ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันอังคาร, 30 เมษายน 2567

อัลลอฮฺไม่เคยหลงลืมการกระทำของผู้ที่อธรรมแม้แต่นิดเดียว

ท่านอีหม่ามค็อฏฏอบ ซึ่งเป็นอุลามาอฺท่านหนึ่ง ได้เขียนไว้ในหนังสือของท่าน ซึ่งมีชื่อหนังสือว่า อาดาลาตุ้สมาอฺ ได้เล่าเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงที่ประเทศอีรัก ในเมืองแบกแดด เมื่อสี่สิบปีที่ผ่านมา หมายถึงเมื่อสี่สิบปีที่แล้วตอนที่เขียนหนังสือเล่มนี้ มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง

มีชายคนหนึ่งมีอาชีพเชือดสัตว์ เชือดแพะ เชือดแกะขาย ทุกๆเช้า กิจวัตรประจำวันของเขาต้องออกไปเชือด ทำงานทั้งวัน ตกเย็นเค้าก้อจะกลับมาที่บ้านของเค้า เป็นอย่างนี้ทุกวัน

จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อเค้าได้ออกไปทำงานตามหน้าที่ของเค้า และในระหว่างที่เค้ากำลังกลับมาที่บ้านของเค้าในช่วงมืดนั่นเอง ปรากฎว่าเค้าได้ยินเสียงเรียกขอความช่วยเหลือจากชายคนหนึ่ง ซึ่งเมื่อได้ยินเสียงเรียกร้องจึงได้รีบวิ่งไปทันที แล้วเค้าก้อสะดุดร่างของชายคนที่ขอความช่วยเหลือ ในสภาพที่ร่างกายของชายคนนั้นเต็มไปด้วยเลือด และก้อมีมีดปักอยู่ที่ตัวของเค้า

ชายเชือดสัตว์เมื่อได้เห็นสภาพเช่นนั้น จึงได้รีบแบกชายคนนั้นทันที และได้นำพาชายคนนี้ไปหาผู้คน เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือเค้า ดึงมีดออกจากร่างของเขา แต่ด้วยเลือดที่มันไหลออกมา เลือดเหล่านั้นได้เปอะเปื้อนไปทั่วร่างกายของชายเชือดสัตว์คนนั้นด้วย จนกระทั่งเมื่อเค้าแบกไปท่ามกลางผู้คน ผู้คนต่างบอกว่าชายเชือดสัตว์คนนี้คือฆาตกร เห็นไหมมีดก้ออยู่ในมือของเขา เสื้อผ้าของเขาก้อเปอะเปื้อนเลือดของชายผู้นี้ด้วย

ชายเชือดสัตว์ถูกนำตัวไป และถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร สุดท้ายแล้วกษัตริย์ในเมืองนั้นได้ตัดสินให้ประหารชายเชือดสัตว์คนนี้ เมื่อชายเชือดสัตว์ได้ถูกนำตัวมาที่ลานประหาร เขาได้พูดขึ้นมาว่า ขอสาบานแด่อัลลอฮฺ ฉันมิได้เป็นฆาตกร ฉันไม่ได้ฆ่าชายคนนั้น แต่ฉันเคยเป็นฆาตกร เมื่อ 20 ปีที่แล้ว และวันนี้อัลลอฮุตาอาลา กำลังชำระความกับฉันแล้ว เรื่องราวที่ถูกปกปิดมา 20 ปี วันนี้กำลังจะถูกชำระแล้ว ฉันไม่ใช่ฆาตกรฆ่าชายคนนั้น แต่เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ฉันได้เป็นฆาตกรฆ่าผู้หญิงคนหนึ่ง

ชายเชือดสัตว์คนนั้นได้เริ่มเล่าเรื่องราวเมื่อ 20 ปีที่แล้วว่า เมื่อตอนที่ฉันยังเป็นหนุ่ม ฉันมีอาชีพเรือโดยสารรับส่งคนข้ามฟาก แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งพร้อมกับลูกสาวมาอาศัยข้ามฟากเป็นประจำ และฉันก้อหลงรักในตัวของลูกสาวของผู้หญิงคนนี้ ตัวผู้หญิงเองก้อมีความรักกับฉันด้วย มีความชอบพอกัน เธอทั้งสองได้โดยสารเรือของฉันอยู่เป็นประจำ แต่ด้วยความจนของฉัน เมื่อฉันได้ไปสู่ขอลูกสาวบ้านนี้ปรากฎว่า บิดาของเค้าไม่อนุญาติให้ฉันแต่งงานกับลูกสาวของเค้า และระยะเวลาก้อได้ผ่านไป 2 ปีกว่าที่ฉันไม่ได้เจอผู้หญิงที่ฉันรักคนนี้เลย

สองปีให้หลังปรากฎว่าผู้หญิงคนรักของเขาได้มาพร้อมกับลูกน้อยของเธอคนหนึ่ง มาโดยสารเรือทั้งๆที่ฉันไม่ได้เจอเธอมาสองปีกว่าแล้ว เมื่อขึ้นเรือ ฉันก้อได้พูดถึงความหลัง เธอได้โดยสารเรือกับลูกน้อยของเธอ พร้อมกับฉันโดยไม่มีผู้ใดในเรือนั้นอีกเลย เมื่อเรือได้มาถึงกลางแม่น้ำ ฉันได้พูดรำลึกถึงเรื่องราวในอดีต และก้อบอกกับเธอว่า ฉันยังมีความต้องการในตัวเธออยู่ ฉันมีความปราถนาในตัวของเธอ แต่เธอได้ตอบมาว่าแท้ที่จริงฉันได้มีสามีแล้ว และฉันก้อมีลูกแล้ว นี่คือลูกของฉัน

ชายเชือดสัตว์ได้กล่าวว่า แต่ด้วยอารมณ์ใฝ่ต่ำที่มันมีอยู่ในตัวของฉัน ฉันจึงไม่ลดละในอารมณ์ของตัวเอง ฉันต้องการที่จะข่มขืนผู้หญิงคนนั้น เมื่อผู้หญิงคนนั้นไม่ยินยอม ฉันจึงได้จับลูกน้อยของเธอกดลงไปในน้ำ ลูกน้อยนั้นตะเกียกตะกาย โดยที่แม่ของเธอร้องขอชีวิต แต่ด้วยอารมณ์ชั่วของฉันที่มันมีอยู่ในตัว ฉันยังคงกดลูกน้อยของเธอลงในแม่น้ำจนกระทั่งลูกน้อย ตายต่อหน้าเธอ แล้วฉันก้อโยนลูกน้อยของเธอลงในแม่น้ำ แต่ฉันก้อยังไม่หยุดแค่นั้น ยังต้องการตัวเธออีก ผู้หญิงคนนั้นบอกให้ฉันตักวาต่ออัลลอฮฺ ยำเกรงต่ออัลลอฮฺ ฉันได้แต่งงานแล้ว

ถึงกระนั้นฉันยังต้องการข่มขืนเธอ เธอได้ตบตีฉัน ด้วยความโมโห ฉันได้จับเธอแล้วกดลงไปในน้ำ แล้วเธอก้อได้ตายไปต่อหน้าฉันอีกคน และฉันก้อได้พายเรือกลับบ้าน โดยที่ไม่มีใครล่วงรู้ความชั่วของฉันแม้แต่คนเดียว นอกจากอัลลอฮฺตาอาลา.. วันนี้อัลลอฮุตาอาลากำลังชำระความกับฉันแล้ว

อัลลอฮุตาอาลากำลังทำให้เห็นว่า เหตุการณ์เมื่อ 20 ปีที่แล้ว อัลลอฮฺไม่เคยหลงลืมการกระทำของผู้ที่อธรรมแม้แต่นิดเดียว

“ว่าลาตะฮฺสะบันนั้ลลอฮ่าฆอฟิลัน อัมมายะม่าลุซซอลีมูน”

“พวกเจ้าอย่าคิดนะว่าอัลลอฮฺ จะลืม จะละเลยความชั่วของผู้ที่อธรรม”

“แต่อัลลอฮฺจะประวิงเวลาเพื่อชำระความเมื่อถึงวันกิยามะห์นั่นเอง”

คุตบะฮฺ วันอีดิ้ลอัฏฮา ฮ.1434 มัรกัสมีนบุรี โดย เมาลานานาอีม