ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันศุกร์, 19 เมษายน 2567

ความรื่นเริงของสวนสวรรค์

อัล-ญันนะฮฺ (สวนสวรรค์ที่พำนักอันสถาพร)

สรวงสวรรค์ คือ ดินแดนแห่งสันติสุขที่อัลลอฮฺได้จัดเตรียมไว้แก่บรรดาศรัทธาชนชายหญิงในโลกอาคีเราะฮฺ

เนื้อหาของสรวงสวรรค์ที่เรากำลังจะเจาะลึกต่อไปนี้ อินชาอัลลอฮฺ จะเป็นเรื่องของลักษณะสรวงสวรรค์ รูปแบบความสุขในสรวงสวรรค์ และลักษณะของชาวสวรรค์ ซึ่งถอดมาจากคัมภีร์อัลกุรอานของอัลลอฮฺผู้ทรงสร้างสวรรค์เองและจากคำบอกเล่าของผู้ที่เคยเข้าและเหยียบย่ำสวรรค์มาแล้ว นั้นคือท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม

ชื่อของสรวงสวรรค์

สรวงสวรรค์นั้นมีเพียงแห่งเดียว แต่มีลักษณะหลากหลาย โดยมีชื่อต่าง ๆ ตามลักษณะที่หลากหลาย ดังต่อไปนี้

1. อัล-ญันนะฮฺ (สวน) : อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :
สิ่งดังกล่าวนั้น คือ กฏบัญญัติของอัลลอฮฺ โดยผู้ใดที่ภักดีต่ออัลลอฮฺและเราะสูลของพระองค์นั้น พระองค์จะให้เขาได้เข้าในญันนาตที่มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านอยู่เบื้องล่างของมัน โดยพวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นไปตลอดกาล และนั้นคือชัยชนะอันใหญ่หลวง (อัล-นิสาอ์ : 13)

2. ญันนะฮฺ อัล-ฟิรเดาสฺ (สวนฟิรเดาสฺ) : อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :
แท้จริง สำหรับบรรดาผู้ศรัทธาและปฏิบัติความดีนั้น พวกเขาจะได้รับญันนาตอัล-ฟิรเดาสฺ (สวนสวรรค์ชั้นอัลฟิรเดาสฺ) เป็นที่พำนัก (อัล-กะฮฺฟ์: 107)

3. ญันนะตุ อัดนฺ (สวนสถาพร) : อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :
นี่คือข้อตักเตือน และแท้จริงสำหรับบรรดาผู้ยำเกรงนั้น แน่นอนพวกเขาจะได้รับที่หวนกลับอันดียิ่ง คือญันนาตุอัดนฺ ที่ประตูต่าง ๆ ของมันได้ถูกเปิดไว้แล้วสำหรับพวกเขา (ศอด : 49-50)

4. ญันนะฮฺ อัลคุลดฺ (สวนนิรันดร) อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :
จงกล่าวเถิด (มุหัมมัด) ว่าสิ่งนั้น (บรรดากุฟฟาร เจว็ด และสิ่งต่าง ๆ ที่ถูกบูชานอกเหนื่อจากอัลลอฮฺ เช่น ภูตผี มะลาอิกะฮฺ อีซา และอุไซร์ เป็นต้น) ดีกว่า หรือว่าญันนะตุลคุลดฺ (สวรรค์นิรันดร์) ที่ถูกสัญญาไว้ให้แก่บรรดาผู้ยำเกรง ซึ่งมันเป็นสิ่งตอบแทนและที่หวนกลับสำหรับพวกเขา (อัล-ฟุรกอน : 15)

5. ญันนะฮฺ อัล-นะอีม (สวนแห่งความสุข) : อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า
แท้จริงบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีทั้งหลาย พวกเขาจะได้รับญันนาตุนนะอีม (สวนสวรรค์แห่งความสุข) (ลุกมาน : 8)

6. ญันนะฮฺ อัล-มะวา (สวนที่พำนัก) : อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :
ส่วนสำหรับบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีนั้น พวกเขาจะได้รับญันนาตุลมะวา (สวนสวรรค์ถิ่นพำนัก) เป็นที่พำนักอันเนื่องมาจากสิ่งที่พวกเขาได้ปฏิบัติมา (อัล-สัจญะดะฮฺ : 19)

7. ดารุสสลาม (ดินแดนศานติสุข) : อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า
พวกเขาได้รับดารุสสลาม (ดินแดนศานติสุข) ณ ที่พระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา ซึ่งพระองค์คือผู้คุ้มครองพวกเขาอันเนื่องมาจากสิ่งที่พวกเขาได้กระทำมา (อัล-อันอาม : 127)

ที่ตั้งของสรวงสวรรค์

1. อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :
และ ณ เบื้องฟ้านั้นมีปัจจัยยังชีพของสูเจ้าและสิ่งที่สูเจ้าถูกสัญญาไว้ (หมายถึงสรวงสวรรค์) (อัซ-ซาริยาด : 22)

2. อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :
(แล้วพวกเจ้า-ชาวมุชริกกีน-ยังจะโต้เถียงกับเขา (นบีมุหัมมัด) ในเรื่องการพบปะของเขากับมลาอิกกะฮฺญิบรีลในคืนอิสรออฺมิรอจญฺอีกหรือ?) ทั้ง ๆ ที่เขา (นบีมุหัมมัด) ได้เห็นเขา (มลาอิกะฮฺญิบรีล) อีกครั้งหนึ่ง ณ ต้นสิดเราะตุลมุนตะฮา (ต้นพุทราที่เป็นจุดสิ้นสุด) ซึ่ง ณ ที่นั้นแหล่ะคือญันนะตุลมะวา (อัน-นัจญ์: 13-15)

3. และอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ ได้รายงานจากท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ว่า…
“ผู้ใดที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺและเราะสูลของพระองค์ ดำรงการนมาซและถือศีลอดในเดือนรอมฎอนแล้ว อัลลอฮฺก็จะให้เขาได้เข้าสรวงสวรรค์อย่างแน่นอน ไม่ว่าเขาจะอพยพไปในหนทางของอัลลอฮฺหรือว่าจะปักหลังอาศัยอยู่ในถิ่นฐานเดิมที่เขาเกิดมาก็ตาม” พวกเขาถามว่า โอ้ ท่านเราะสูลัลลอฮฺ แล้วพวกเราจะไม่บอกสิ่งนั้นให้ผู้อื่นทราบหรือ? ท่านกล่าวว่า “แท้จริงแล้ว ในสรวงสวรรค์นั้นมีหนึ่งร้อยชั้น ซึ่งอัลลอฮฺได้เตรียมไว้สำหรับผู้ที่ต่อสู้ในหนทางของพระองค์ โดยระยะระหว่างสองชั้นนั้นห่างกันเหมือนท้องฟ้ากับแผ่นดิน และเมื่อพวกท่านจะขอ (สวรรค์) จากอัลลอฮฺ พวกท่านจงขอสวรรค์อัล-ฟิรเดาสฺเถิด เพราะมันคือสวรรค์ที่อยู่ตรงกลางที่สุด เป็นสวรรค์ชั้นสูงสุด เบื้องบนของมันคือบรรลังค์ของพระเจ้าผู้ทรงกรุณา และจากที่นั้นเองที่แม่น้ำสายต่าง ๆ ของสวรรค์พุ่งกำเนิดออกมา” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ : 7433)

4. มีรายงานจากอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ ว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า…
“คนมุมินนั้น เมื่อความตายย่างกรายมาถึง มะลาอิกะฮฺเราะมัตก็จะมาหาเขา โดยเมื่อวิญญาณของเขาถูกปลิดลง มันจะถูกเก็บไว้ในเส้นไหมสีขาว แล้ว (มะลาอิกะฮฺ) ก็จะนำมันไปยังประตุท้องฟ้า แล้วพวกเขา (เหล่ามะลาอิกะฮฺชาวฟ้า) ต่างก็พากันกล่าวว่า “เราไม่เคยได้กลิ่นหอมใด ๆ ที่หอมกว่านี้เลย” (เศาะฮีหฺ บันทึกโดยอัลหากีม หมายเลข 1304 และบันทึกโดยอิบนุหิบบาน หมายเลข 3013 และอัลอัรนะอูฏกล่าวว่า “อิสนาดเศาะฮีหฺ”)

ชื่อประตูต่างๆของสรวงสวรรค์

มีรายงานจากอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า…
“ผู้ใดที่บริจาคทรัพย์สินสองอย่างในหนทางของอัลลอฮฺ เขาจะถูกเรียกจากประตูต่าง ๆ ว่า “โอ้ท่านผู้เป็นบ่าวของอัลลอฮฺ นี่แหละคือสิ่งที่ดี” โดยผู้ที่เป็นนักละหมาดก็จะถูกเรียกจากประตูละหมาด ผู้ที่เป็นนักญิฮาดก็จะถูกเรียกจากประตูญิฮาด ผู้ที่เป็นนักถือศีลอดก็จะถูกเรียกจากประตูอัล-ร็อยยาน และผู้ที่เป็นนักบริจาคก็จะถูกเรียกจากประตูบริจาค

แล้วอบูบักรฺ ก็ถามว่า โอ้ ท่านเราะสูลุลลอฮฺ มีความจำเป็นแก่ผู้ที่ถูกเรียกจากประตูต่าง ๆ เหล่านั้นประการใดหรือ? และมีไหมที่คนหนึ่งคนจะถูกเรียกจากประตูต่าง ๆ เหล่านั้นทั้งหมด? ท่านตอบว่า “มี และฉันหวังว่า ท่านคงเป็นคนหนึ่งในจำนวนนั้น” (มุตตะฟัก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 1897 และมุสลิม หมายเลข 1027)

ความกว้างของประตูสวรรค์

1.จากอุตบะฮฺ บินฆ็อซฺวาน เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่า…
“เราได้รับรายงานว่าระหว่างสองบานของประตูสวรรค์นั้นมีระยะห่างกันถึงสี่สิบปี และจะมีวันหนึ่งที่มันเต็มล้นด้วยความแออัด” (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 2967)

2. จากอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่า…
“วันหนึ่ง ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัยลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้รับเนื้อ … และในตอนท้าย ท่านได้กล่าวว่า “ขอสาบานต่อพระเจ้าผู้ซึ่งชีวิตของมุหัมมัดอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ว่า ช่วงระหว่างสองบานประตูสวรรค์นั้น เหมือนช่วงระหว่างเมืองมักกะฮฺกับเมืองฮะญัร หรือ เหมือนช่วงระหว่างเมืองมักกะฮฺกับเมืองบุศรอ (มุตตะฟัก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ หมายเลข 4712 และมุสลิมตามสำนวนนี้ หมายเลข 194)

จำนวนประตูทางเข้าของสรวงสวรรค์

1. อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า
และบรรดาผู้ยำเกรงต่อพระเจ้าของพวกเขาจะถูกนำไปยังสวรรค์เป็นกลุ่ม ๆ จนกระทั่งเมื่อพวกได้มาถึงมัน (สวรรค์) ในสภาพที่ประตูทั้งหลายของมันจะถูกเปิดไว้แล้ว และเจ้าหน้าที่สวรรค์ก็จะกล่าวแก่พวกเขาว่า “ศานติสุขจงมีแด่ท่าน พวกท่านเป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว ขอเชิญเข้าไปพำนักอย่างนิรันดรเถิด” (อัซซุมัร : 73)

2. จากสะฮฺล์ บินสะอฺด์ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัยลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า…
“ในสรวงสวรรค์นั้นมีแปดประตูด้วยกัน ในจำนวนนั้น มีประตูหนึ่งชื่อว่า “อัรร็อยยาน” ซึ่งผู้ที่ถือศีลอดเท่านั้นที่จะได้เข้าทางประตูนี้” (มุตตะฟัก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 3257 และมุสลิม หมายเลข 1152)

ประตูสรวงสวรรค์เปิดอ้าต้อนรับชาวสวรรค์

อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า
นี่คือข้อตักเตือน และแท้จริงสำหรับบรรดาผู้ยำเกรงนั้น แน่นอน พวกเขาย่อมได้รับที่หวนกลับอันดียิ่ง คือ สรวงสวรรค์อันสถาพรซึ่งประตูของมันทุกบานจะถูกเปิดอ้าไว้เพื่อต้อนรับพวกเขา (ศ็อด : 49-50)

เวลาเปิดประตูสวรรค์ในปัจจุบัน

1. มีรายงานจากอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ-ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า…
“ประตูต่าง ๆ ของสรวงสวรรค์จะถูกเปิดออกในวันจันทร์และวันพฤหัสบดี แล้วบ่าวทุกคนที่ไม่ตั้งภาคีเทียบเคียงกับอัลลอฮฺก็จะได้รับการประทานอภัยโทษ ยกเว้นชายที่มีความเคืองแค้นต่อพี่น้องของเขา ซึ่งเขาจะถูกกล่าวว่า “ประวิงสองคนนี้ไว้ก่อนจนกว่าทั้งสองจะคืนดี” สามครั้ง (หมายถึง อย่าเพิ่งยกโทษให้จนกว่าเขาจะคืนดี) (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 2565)

2. อบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า…
“เมื่อเดือนรอมฎอนมาถึง ประตูสวรรค์ก็จะถูกเปิด ประตูนรกจะถูกปิด และบรรดามารร้ายชัยฏอนจะถูกล่ามโซ่” (มุตตะฟัก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 3277 และมุสลิม หมายเลข 1079)

3. อุมัร บินอัลค็อฏฏ็อบ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า…
“ทุก ๆ คนในหมู่พวกท่านที่อาบน้ำละหมาดอย่างดี แล้วกล่าวว่า “อัชฮะดุ อัลลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮฺ วะอันนะ มุหัมมะดัน อับดุลลอฮิ วะเราะสูลุฮฺ” (แปลว่า ฉันขอปฏิญาณว่าอัลลอฮฺเท่านั้นคือพระเจ้าผู้สมควรแก่การกราบไหว้อย่างแท้จริง และมุหัมมัดนั้นเป็นบ่าวและศาสนทูตของพระองค์) เขาจะได้รับการเปิดประตูสวรรค์ทั้งแปดให้ ซึ่งเขาสามารถจะเข้าทางประตูใด ๆ แล้วแต่เขาประสงค์ (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 234)

บุคคลแรกที่จะได้เข้าสวรรค์

ท่านอนัส เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัมได้กล่าวว่า…
“ฉันมาถึงประตูสวรรค์ในวันกิยามะฮฺแล้วฉันก็ขอให้เปิด ผู้รักษาประตูจึงถามว่า “ท่านคือใคร? ฉันตอบว่า “มุหัมมัด” เขากล่าวว่า “ฉันได้รับคำสั่งให้เปิดประตุแก่ท่าน โดยฉันจะไม่เปิดให้แก่ผู้ใดก่อนหน้าท่าน” (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 197)

ประชาชาติแรกที่จะได้เข้าสวรรค์

มีรายงานจากอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า…
“พวกเราคือพวกสุดท้ายที่อยู่ในลำดับแรกในวันกิยามะฮฺ และพวกเราคือพวกแรกที่ได้เข้าสวรรค์ ” (มุตตะฟัก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ หมายเลข 876 และมุสลิมตามสำนวนนี้ หมายเลข 855)

คนกลุ่มแรกที่ได้เข้าสวรรค์

1.มีรายงานจากอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า…
“กลุ่มคนแรกที่ได้เข้าสวรรค์นั้น (มีความงดงาม) ดั่งดวงเดือนในคืนจันทร์เพ็ญ จากนั้นผู้ถัดจากพวกเขา (จะมีความงดงาม) เจิดจรัสยิ่งกว่าดวงดาวที่ทอแสงประกายบนท้องฟ้า พวกเขาไม่ถ่ายปัสสาวะ ไม่ถ่ายอุจจาระ ไม่ถ่มน้ำลาย ไม่สั่งน้ำมูก หวีของพวกเขาเป็นหวีทอง เหงื่อของพวกเขาเป็นชะมดเชียง ไม้หอมที่พวกเขาจุดเป็นควันคือไม้อุลวะฮฺ (ไม้หอมอินเดีย) คู่ครองของพวกเขาคือนางงามแห่งแดนสวรรค์ สัดส่วนเรือนร่างพวกเขาเป็นสัดส่วนของชายคนเดียว คืออยู่ในรูปทรงเรือนร่างของอาดัม บิดาของพวกเขา สูงหกสิบศอก” (มุตตะฟัก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 3327 และมุสลิม หมายเลข 3843)

2. มีรายงานจากสะฮฺล์ บินสะอฺด์ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า…
“ประชาชาติของฉันจะได้เข้าสวรรค์อย่างแน่นอนเป็นจำนวนเจ็ดหมื่นหรือเจ็ดแสนคน พวกเขาจะได้เข้าไปด้วยความสุขุมเรียบร้อย ต่างเกาะเกี่ยวซึ่งกันและกัน คนลำดับแรกจะไม่ได้เข้าจนกว่าคนลำดับสุดท้ายจะเข้าไป (หมายถึงทุกคนต่างเข้าประตูสวรรค์เป็นแถวเดียวแบบเรียงหน้ากระดานไม่มีใครอยู่ข้างหลังคนอื่น – ผู้แปล) ใบหน้าของพวกเขางดงามคล้ายกับดวงจันทร์ในคืนจันทร์เพ็ญ” (มุตตะฟัก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ หมายเลข 3543 และมุสลิมตามสำนวนนี้ หมายเลข 219)

3. อับดุลลอฮฺ บินอัมรฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา กล่าวว่า ฉันเคยได้ยินท่านเราะสูลุลลอฮฺศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า…
“แท้จริงแล้ว ชาวมุฮาญิรินที่ยากจนจะได้เข้าสวรรค์ก่อนคนที่ร่ำรวยในวันกิยามะฮฺเป็นเวลาสี่สิบเคาะรีฟ(ระยะเวลาที่ใช้นับฤดูกาล)” (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 2979) (ในอีกหะดีษหนึ่งระบุว่าชาวมุฮาญิรินที่ยากจนจะได้เข้าสวรรค์ก่อนคนที่ร่ำรวยในวันกิยามะฮฺครึ่งวันอาคีเราะฮฺหรือห้าร้อยปีของโลกดุนยา ดูอิหม่ามอะหมัด 2/343 –ผู้แปล)

อายุของชาวสวรรค์

มีรายงานจากมุอาซ บินญะบัล เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า…
“ชาวสวรรค์จะได้เข้าสวรรค์ในสภาพคนเพิ่งแตกเนื้อหนุ่มที่หนวดเริ่มงอก ไม่มีเครา ไม่มีขนตามลำตัว เบ้าตาดำ วัยสามสิบหรือสามสิบสามปี” (หะสัน บันทึกโดยอะหมัด หมายเลข 7920 และบันทึกโดยอัตติรมิซีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 2545)

ลักษณะใบหน้าของชาวสวรรค์

1.อัลลอฮฺตะอาลาได้ตรัสว่า…
แท้จริงบรรดาคนดีนั้นย่อมได้อยู่ในความสุขสบายอย่างแน่นอน พวกเขาต่างพากันมอง (ความโปรดปรานที่อัลลอฮฺประทานให้) บนที่นั่งอันโอ่อ่า เจ้าจะเห็นประกายแห่งความเบิกบานฉายเด่นบนใบหน้าของพวกเขา (อัล-มุฏ็อฟฟิฟีน : 22-24)

2.อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า…
หลายใบหน้าในวันนั้นจะเปล่งปลั่งเบิกบานยิ่ง ที่ได้มองเห็นพระเจ้าของเขา (อัล-กิยามะฮฺ : 22-23)

3.อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า…
หลายใบหน้าในวันนั้นจะมีความสุขอันเนื่องมาจากกิจการงานของเขา (ที่กระทำไว้ครั้งอยู่ในโลกดุนยา) มีความพึงพอใจ (ในผลตอบแทนที่ได้รับในโลกอาคิเราะฮฺ และพวกเขาได้อยู่) ในสวรรค์อันสูงส่ง (อัล-ฆอชิยะฮฺ : 8-10)

4. อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า…
หลายใบหน้าในวันนั้นแจ่มใส หัวเราะดีใจร่าเริง (อะบะซะ : 39-40)

5. อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า…
และส่วนบรรดาผู้ที่ใบหน้าของเขาขาวผ่องนั้น พวกเขาจะอยู่ในความเมตตาของอัลลอฮฺ โดยพวกเขาจะอยู่ ณ ที่นั้นไปตลอดกาล (อาลิอิมรอน : 107)

6. มีรายงานจากอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า…
“กลุ่มคนแรกที่ได้เข้าสวรรค์นั้นมีความงดงามดั่งดวงจันทร์ในคืนจันทร์เพ็ญ และคนถัดจากพวกเขางดงามเหมือนดวงดาวที่สวยงามที่สุดที่ทอแสงระยิบระยับอยู่บนท้องฟ้า หัวใจของพวกเขาทั้งหมดอยู่ในสภาพหัวใจของคน ๆ เดียว ไม่มีการโกรธเคืองและไม่มีการอิจฉาริษยาระหว่างกัน ” (มุตตะฟัก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 3354 และมุสลิม หมายเลข 2834)

การต้อนรับชาวสวรรค์

1.อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า…
และบรรดาผู้ยำเกรงต่อพระเจ้าของพวกเขาจะถูกนำไปยังสวรรค์เป็นกลุ่ม ๆ จนกระทั่งเมื่อพวกเขาได้มาถึงที่นั้นและประตูของมันก็ได้เปิดไว้แล้ว ผู้รักษาประตูสวรรค์จะกล่าวแก่พวกเขาว่า ความศานติจงมีแด่พวกท่าน พวกท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ ดังนั้น จงเข้าไปอยู่ในนั้นอย่างถาวรตลอดกาล (อัซซุมัร : 73)

2. อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า…
สวนสวรรค์อันสถาพรที่พวกเขาได้เข้าไปอยู่พร้อมกับคนดี ๆ ในหมู่พ่อแม่บรรพบุรุษ คู่ครอง และลูกหลานของพวกเขา ซึ่งบรรดามลาอิกะฮฺจะเข้ามาหาพวกเขาจากทุก ๆ ประตูพร้อมกล่าวอวยพรว่า “ความศานติจงมีแด่พวกท่าน ด้วยเหตุที่พวกท่านได้อดทนมา มันจึงช่างเป็นที่พำนักสุดท้ายอันดีเลิศเสียเหลือเกิน” (อัรเราะอฺด์ : 23-24)

3.อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า…
ความตื่นตระหนกโกลาหลครั้งยิ่งใหญ่ไม่ได้ทำให้พวกเขาเศร้าหมองเลย และบรรดามลาอิกะฮฺจะมาพบปะอวยพรให้แก่พวกเขาว่า “นี่แหละ คือวันของพวกท่านที่พวกท่านได้ถูกสัญญาไว้” (อัลอัมบิยาอฺ : 103)

ผู้ที่ได้เข้าสรวงสวรรค์โดยไม่ต้องถูกสอบสวนหรือลงโทษ

1.อิบนุอับบาส เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา เล่าว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า…
“ประชาชาติต่าง ๆ ได้ถูกแสดงให้ฉันเห็น (ในคืนอิสรออฺ) ซึ่งฉันได้พบว่ามีนบีที่ผ่านไปพร้อม ๆ กับผู้ติดตามจำนวนมาก มีนบีที่ผ่านไปพร้อม ๆ ผู้ติดตามไม่กี่คน มีนบีที่ผ่านไปพร้อมกับผู้ติดตามสิบคน มีนบีที่ผ่านไปพร้อมกับผู้ติดตามห้าคน และมีนบีที่ผ่านไปอย่างโดดเดี่ยวเพียงคนเดียว แล้วฉันก็เพ่งมองไป อยู่ ๆ ก็ปรากฏฝูงชนจำนวนมาก ฉันเลยถามว่า “โอ้ ญิบรีล คนเหล่านี้คือประชาชาติของฉันหรือ?” เขาตอบว่า “ไม่ใช่หรอก แต่ท่านลองมองไปยังที่ๆไกลลิบสุดขอบฟ้านั่นซิ” ฉันเลยเพ่งมองไป ปรากฏว่ามีฝูงชนเป็นจำนวนมาก เขากล่าวว่า “นั่นแหละคือประชาชาติของท่าน และนั่นอีกเจ็ดหมื่นก่อนหน้าคนเหล่านั้น จะไม่มีการตรวจสอบและการลงโทษใด ๆ ต่อพวกเขา” ฉันถามว่า “เป็นเพราะเหตุอันใดหรือ?” เขาตอบว่า “เป็นเพราะพวกเขาไม่เคยรักษาโรคด้วยวิธีที่ต้องห้าม ไม่เคยเป่าปัดบำบัดโรคด้วยคาถาที่ต้องห้าม และไม่เคยเชื่อในลางร้ายต่าง ๆ และพวกเขาต่างมอบตนต่อพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา” (มุตตะฟัก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 6541 และมุสลิม หมายเลข 220)

2. อบูอุมามะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่า ฉันได้ยินท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า…
“พระเจ้าผู้มหาบริสุทธิ์ยิ่งของฉันได้สัญญาต่อฉันว่าพระองค์จะให้ประชาชาติของฉันจำนวนเจ็ดหมื่นคนได้เข้าสรวงสวรรค์โดยไม่มีการสอบสวนและการลงโทษใด ๆ ต่อพวกเขา โดยแต่ละหนึ่งพันคนนั้นจะสมทบด้วยคนอื่นอีกเจ็ดหมื่นคน และสามกำจากกำของพระเจ้าของฉันผู้สูงส่ง”
(เศาะฮีห บันทึกโดยอัตติรมิซีย์ หมายเลข 2437 และบันทึกโดยอิบนุมาญะฮฺตามสำนวนนี้ หมายเลข 4286)

ลักษณะพื้นดินและสิ่งปลูกสร้างในสรวงสวรรค์

1.อนัส เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่า…
“ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม เมื่อครั้งที่ท่านได้ถูกนำตัวขึ้นสู่ฟากฟ้านั้น ท่านได้เล่าว่า “…แล้วเขา (ญิบรีล) ก็มุ่งหน้าไป จนกระทั่งเขาได้นำฉันมาถึงต้นสิดเราะตุลมุนตะฮา (ต้นพุทราที่เป็นจุดรวบรวมการงานของปวงมนุษย์) แล้วก็ปรากฏสีต่าง ๆ มาปกคลุมมันซึ่งฉันเองก็ไม่รู้จะบอกว่ามันช่างสวยงามอย่างไร จากนั้นฉันได้ถูกนำเข้าไปในสวรรค์ ซึ่งได้พบว่าในนั้นมีตึกไข่มุกกลม ๆ สูงตระหง่าน และได้พบว่าพื้นดินของมันนั้นคือน้ำหอมชะมดเชียง” (มุตตะฟัก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 3342 และมุสลิม หมายเลข 163)

2.อบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่า…
“พวกเราได้ถามว่า โอ้ ท่านเราะสูลัลลอฮฺ … สรวงสวรรค์นั้น อาคารสิ่งก่อสร้างของมันทำจากอะไร?” ท่านตอบว่า “อิฐก้อนหนึ่งทำจากเงิน และอีกก้อนหนึ่งทำจากทองคำ (สลับกันไป) ปูนฉาบของมันคือน้ำหอมชะมดเชียงอันหอมกรุ่น ก้อนกรวดคือไข่มุกและพลอย และพื้นดินคือหญ้าฝรั่นเหลืองอร่าม ผู้ที่ได้เข้าไปในนั้นจะมีความสุขไม่เศร้าโศก จะคงอยู่ไปตลอดไม่เสียชีวิตเสื้อผ้าของพวกเขาจะไม่หมองเก่า และความหนุ่มความสาวของเขาจะไม่สิ้นสลาย” (เศาะฮีห บันทึกโดยอัตติรมิซีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 2526 และบันทึกโดยอัดดาริมีย์ หมายเลข 2717(

3.อบูสะอีด เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่า…
“อิบนุศ็อยยาดได้ถามท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม เกี่ยวกับพื้นดินของสวรรค์ว่าเป็นเช่นไร? ท่านเลยตอบว่า มันเป็นดินที่นุ่มละเอียดมาก เป็นน้ำหอมชะมดเชียงบริสุทธิ์” (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 2928 )

มุหัมมัด อิบรอฮีม อัตตุวัยญิรีย์

แปลโดย : สุกรี นูร จงรักสัตย์

ขอให้อัลลอฮฺทรงตอบแทนความดีแก่ท่านเหล่านี้ด้วย… อามีน.