ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันอังคาร, 7 พฤษภาคม 2567

แอมเนสตี้จี้อาเซียนจัดประชุมฉุกเฉิน แก้วิกฤตโรฮีนจาอย่างจริงจัง

แอมเนสตี้ส่งจดหมายกระตุ้นอาเซียน เร่งแก้ไขวิกฤตโรฮีนจาอย่างจริงจัง จัดประชุมฉุกเฉิน เพื่อหาทางแก้ไขวิกฤตล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา ระบุที่ผ่านมายังมีท่าทีไม่ชัดเจน สอบสวนหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เรียกร้องให้ผู้นำประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงต่อชาวโรฮีนจาในเมียนมา

ในจดหมายลงนามโดยผู้อำนวยการ 13 คน จากสำนักงานของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก มี ประเทศออสเตรเลีย ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย มองโกเลีย เนปาล นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ ไทย และไต้หวันเรียกร้องให้อาเซียนจัดประชุมสุดยอดฉุกเฉิน เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตด้านสิทธิมนุษยชนและ มนุษยธรรมในตอนเหนือของรัฐยะไข่ของเมียนมา

นายเจมส์ โกเมซ ผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเปิดเผยว่าอาเซียนยังไม่ได้แสดงจุดยืนใดๆ ในขณะที่รัฐภาคีใช้ปฏิบัติการความรุนแรงเพื่อล้างเผ่าพันธุ์

“รัฐบาลประเทศต่างๆ ในภูมิภาค ต้องยึดมั่นปฏิบัติตามพันธกิจด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งบัญญัติไว้ในกฎบัตรอาเซียน ในขณะที่กองทัพเมียนมาได้แสดงความดูหมิ่นต่อพันธกิจอย่างชัดเจน และยังคงเดินหน้าก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติกับชาวโรฮีนจาต่อไป”

นายเจมส์ โกเมชเปิดเผยว่านับแต่กลุ่มติดอาวุธชาวโรฮีนจาโจมตีป้อมของฝ่ายความมั่นคงในเมียนมาเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560 รัฐบาลเมียนมาได้เริ่มก่อปฏิบัติการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โหดร้าย และรุนแรงต่อชาวโรฮิงญา แอมเนสตี้ได้เก็บข้อมูลการละเมิดสิทธิมนุษยชนมากมายหลายครั้ง รวมทั้งการสังหารแบบไม่ชอบด้วยกฎหมาย การวางเพลิงเผาบ้านเรือนและหมู่บ้านต่างๆ ในวงกว้าง

“ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของการล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งในทางกฎหมายถือว่าเป็น อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ รวมไปถึงการสังหารและการเนรเทศ หรือการบังคับให้ประชากรต้องเคลื่อนย้ายถิ่นฐาน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลยืนยันด้วยว่ามีการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลโดยกองทัพเมียนมา”

นายเจมส์ โกเมชเปิดเผยว่าอาเซียนได้แสดงท่าทีต่อกรณีนี้ โดยออกแถลงการณ์ฉบับหนึ่งเมื่อวันที่ 24 ก.ย.60 เกือบหนึ่งเดือนหลังความโหดร้ายในรัฐยะไข่เริ่มขึ้น โดยอาเซียนได้แสดงข้อกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่หลีกเลี่ยงไม่ใช้แม้แต่คำว่า “โรฮีนจา” และแถลงการณ์นี้มีเนื้อหาค่อนข้างอ่อน

รายงานข่าวว่าจดหมายของแอมเนสตี้เปิดเผยว่าการแสดงท่าทีเช่นนี้ยังไม่เพียงพอ และอาเซียนจำเป็นต้องแสดงท่าทีต่อวิกฤตในเมียนมาอย่างจริงจังมากกว่านี้ แอมเนสตี้เรียกร้องรัฐบาลฟิลิปปินส์ ในฐานะประธานคนปัจจุบันของอาเซียน ให้เรียกประชุมสุดยอดฉุกเฉินระดับอาเซียน เพื่อให้มีการอภิปรายถึงปัญหาในเมียนมา ให้ยุติความรุนแรง การละเมิดสิทธิมนุษยชน และอาชญากรรมตามกฎหมายระหว่างประเทศ และ ประกันให้ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และสามารถเดินทางกลับถิ่นฐานของตนได้อย่างปลอดภัยและ มีศักดิ์ศรี สำหรับผู้ที่สมัครใจจะกลับ

“ยุติการเลือกปฏิบัติที่ฝังรากลึกต่อชาวโรฮีนจา สนับสนุนการสอบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นอิสระ และให้นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย”

ที่มาของเนื้อหา : www.matichon.co.th