กลุ่มบรรเทาทุกข์นานาชาติร้องเมียนมาร์เปิดทางให้เข้าถึง “รัฐยะไข่” อย่างอิสระ

รอยเจอร์ – กลุ่มบรรเทาทุกข์นานาชาติในเมียนมาร์เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดทางให้พวกเขาเข้าถึงรัฐยะไข่ซึ่งปฏิบัติการของกองทัพทำให้มีผู้ลี้ภัยไปลังกลาเทศแล้ว 480,000 คนตาอีกหลายแสนคนยังคงไม่มีอาหาร ที่พัก และการดูแลทางการแพทย์

ปฏิบัติการของกองทัพครั้งล่าสุดในรัฐทางตะวันตกแห่งนี้มีขึ้นเพื่อตอบสนองต่อการโจมตีของกลุ่มกบฏชาวมุสลิมโรฮิงญาที่สถานีตำรวจใกล้ชายแดนบังกลาเทศเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม

รัฐบาลห้ามไม่ให้กลุ่มนอกภาครัฐนานาชาติ (ไอเอ็นจีโอ) และหน่วยงานยูเอ็นปฏิบัติงานในพื้นที่ทางเหนือของรัฐแห่งนี้โดยอ้างเหตุผลความไม่ปลอดภัย

“ไอเอ็นจีโอในเมียนมาร์เป็นกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการจำกัดการเข้าถึงด้านมนุษยธรรมอย่างเด็ดขาดและอุปสรรคทางกฎหมายในการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จำเป็นอย่างมากทั่วทั้งรัฐยะไข่” กลุ่มบรรเทาทุกข์ ระบุในถ้อยแถลงเมื่อค่ำวานนี้ (27)

คนจำนวนนับไม่ถ้วนถูกทำให้พลัดถิ่น ในขณะที่หลายแสนคนขาดแคลนอาหาร ที่พัก และการบริการทางการแพทย์ กลุ่มต่างๆ รวมถึง Care International, Oxfam และ Save the Children ระบุ

“เราต้องการให้รัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ ของเมียนมาร์รับประกันว่า ประชาชนทุกคนในรัฐยะไข่จะสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพื่อรักษาชีวิตได้อย่างเต็มที่ อิสระ และไม่ถูกขัดขวาง”

รัฐบาลมอบหมายให้สภากาชาดของเมียนมาร์ (Myanmar Red Cross ) รับหน้าที่ให้ความช่วยเหลือแก่รัฐนี้ ด้วยการสนับสนุนจากคณะกรรมการกาชาดสากล (International Committee of the Red Cross)

ภาพหมู่บ้านที่ถูกไฟไหม้ทางตอนเหนือของรัฐยะไข่

ถึงกระนั้นกลุ่มต่างๆ ก็ระบุว่า พวกเขากลัวว่า ความช่วยเหลือที่ไปถึง “จะไม่เพียงพอที่จะตอบสนองต่อความต้องการด้านมนุษยธรรมที่มหาศาล”

ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและหน่วยงานบรรเทาทุกข์ตกต่ำลงมานานหลายเดือนแล้ว โดยเจ้าหน้าที่บางคนกล่าวหาว่ากลุ่มเหล่านี้ให้ความช่วยเหลือผ่ายกบฏ

กลุ่มบรรเทาทุกข์ปฏิเสธข้อหาดังกล่าวซึ่งพวกเขาระบุว่าสร้างความเกลียดชังต่อผู้ทำงานช่วยเหลือในหมู่ชาวพุทธในรัฐแห่งนี้

กลุ่มบรรเทาทุกข์ระบุว่า การข่มขู่ การกล่าวหา และการให้ข้อมูลผิดๆ ก่อให้เกิดความกลัวอย่างแท้จริงในหมู่ผู้ทำงานช่วยเหลือ และพวกเขาเรียกร้องให้หยุด “การให้ข้อมูลผิดๆและการกล่าวาเลื่อนลอย” และขอให้รัฐบาลรับประกันความปลอดภัยของผู้ทำงานช่วยเหลือด้วย

องค์การสหประชาชาติกล่าวหาว่ากองทัพทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เพื่อผลักดันชาวมุสลิมโรฮิงญาออกจากเมียนมาร์ และกลุ่มสิทธิระบุว่า กองทัพก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติและเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตร

องค์การสหประชาชาติระบุว่า กองทัพตอบสนองต่อการโจมตีของฝ่ายกบฏอย่างสมเหตุสมผลและวิกฤตนี้ก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านสู้ประชาธิปไตยของเมียนมาร์ภายหลังการปกครองระบบทหารหลายสิบปี

องค์การสหประชาชาติเรียกร้องขอการเข้าถึงด้านมนุษยธรรมอย่างอิสระในพื้นที่นี้และขอให้ผู้ลี้ภัยสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย

ที่มาของเนื้อหา:mgronline.com