ทรัมป์อ้าซ่าขายอาวุธให้โสมขาว

แฟ้มภาพ ประธานาธิบดีมุน แจอิน พบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2560 ภาพ AFP

ฉวยโอกาสกลางวิกฤติ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แบะท่าอ้าซ่า ประกาศสหรัฐพร้อมขายอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีความซับซ้อนสูงให้แก่เกาหลีใต้และญี่ปุ่น หลังจากตกลงกับ “มุน แจอิน” เลิกจำกัดขนาดหัวรบของเกาหลีใต้และจะขายอาวุธให้อีกหลายพันล้านดอลลาร์ อีกทางทูตมะกันเตือนกลางยูเอ็น “คิม จองอึน ร้องขอสงคราม” ควรคว่ำบาตรให้หนัก

ความเคลื่อนไหวทางการทูตล่าสุดเกิดขึ้นควบคู่กับการตอบโต้การทดลองระเบิดนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 ของเกาหลีเหนือเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยกองทัพเกาหลีใต้ได้จัดการฝึกซ้อมโจมตีด้วยกระสุนจริงต่อเนื่องอีก หลังจากเมื่อวันจันทร์ได้ซ้อมยิงขีปนาวุธตกทะเล โดยจำลองการโจมตีแหล่งทดลองระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือมาแล้ว ในวันอังคารที่ 5 กันยายน กองทัพเรือเกาหลีใต้ก็ได้ฝึกซ้อมทางทะเลโดยใช้กระสุนจริงเช่นกัน

เกาหลีเหนือคุยว่าระเบิดที่ทดสอบเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นระเบิดไฮโดรเจนที่อานุภาพร้ายแรงกว่าระเบิดปรมาณู เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ประเมินกันว่า ระเบิดลูกนี้มีแรงระเบิด 50 กิโลตัน หรือรุนแรงกว่าระเบิดปรมาณูที่สหรัฐทิ้งลงเมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่นเมื่อปี 2488 เกินกว่า 3 เท่า

เมื่อวันอังคาร ข่าวรอยเตอร์อ้างรายงานของหนังสือพิมพ์เอเชียบิสสิเนสของเกาหลีใต้ ซึ่งอ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อ ว่ามีการตรวจพบความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือที่ดูเหมือนการลอบขนขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) มายังชายฝั่งตะวันตก การเคลื่อนย้ายจรวดลูกนี้เริ่มขึ้นเมื่อวันจันทร์และกระทำในตอนกลางคืนเพื่อหลีกเลี่ยงการสอดแนม

กระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้เพิ่งเตือนเมื่อวันจันทร์ว่า เกาหลีเหนืออาจยิงไอซีบีเอ็มอีกครั้งได้ตลอดเวลา แต่ยังไม่มีข้อมูลยืนยันเกี่ยวกับรายงานข่าวของสื่อฉบับนี้

นักวิเคราะห์และนักการเมืองเกาหลีใต้เชื่อว่า เกาหลีเหนือ ซึ่งได้ทดสอบไอซีบีเอ็ม 2 ลูกเมื่อเดือนกรกฎาคม และยิงขีปนาวุธพิสัยปานกลางข้ามญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ก่อน อาจจะยิงขีปนาวุธอีกครั้งในวาระสำคัญเช่นวันที่ 9 กันยายน ซึ่งเป็นวันครบรอบการสถาปนาประเทศ ปีที่แล้วเกาหลีเหนือก็ทดลองระเบิดนิวเคลียร์ครั้งที่ 5 ในวันเดียวกันนี้

เมื่อวันจันทร์ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ได้ประชุมด่วน 15 ชาติสมาชิก โดยสหรัฐและพันธมิตรพยายามเรียกร้องให้ออกมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือให้หนักหน่วงที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ หลังจาก 7 ครั้งที่ผ่านมาล้วนไร้ผล นิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐจะเสนอมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ในเร็ววันนี้ พร้อมกับประกาศว่าความอดทนของสหรัฐใช่ว่าไม่มีขีดจำกัด และคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กำลัง “ร้องขอสงคราม”

ทูตสหรัฐผู้นี้ไม่ได้แจกแจงว่ามาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่จะมีประการใดบ้าง แต่นักการการทูตคาดเดากันว่า น่าจะพุ่งเป้าที่การจัดส่งน้ำมันให้รัฐบาลและกองทัพเกาหลีเหนือ, การห้ามส่งออกสิ่งทอและแรงงานเกาหลีเหนือ ซึ่งจำนวนมากส่งมายังจีนและรัสเซียเพื่อนำรายได้กลับเข้าประเทศ

ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐได้ฤกษ์สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้แล้วเมื่อวันจันทร์ ทั้งสองเห็นพ้องกันว่า สหรัฐจะยกเลิกการจำกัดน้ำหนักหัวรบมิสไซล์ของเกาหลีใต้ที่กำหนดไว้สูงสุดเพียง 500 กก. และพิสัยของมิสไซล์ที่ 800 กม.

ทั้งนี้ ขีปนาวุธฮวาซอง-14 ที่เกาหลีเหนือทดสอบเมื่อเดือนกรกฎาคมนั้น มีพิสัยถึง 10,000 กม. แบะสามารถบรรทุกหัวรบน้ำหนัก 300-700 กก.

ทำเนียบขาวกล่าวว่า ทรัมป์ได้อนุมัติในหลักการสำหรับการขายอาวุธมูลค่า “หลายพันล้านดอลลาร์” แก่เกาหลีใต้ และเมื่อวันอังคาร ทรัมป์ก็ได้สำทับผ่านทวิตเตอร์ว่า เขาจะอนุญาตให้เกาหลีใต้และญี่ปุ่นซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ “ซับซ้อนสูง” จากกองทัพสหรัฐได้มากขึ้น.