ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันพุธ, 8 พฤษภาคม 2567

รัฐบาลพม่าประกาศความพร้อม รับลงทะเบียนผู้อพยพมุสลิมโรฮิงญากลับคืนถิ่นที่อยู่


ย่างกุ้ง – รัฐมนตรีกิจการสวัสดิการสังคมและการตั้งถิ่นฐานใหม่ของเมียนม่าร์ กล่าวว่า รัฐบาลเริ่มวางแผนการลงทะเบียนและจัดตั้งถิ่นฐานใหม่ ให้กับผู้อพยพที่ระบุตัวเองว่าเป็นมุสลิมโรฮิงญาในบังคลาเทศ ที่เมืองมวงดอว์ทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ “ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”

รัฐมนตรี U Win Myat Aye ซึ่งทำหน้าที่เป็น ประธานคณะกรรมการดำเนินการหาข้อเสนอแนะสำหรับรัฐยะไข่ กล่าวกับสื่อ เมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา ว่า แผนนี้มีงบประมาณ 2 พันล้านจั๊ด เกี่ยวข้องกับการลงทะเบียนผู้อพยพตามข้อตกลงปี 1993 (พ.ศ.2536) ระหว่างเมียนม่าร์ กับบังคลาเทศ ในหมู่บ้าน Taungpyo Letwe และ Nga Khu Ya ก่อนที่จะจัดให้อพยพย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่หมู่บ้าน Dar Gyi Zar ในเมืองมวงดอว์


ผู้ที่ระบุตัวว่าเป็นชาวโรฮิงญามุสลิม ประมาณ 480,000 คน ได้อพยพหนีข้ามเข้าไปในเขตประเทศบังคลาเทศ หลังจากที่ทหารพม่าเข้าปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธ ARSA เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา กลุ่มชาวมุสลิมที่หนีจากเมืองมวงดอว์, Rathedaung และ Buthidaung ทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ ได้บอกเล่ากับคนทั่วไปว่า พวกเขาถูกทหารพม่าสังหาร ข่มขืน และเผาบ้านเรือน ผู้สังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า มีหลักฐานภาพถ่ายดาวเทียมที่แสดงว่า หมู่บ้านของชาวโรฮิงญา ประมาณ 200 หลังใน 3 เมือง ถูกเผาทำลาย ซึ่งองค์กรสิทธิมนุษยชน สหประชาชาติ ระบุว่า สถานการณ์เช่นนี้เป็นตัวอย่างของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

U Kyaw Tint Swe รัฐมนตรีประจำสำนักที่ปรึกษาแห่งรัฐ จะเดินทางไปเจรจากับทางการบังคลาเทศ เกี่ยวกับการส่งตัวผู้อพยพกลับถิ่นเดิม


U Myint Kyaing ปลัดกระทรวงแรงงาน คนเข้าเมือง และประชากร กล่าวกับสื่อว่า รัฐบาลจะออกบัตรยืนยันการพิสูจน์สัญชาติ (NVCs) ให้กับผู้ที่ผ่านขั้นตอน ให้กลับเข้ามายังถิ่นฐานเดิม

มุสลิมที่เป็นชนส่วนมากในพื้นที่ ซึ่งระบุตัวเองว่า คือ โรฮิงญา ได้ต่อต้านโครงการ NVC ของรัฐบาลเมียนม่าร์ นับตั้งแต่ตอนที่เมียนม่าร์ยังปกครองด้วยรัฐบาลทหาร ซึ่งไม่ยอมเรียกพวกเขาว่า โรฮิงญา


ในกรณีการกลับเข้าไปตั้งรกรากใหม่ของผู้อพยพมุสลิม รัฐมนตรีประจำรัฐยะไข่ U Nyi Pu กล่าวในวันเดียวกัน ว่า รัฐบาลจะจัดหาพื้นที่ให้ ตามมาตรา 18(d) ของกฎหมายการจัดการพื้นที่จากเหตุภัยธรรมชาติของพม่า ฉบับปี 2013 ซึ่งอนุญาตให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง สามารถดำเนินการซ่อมแซมอาคารที่เสียหายจากเหตุภัยธรรมชาติได้ และหลังจากนั้น จะได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้น เพื่อแบ่งปันพื้นที่ให้ตามกฎหมาย


ประธานคณะกรรมการดำเนินงาน U Win Myat Aye กล่าวว่า กระทรวงที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามคำแนะนำของคณะกรรมการที่ปรึกษาเกี่ยวกับรัฐยะไข่ ซึ่งนำโดยนายโคฟี่ อันนาน และคณะกรรมการสอบสวนของรัฐบาล ซึ่งนำโดยรองประธานาธิบดี U Myint Swe โดยให้ความสำคัญกับการวางเสถียรภาพ ความมั่นคง และกฎระเบียบ รวมทั้งการดำเนินงานตามสถานการณ์ในพื้นที่ด้วย


ทั้งนี้ คณะกรรมการจะดำเนินการพัฒนาการขนส่งในภูมิภาคในอีก 3 ปีข้างหน้า และทั้ง 3 เมืองของรัฐยะไข่จะมีไฟฟ้าใช้ภายในปลายปี 2018 อย่างแน่นอน

Govt Says It Is Ready to Register, Resettle Muslim Refugees

Homepage

ที่มาของเนื้อหา : tangnamnews.wordpress.com