ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันเสาร์, 11 พฤษภาคม 2567

เรื่องเล่าของเด็กชายรอชีด เด็กโรฮิงญา ผ่านชายแดนเมียนมาเข้าสู่บังคลาเทศโดยไม่มีผู้ปกครอง


เด็กๆชาวโรฮิงญาราว 1,400 คนข้ามผ่านชายแดนเมียนมาเข้าสู่บังคลาเทศโดยไม่มีผู้ปกครอง ซึ่งหลายคนเป็นเด็กกำพร้า

สำนักข่าวอั๊ลญะซีเราะฮฺรายงานว่า รอชีด เด็กชาวโรฮิงญาวัย 10 ขวบ ที่ต้องแบกรับภาระที่หนักหนาสาหัสนัก ในการดูแลน้องสาวรอชีดะฮฺวัน 6 ขวบในการเดินทางจากเมียนมาเข้าสู่บังคลาเทศ
ท่ามกลางเด็กชาวโรฮิงญาราว 1,400 คนที่เดินทางหนีตายข้ามชายแดนเมียนมาถึงบังคลาเทศ ที่ปราศจากผู้ปกครอง บ้างถูกสังหาร หรือไม่ก็หายตัวไปหลังจากการปราบปรามอย่างรุนแรงของทหารเมียนมาในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของเมียนมา

ดช.รอชีด กำลังโศกเศร้าอยู่กับการสูญเสียพ่อแม่ของเขา ก็คือซาฮิด ฮุสเซน และนางรอมียะฮฺ กาตุน โดยดช.รอชีดเผยว่าถูกสังหารโดยทหารเมียนมา
ชาวโรฮิงญากล่าวว่าการกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธโรฮิงญาเป็นเพียงข้ออ้างของทหารเมียนมาเท่านั้นในการกระทำทารุณต่อชาวโรฮิงญา ซึ่งที่แท้จริงแล้วเป็นการขับไล่กลุ่มคนชาวโรฮิงญาที่อยู่ในเมียนมา

องค์กรเดอะไชลด์ เฟรนลี่ สเปซ หรือ CFS ที่ค่ายผู้ลี้ภัยกูตูปาลองในเมืองค๊อกซ์บาซาร์ ได้จัดกิจกรรมวาดภาพ ระบายสี และมอบของเล่นให้กับเด็กๆ กว่า 60 คน
ในขณะที่เด็กคนอื่นๆสนุกกับการละเล่น แต่ดช.รอชีดกลับอยู่ในความเงียบ เขามักจะร้องไห้ รอชีดอาศัยอยู่กับพ่อแม่ และพี่น้องรวม 6 คนในหมู่บ้านชิกเดพารา ที่เมืองมองด่อว์ จนกระทั่งวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อกองทัพโจมตีบ้านของเขา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในปฎิบัติการกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธที่เป็นคำอ้างของรัฐบาลเมียนมา นอกจากนี้ยังมีการสังหารหมู่ และเผาบ้านของชาวโรฮิงญา ที่ทำให้สหประชาชาติมีความเห็นวาเป็นการล้างเผ่าพันธุ์

ดช.รอชีดเล่าว่า วันนั้นเป็นวันศุกร์ ผมได้คว้ามือน้องสาว และวิ่งไปที่เนินเขาใกล้ๆ ในเหตุการณ์ที่ทหารเมียนมาบุกเข้ามายังบ้านของเขา หลังจากนั้นทหารก็ไป ดช.รอชีดจึงกลับเข้ามาที่บ้าน แต่ปรากฎว่าพ่อแม่ก็เสียชีวิตแล้ว

ดช.รอชีดอยู่ในความโศกเศร้าเพียงชั่วเวลาสั้นๆ หลังจากนั้นก็ได้เดินทางจากเมียนมาสุ่บังคลาเทศด้วยการติดตามเพื่อนบ้าน โดยใช้เวลาเดินเท้าราว 3 วัน ข้ามแม่น้ำนาฟเพื่อเข้าสู่บังคลาเทศก่อนวันที่ 1 กันยายนยน หรือวันอีดิ้ลอัฎฮาที่ผ่านมา

ดช.รอชีดเล่าต่ออีกว่าได้ทราบข่าวว่าพี่ชายและน้องของเขาถูกสังหาร และเพื่อนบ้านของเขาก็ดูแลเขาด้วยความเมตตา
ที่มา:aljazeera