบนุหัมบัลและคนอื่นไม่ยอมรับหะดีษที่เขารายงาน

อะบู อุบัยดฺ ได้กล่าวว่า มุหัมมัด อิบนุญะอฺฟัรฺ ได้บอกแก่เราว่า ชุอฺบะฮฺ ได้รับรายงานจาก ซะละมะฮฺ อิบนุ กุไฮล์ ซึ่งได้รับจาก อะบู อัล-อะหฺวะศฺ ได้รับรายงานมาจาก อับดุลลอฮฺ อิบนุ มัซอูดว่า

إِنَّ الشَّيْطَانَ يَفِرُّ مِنَ الْبَيْتِ الَّذِي يُسْمَعُ فِيهِ سُورَةُ الْبَقَرَةِ

“แท้จริงไชฏอนจะวิ่งออกจากบ้านที่มันได้ยินเสียงอ่านซูเระาะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺในบ้านหลังนั้น”
บันทึกโดย อันนะซาอีย์ ในอัลเยาม์วะลัยละฮฺ และอัลหากิมบันทึกในมุซตัดริกของเขา เป็นหะดีษที่รายงานโดยชุอฺบะฮฺ และอัลหากิมได้กล่าวอีกว่า สายรายงานถูกต้อง(น่าเชื่อถือ) และอิมามอัลบุคอรีและมุสลิมไม่ได้คัดค้านในสายรายงานของหะดีษนี้

อิบนุ อัรฺดะวัยฮฺ ได้กล่าวว่า มีรายงานจาก อะบู อัล-อะหฺวะศฺ ว่า อับดุลลอฮฺ อิบนุมัซอูดได้กล่าวว่า ท่านเราะซูลุลลออฺ(ศ็อลฯ)ได้กล่าวว่า

لَا أَلْفَيَنَّ أَحَدَكُمْ يَضَعُ إِحْدَى رِجْلَيْهِ عَلَى الْأُخْرَى يَتَغَنَّى ، وَيَدَعُ سُورَةَ الْبَقَرَةِ يَقْرَؤُهَا ، فَإِنَّ الشَّيْطَانَ يَفِرُّ مِنَ الْبَيْتِ تُقْرَأُ فِيهِ سُورَةُ الْبَقَرَةِ ، وَإِنَّ أَصْفَرَ الْبُيُوتِ ، الْجَوْفُ الصِّفْرُ مِنْ كِتَابِ اللَّهِ .

“ขอให้ฉันไม่เจอคนใดคนหนึ่งในหมู่พวกเจ้า วางขาข้างหนึ่งบนขาอีกข้างแล้วร้องเพลง ทิ้งที่จะอ่านซูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺ เพราะไชฏอนจะวิ่งออกจากบ้านที่อ่านซูเราะฮฺ อัล-บะเกาะรเราะฮฺ แท้จริงบ้านที่ว่างเปล่าคือบ้านที่ข้างในว่างจากการอ่านอัลกุรอาน”

อันนะซาอีย์ ได้บันทึกใน อัลเยาม์วัลลัยละฮฺ ไว้เช่นนี้ เป็นหะดีษที่รายงานจากมุหัมมัด อิบนุนัศริน ที่ได้รับรายงานจาก อัยยูบ อิบนุซุไลมาน

อัดดาริมีย์ ได้บันทึกในมัซนัดของเขาว่า อิบนุ มัซอูดได้กล่าวว่า “บ้านที่อ่านซูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺไชฏอนจะออกจากบ้านหลังหนั้นด้วยอาการที่ผ่ายลม(รีบออกอย่างรีบเร่ง)” และกล่าวอีกว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นมียอด และยอดของอัลกุรอานนั้นคือซูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺ ทุกสิ่งทุกอย่างมีแก่น และแก่นของอัลกุอานของซูเราะฮฺ มุฟัศศอลฺ(ซูเราะฮฺอัลกุรอานที่สั้นๆ)” และอัดดารีมีย์ได้บันทึกอีกโดยผ่านทางสายรายงาน อัชชะอฺบี ว่า อับดุลลอฮฺ อิบนุมัซอูดได้กล่าวว่า “ผู้ใดอ่าน 10 อายะฮฺอัลกุรอานในซูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺ ในเวลากลางคืน ไชฏอนจะไม่เข้าไปในบ้านเขาในคืนนั้น 4 อายะฮฺแรกของซูเราะฮฺ อายะฮกุรอซีย์กับอีก 3 อายะฮฺหลังจากอายะฮฺกุรซีย์ และ 3 อายะฮฺสุดท้ายของซูเราะฮฺ” และในอีกสายรายงานหนึ่ง ว่า ในวันนั้นไชฏอนและสิ่งที่เขาไม่พอใจ ไม่สามารถเข้าใกล้ตัวเขาและคนในครอบครัวของเขา และเมื่ออ่าน(ซูเราะฮฺนี้)แก่คนบ้าแล้วก็จะทำให้คนบ้ารู้สึกตัว

ซะฮฺลิน อิบนุ ชะอฺดิน กล่าวว่า ท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า

إِنَّ لِكُلِّ شَيْءٍ سَنَامًا ، وَإِنَّ سَنَامَ الْقُرْآنِ الْبَقَرَةُ ، مَنْ قَرَأَهَا فِي بَيْتِهِ لَيْلَةً لَمْ يَدْخُلْهُ الشَّيْطَانُ ثَلَاثَ لَيَالٍ ، وَمَنْ قَرَأَهَا فِي بَيْتِهِ نَهَارًا لَمْ يَدْخُلْهُ الشَّيْطَانُ ثَلَاثَةَ أَيَّامٍ .

“ทุกสิ่งทุกอย่างจะมียอด ยอดของอัลกุรอานคือ ซูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺ ใครที่อ่านซูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺในบ้านของเขาหนึ่งคืน ไชฏอนจะไม่เข้าไปในบ้านหลังนั้น 3 คืน และผู้ใดอ่านซูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺในตอนกลางวัน ไชฏอนก็จะไม่เข้าบ้านหลังนั้น 3 วัน”

บันทึกโดย อะบูกอซิม อัฏฏอบะรอนีย์ อะบูหาติม และอิบนุหิบบานในหนังสือเศาะหีหฺของเขา

อัตติรมีซีย์ อันนะซาอีย์ และอิบนุมาญะห์ ได้บันทึกหะดีษจากการรายงของ อับดุลหะมีด อิบนุ ญะอฺฟัรฺ ซึ่งได้รับรายงานจาก ชะอีด อัล-มักบุรีย์ ที่ได้รับรายงานมาจาก อะฏออฺ เมาลา อะบี อะหฺมัด ว่า อะบูฮุร็อยเราะฮฺ ได้กล่าวว่า
ท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) ได้แต่งตั้งคนกลุ่มหนึ่ง แล้วให้คนเหล่านั้นอ่านอัลกุรอานที่ละคน คือ อ่านเท่าที่เขาสามารถอ่านได้ แล้วท่านก็ได้เดินเข้าไปหาชายคนหนึ่งที่มีอายุน้อยสุดในบรรดากลุ่นคนเหล่านั้น และท่านถามชายหนุ่มคนนั้นว่า

“เจ้ามีอะไร ?”

ชายคนนั้นก็ตอบว่า “ฉันมีนั้น มีนี้ และซูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺ”

ท่านเราะซูลุลลออฺ(ศ็อลฯ)ถามต่อว่า

“ท่านมีซูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺหรือ?.”

ชายคนนั้นตอบว่า “ใช่”

ท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ)ก็กล่าวว่า

“เจ้าจงไปและเป็นหัวหน้าของพวกเขา”

ชายที่มีเกียรติที่สุดในกลุ่มของพวกเขากล่าวว่า

“วัลลอฮิ ฉันขอสาบานกับอัลลอฮฺ ไม่มีสิ่งใดที่จะห้ามฉันศึกษาซูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺ นอกจากฉันกลัวว่าฉันไม่สามารถที่จะปฏิบัติในสิ่งนั้นได้”
ท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ)ได้กล่าว่า

تعلموا القرآن واقرؤوه، فإن مثل القرآن لمن تعلمه فقرأ وَقَامَ بِهِ كَمَثَلِ جِرَابٍ مَحْشُوٍّ مسْكًا يَفُوحُ رِيحُهُ فِي كُلِّ مَكَانٍ، وَمَثَلَ مَنْ تَعَلَّمَهُ، فَيَرْقُدُ وَهُوَ فِي جَوْفِهِ، كَمَثَلِ جِرَابٍ أوكِي عَلَى مِسْكٍ

“พวกเจ้าจงศึกษาอัลกุรอานและอ่านมัน เพราะคนที่ศึกษา อ่านและปฏิบัติตามอัลกุรอานนั้น เปรียบเสมือนภาชนะที่อัดแน่นด้วยกลิ่นห้อมที่แพร่กระจ่ายกลิ่นหอมนั้นไปทุกทิศ และคนที่ศึกษาอัลกุรอานแล้วให้นอนแน่นิ่งทั้งที่อัลกุรอานมีอยู่ภายในตัวเขา เปรียบเสมือนภาชนะที่ปิดสนิทที่ภายในเต็มไปด้วยสิ่งที่ให้กลิ่นหอม”

ที่กล่าวมานี้เป็นไปตามคำบันทึกของอิมามอัตติรมีซีย์ และอิมามอัตติรมีซีย์ได้กล่าวอีกว่า หะดีษนี้เป็นหะดีษหะซัน(อยู่ในระดับดี) จากนั้นท่านก็ได้รายงานหะดีษนี้จากสายรายงาน อัลไลษ จากชะอีดแล้วรายงานจาก อะฏออฺ เมาลา อะบีอะหฺมัด เป็นหะดีษมุรซัล(หะดีษที่รายงานโดยอัตตาบีอีนถึงท่านนบีทันที ไม่ผ่านเศาะหาบะฮฺ) อัลลอฮุอะอฺลัม อัลลอฮฺเท่านั้นที่ทรงเรู้

อัลบุคอรีย์ ได้กล่าวว่า อัลไลษได้กล่าวว่า ยะซีด อิบนุลฮาด ได้บอกว่า มีรายงานจากมุหัมมัด อิบนุอิบรอฮีม ว่า อุไซดฺ อิบนุหุไฎรฺ ได้กล่าวว่า :

ระหว่างที่เขาอ่านอัลซูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺอยู่ในค่ำคืนหนึ่ง ม้าของเขาที่มัดอยู่ใกล้ๆกับตัวเขา ดิ้นกระสับกระส่าย เขาก็หยุดอ่าน ม้าก็หยุดดิ้นด้วย และเมื่อเขาอ่านต่อ ม้าก็ดิ้นกระสับกระส่ายต่อ เขาหยุด ม้าก็หยุด แล้วเขาก็อ่าน ม้าก็ดิ้นกระสับกระส่าย ดังนั้นเขาก็หยุดอ่านทันที ระหว่างนั้นลูกชายเขาที่ชื่อยะหฺยาอยู่ใกล้กับม้าตัวนั้น เขาเกรงว่าลูกชายของเขาจะเป็นอันตราย และเมื่อเขาไปยกลูกชาย มองขึ้นไปยังท้องฟ้า(พบแสงสีประหลาด)จนไม่เห็นอีกต่อไป พอรุ่งเช้าขึ้นมา เขาได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ท่านนบี(ศ็อลฯ)ฟัง ท่านนบี(ศ็อลฯ)กล่าวว่า

“โอ้ หุไฎรฺ ทำไมเจ้าไม่อ่าน”

หุไฎรฺตอบว่า “โอ้ท่านเราะซูลุลลอฮฺ ฉันเกรงว่าจะเกิดอันตรายแก่ยะหฺยา(ลูกชาย) เพราะยะหฺยู่อยุ่ใกล้มาก ฉันจึงยกหัวขึ้นแล้วไปหาเขา เมื่อฉันยกหัวมองสู่ท้องฟ้า พบว่า เหมือนเกิดร่มเงาของดวงไฟมากมาย ฉันก็ออกไปดูจนกระทั้งฉันไม่เห็นมันอีก(จากหายไป)”

ท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) ถามหุไฎรฺว่า “เจ้ารู้ไหมว่ามันคืออะไร”

เขาตอบว่า “ไม่รู้”

ท่านตอบว่า “มันคือมะลาอิกะฮฺ ที่เข้าใกล้เสียงของเจ้า และถ้าเจ้าอ่านจนเช้า มนุษย์ก็สามารถเห็นมะลาอิกะฮฺ เขาไม่สามารถปิดบังตัวจากมนุษย์ได้”

อิมามผู้รอบรู้ อะบู อุไบดฺ อัลกอซิม อิบนุซะลาม ก็ได้บันทึกเช่นนี้ในหนังสือความประเสริฐของอัลกุรอานเช่นเดียวกัน จากการรายงานของอับดุลลอฮฺ อิบนุ ศอลิฮฺและยะหฺยา อิบนุ บุไกร์ ผ่านการรายงานทางอัลไลษ์

และมีบันทึกในอีกลักษณะหนึ่ง ที่แตกต่างจาก อุไซดฺ อิบนุหะไฎรฺ อย่างที่ได้กล่าวมา, วัลลอฮุอะอฺลัม.

เรื่องราวลักษณะเดียวกันนี้ได้เกิดขึ้นกับ ษาบิท อิบนุกอซ อิบนุชะมาซ -รอฎิยัลลอฮุอันฮุ- ซึ่งรายงานโดย อะบูอุไบดฺ[อัล-กอซิม] โดยกล่าวว่า อับบาด อิบนุอับบาด ได้บอกแก่เราว่า ญะรีร อิบนุหาซิม กล่าวว่ามีรายงานจาก ญะรีรฺ อิบนุยะซีด ว่า บรรดาผู้เฒ่าในเมืองมะดีนะฮฺได้พูดกันว่า มีคนถามท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) ว่า

“ท่านไม่เห็นที่บ้านของษาบิท อิบนุกอซ อิบนุชะมาซ เมื่อวานมีแสงเจิดจ้า”

ท่านนบี(ศ็อลฯ)กล่าว่า

“เขาคงอ่านซูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺ”

แล้วมีคนไปถาม ษาบิท และษาบิทตอบว่า “ฉันอ่าน ซูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺ”

สายรายงานของหะดีษนี้อยู่ในระดับที่ดีใช้ได้(ญัยยิด) เว้นแต่มีสายรายงานบางคนที่ยังคลุมเครือ และหะดีษนี้เป็นหะดีษมุรซัล(ไม่ผ่านเศาะหาบะฮฺ). วัลลอฮุอะอฺลัม อัลลอฮฺเท่านั้นที่ทรงรู้ความจริง.

เขียนโดย Ibm Almustofa