
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ว่าน.ส.ฮีทเธอร์ เนาเอิร์ต โฆษกหญิงกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวในช่วงหนึ่งของการแถลงเมื่อวันพฤหัสบดี ว่าเจ้าหน้าที่ชาวอเมริกันประจำสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐในคิวบาอย่างน้อย 16 คน มีอาการล้มป่วยทางการ "อย่างเป็นปริศนา" และ "ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด" โดยเจ้าหน้าที่บางคนเลือกเดินทางกลับมารับการรักษาในสหรัฐ และอีกจำนวนหนึ่งเข้ารับการรักษาจากคณะแพทย์ชาวอเมริกันซึ่งเดินทางไปยังสถานเอกอัครราชทูตเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
.@statedeptspox: We can now confirm that at least 16 USG employees were affected by attacks in #Cuba pic.twitter.com/UEy1PJ7bXt
— Department of State (@StateDept) August 24, 2017
ทั้งนี้ เนาเออร์ตยืนยันว่าเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวซึ่งสามารถสืบย้อนหลังได้จนถึงวันที่ 17 ก.พ. ปีนี้ไม่ได้เกิดขึ้นอีกแล้ว และเธอไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจนด้วยว่า รัฐบาลวอชิงตันได้มีการแจ้งให้รัฐบาลคิวบาทราบเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ แต่ได้มีการเนรเทศนักการทูตชาวคิวบา 2 คนจากสถานเอกอัครราชทูตคิวบาประจำกรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่รัฐบาลฮาวานายืนกรานว่าไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน แต่จะตรวจสอบอย่างละเอียด และพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม สื่อท้องถิ่นหลายแห่งในสหรัฐรายงานไปในทางเดียวกันว่า ฝ่ายสืบสวนนำโดยสำนักงานสอบสวนกลาง ( เอฟบีไอ ) ตั้งสมมติฐานว่าอาการป่วยที่เกิดขึ้นซึ่งรุนแรงถึงขั้นสูญเสียการได้ยิน และต้องใส่เครื่องช่วยฟัง น่าจะเป็นผลจากอาวุธคลื่นความถี่เสียงประสิทธิภาพสูง ซึ่งอุปกรณ์ทั่วไปไม่สามารถจับความถี่ของคลื่นเสียงดังกล่าวได้ และมีผู้นำมาติดตั้งใกล้กับบ้านพักของเจ้าหน้าที่การทูตของสหรัฐ นอกจากนี้ แม้สหรัฐและคิวบาฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนธ.ค. 2558 หลังระงับไปนานกว่า 5 ทศวรรษ แต่มีรายงานว่าหน่วยข่าวกรองของคิวบายังคงสอดแนมเจ้าหน้าที่รัฐบาลและองค์กรต่างชาติซึ่งประจำการอยู่ในประเทศอย่างใกล้ชิด และเจ้าหน้าที่การทูตของสหรัฐคือหนึ่งในกลุ่มคนที่อยู่ภายใต้การสอดแนมมากที่สุด.
คลิปประกอบ : CBS This Morning
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " ‘คลื่นเสียงปริศนา’ เล่นงานเจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐในคิวบา 16 คน "