 |
 |
 |
 |
 |
มีเด็กเสียชีวิตอย่างน้อย 10 รายและผู้หญิง 4 คน หลังเรือที่บรรทุกชาวโรฮิงญาลำหนึ่งเกิดอัปปางนอกชายฝั่งบังกลาเทศในวันพฤหัสบดี(28 กันยายน) ระหว่างหนีตายจากสถานการณ์ความรุนแรงในพม่า ขณะที่ยอดชาวโรฮิงญาที่ไหลบ่าเข้าสู่บังกลาเทศ ทะลุ 500,000 คนแล้ว
เหตุการณ์สลดครั้งใหม่เกิดขึ้นในขณะที่กำหนดการเดินทางเยือนรัฐยะไข่ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงยูเอ็น ถูกยกเลิกในวันพฤหับดี(28) ทำลายความหวังเข้าถึงศูนย์กลางความุรุนแรงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วิกฤตการอพยพครั้งใหญ่ของชาวโรฮิงญาเริ่มต้นขึ้น
ในจุดเกิดเหตุ ผู้เห็นเหตุการณ์และผู้รอดชีวิตเล่าว่าเห็นเรือพลิกคว่ำไม่กี่เมตรจากชายฝั่ง หลังจากชนเข้ากับวัตถุบางอย่างที่จมอยู่ใต้น้ำ และต่อมาซากเรือถูกซัดเกยตื้นในสภาพที่แตกเป็น 2 ซีก พร้อมศพเหยื่อ
“พวกเขาจมน้ำต่อหน้าต่อตาเรา” มูฮัมหมัด โซเฮล พ่อค้าท้องถิ่นคนหนึ่งเผย “ไม่กี่นาทีต่อมา คลื่นก็ซัดศพลอยขึ้นมาเกยตื้นฝั่ง”
ส่วนผู้รอดชีวิตคนหนึ่งเผยว่าเขาและภรรยาขึ้นเรือออกเดินทางจากหมู่บ้านริมฝั่งแห่งหนึ่งในพม่าเมื่อช่วงค่ำวันพุธ(27) หวังมุ่งหน้าสู่บังกลาเทศ แต่ต้องมาประสบเหตุร้าย ทำให้ภรรยาของเขาเสียชีวิตพร้อมกับลูกคนหนึ่งของเขา “เรือชนบางอย่างที่ถูกใต้น้ำตอนที่มันเข้าใกล้ชายหาด จากนั้นก็อัปปาง” นูรุส สลาม เผยกับ AFP
ผู้รอดชีวิตอีกคนที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่บริเวณชายหาด เล่าให้ผู้สื่อข่าว AFP ฟังว่าพ่อแม่ของเธอและลูกๆสูญหายในเหตุการณ์ดังกล่าว
ตำรวจท้องถิ่นเปิดเผยว่าจนถึงตอนนี้พบร่างผู้เสียชีวิตถูกซัดขึ้นมาเกยตื้นชายฝั่ง 14 ศพและเชื่อว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตน่าจะสูงกว่านี้
สหประชาชาติระบุว่าจนถึงปัจจุบัน มีผู้ผู้อพยพมากกว่าครึ่งล้านคนที่ข้ามชายแดนจากพม่าเข้าไปยังบังกลาเทศ นับตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคมจนถึงปัจจุบัน
ที่มาของเนื้อหา : i-newsmedia.net
 |
 |
 |
 |
 |