ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันพุธ, 8 พฤษภาคม 2567

ผุดแผนค่ายใหม่รับโรฮีนจา8แสน


รัฐบาลบังกลาเทศประกาศแผนสร้างค่ายผู้ลี้ภัยแห่งใหม่เพื่อรองรับผู้อพยพชาวโรฮีนจาทั้งหมด 8 แสนกว่าคน ที่รวมถึงกลุ่มใหม่ที่หนีภัยความรุนแรงในรัฐยะไข่ของเมียนมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ขณะผู้บัญชาการกองทัพเมียนมาอ้าง กลุ่มอาร์ซาวางเพลิงบ้านชาวโรฮีนจาเพิ่มอีกแล้วไล่พวกเขาหนีข้ามแดน

คำประกาศแผนการสร้างค่ายลี้ภัยแห่งใหม่ที่จะเป็นค่ายที่ใหญ่ที่สุดค่ายหนึ่งของโลกรองรับผู้ลี้ภัยเกือบ 1 ล้านคนนี้ มีออกมาในช่วงเวลาเดียวกับที่ทางการบังกลาเทศพยายามปราบปรามขบวนการลักลอบขนชาวโรฮีนจาข้ามแดนผ่านทางแม่น้ำนาฟ โดยเจ้าหน้าที่ทางการบังกลาเทศเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคม 2560 ว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำลายเรือประมงไม่ต่ำกว่า 30 ลำที่ไต้ก๋งลักลอบขนชาวโรฮีนจามากกว่า 700 คนข้ามแม่น้ำนาฟจากฝั่งเมียนมามายังบังกลาเทศเมื่อวันอังคาร

เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันชายฝั่งรายหนึ่งเผยกับเอเอฟพีว่า คนเรือเหล่านี้ถูกจับได้พร้อมกับยาบ้าประมาณ 100,000 เม็ดด้วย

ความรุนแรงในรัฐยะไข่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเมียนมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ได้ผลักดันให้ชาวมุสลิมโรฮีนจาอพยพข้ามแดนทั้งทางบกและทางน้ำเข้ามายังบังกลาเทศแล้วมากกว่า 500,000 คน เพิ่มภาระแก่ค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศที่รองรับผู้อพยพชาวโรฮีนจาอยู่แล้วกว่า 300,000 คน

ทางการบังกลาเทศมีแผนจะขยายค่ายผู้ลี้ภัยแห่งหนึ่งในเมืองกูตูปาลองที่อยู่ใกล้เมืองคอกซ์บาซาร์ เมืองติดชายแดนเมียนมา เพื่อรองรับผู้อพยพชาวโรฮีนจาเหล่านี้ทั้งหมด

เมื่อเดือนที่แล้ว บังกลาเทศได้จัดสรรพื้นที่อีก 5,000 ไร่ที่อยู่ติดกับค่ายเดิมในเมืองกูตูปาลองนี้สำหรับรองรับผู้อพยพชุดใหม่ที่เดินทางมาถึง แต่จำนวนผู้อพยพได้เพิ่มเกินกว่า 500,000 คนแล้ว ทำให้ทางการบังกลาเทศต้องจัดสรรที่ดินเพิ่มอีกสำหรับค่ายแห่งใหม่

มูฟัซซาล ฮุสเซน เชาดูรี มายา รัฐมนตรีด้านบรรเทาทุกข์และจัดการภัยพิบัติ กล่าวว่า ต่อไปผู้อพยพชาวโรฮีนจาทั้งหมดจะถูกย้ายมายังค่ายแห่งใหม่นี้ ทั้งจากค่ายเดิม 23 แห่งที่ตั้งอยู่ตลอดแนวชายแดน และค่ายชั่วคราวแห่งใหม่หลายแห่งรอบเมืองคอกซ์บาซาร์

รัฐมนตรีผู้นี้เปิดเผยด้วยว่า บังกลาเทศได้ปิดค่ายที่มีอยู่เดิมแล้ว 2 แห่ง

ทางการบังกลาเทศแถลงในสัปดาห์นี้ว่า หลังจากเว้นช่วงมาระยะหนึ่ง ก็มีชาวโรฮีนจาเดินทางข้ามแดนเข้ามาอีกวันละ 4,000-5,000 คน และมีอีก 10,000 คนรออยู่บริเวณชายแดนเมียนมา

องค์การยูนิเซฟและหน่วยงานบรรเทาทุกข์ขององค์การสหประชาชาติกล่าวกันว่า วิกฤติชาวโรฮีนจาครั้งนี้เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านผู้ลี้ภัยที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก และเรียกร้องให้นานาชาติบริจาคเงินช่วยเหลือ 430 ล้านดอลลาร์ เพื่อจัดหาสิ่งของจำเป็นแก่ผู้อพยพชาวโรฮีนจาที่มีมากกว่า 800,000 คนในบังกลาเทศ

วิกฤติผู้อพยพระลอกล่าสุดนี้เกิดขึ้นภายหลังกองทัพเมียนมาเปิดปฏิบัติการกวาดล้างกองกำลังติดอาวุธชาวโรฮีนจากลุ่มอาร์ซา (กองทัพปลดปล่อยโรฮีนจาแห่งอาระกัน) ที่โจมตีที่มั่นของกองกำลังความมั่นคง 30 แห่งพร้อมกันเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ชาวโรฮีนจาที่หนีภัยข้ามแดนพากันบอกเล่าถึงความโหดร้ายโดยฝีมือของทหารและชาวพุทธยะไข่ ที่วางเพลิง สังหารและข่มขืน ขณะที่ทางการเมียนมาปฏิเสธคำกล่าวหานี้และกล่าวโทษโรฮีนจาว่าวางเพลิงหมู่บ้านของพวกเขาเอง

เมื่อวันพฤหัสบดี พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา ลงแถลงการณ์ในเฟซบุ๊ก กล่าวหาผู้ก่อการร้ายอาร์ซาว่าวางเพลิงบ้าน 7 หลังในหมู่บ้านของชาวโรฮีนจาในเมืองบูทีด่องเมื่อเช้ามืดวันพุธ แล้วจากนั้นก็สั่งให้ชาวบ้านหนีข้ามชายแดนมายังบังกลาเทศ.

ที่มาของเนื้อหา : www.thaipost.net