ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

จี้ “ดีเอสไอ” เร่งเอาผิด 8 บริษัทแชร์ลูกโซ่ หลอกตุ๋นเหยื่อนับหมื่น เสียหายกว่า 10,000 ล.

S__15990792

จี้’ดีเอสไอ’เร่งเอาผิด8บริษัทแชร์ลูกโซ่ หลอกตุ๋นเหยื่อนับหมื่น เสียหายกว่า 10,000 ล้าน 

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 30 สิงหาคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย พร้อมผู้เสียหายคดีแชร์ลูกโซ่ ประมาณ 100 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดการดำเนินคดีแชร์ลูกโซ่ที่ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้ว 8 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 10,000 ล้านบาท โดยมี นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการส่วนคดีอาญาพิเศษ 2 ดีเอสไอ เป็นผู้รับเรื่อง

นายสามารถกล่าวว่า ในวันนี้ได้พาตัวแทนผู้เสียหายจากคดีแชร์ลูกโซ่ทั้ง 8 คดี ประกอบด้วย 1.บริษัท เค.เอส. มารีน จำกัด และบริษัท ฟีนิกซ์ จำกัด 2.บริษัท ดิจิตอล คราวน์ โฮลดิ้ง จำกัด 3.บริษัท สยามแกรนด์เดอร์ จำกัด และบริษัท โกลบอลวิลล์ คอนซัลติ้ง จำกัด 4.บริษัท ไนน์ ท็อป อัพ จำกัด 5.สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์พลังเครือข่ายประชาชน และหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง 6.บริษัท พีเอ็มบี เพกาซัส (ไทยแลนด์) จำกัด และ Pegasus Bullion Company Limited 7.บริษัท ดีที เทนเทน (ประเทศไทย) จำกัด และ 8.คดีวิสาหกิจชุมชนกลุ่มโพธิ์ทองผลิตไม้กฤษณาแอบอ้างฌาปนกิจสงเคราะห์ เนื่องด้วยทางสมาพันธ์ฯได้ส่งข้อมูลเอกสารหลักฐานและรายชื่อผู้เสียหายที่เดือดร้อนจากบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนจนดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษไปแล้วนั้น แต่ที่ผ่านมาผู้เสียหายยังรู้สึกว่าคดีมีความล่าช้าจึงเกิดความกังวลและอยากสอบถามความคืบหน้าของแต่ละคดี

นายสามารถกล่าวต่อว่า ผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความกับดีเอสไอ แต่ยังติดขัดหลายประการ อีกทั้ง บางคดีใช้เวลานานเป็นปีแต่ยังไม่ได้รับการเยียวยาจากครั้งแรก ผู้เสียหายเพียงไม่กี่รายจนกระทั่งขณะนี้มีมากกว่า 10,000 ราย จึงเกิดความสงสัยในความล่าช้าของกระบวนการยุติธรรมทำให้ประชาชนไม่มั่นใจว่าจะได้เงินคืนหรือไม่ และยังแสดงถึงความไม่เป็นธรรมและอาจส่งผลถึงผู้เสียหายให้ผันตัวเองเป็นมิจฉาชีพก็ได้ อย่างไรก็ตาม อยากให้เจ้าหน้าที่มีการออกคำสั่งเพื่อปราบปรามอย่างจริงจัง เพราะการหลอกคนอื่นสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ

ด้านนายปิยะศิริกล่าวว่า ตนเป็นตัวแทนมารับเรื่องร้องทุกข์ดังกล่าวจากผู้เสียหายทั้ง 8 คดี ส่วนความคืบหน้าของแต่ละคดีนั้น บางคดีเจ้าหน้าที่ได้ยึดทรัพย์มาแล้วกว่า 5 ล้านบาท และบางคดีก็ได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาไปบ้างแล้ว ทั้งนี้ ตามกฎหมายผู้กระทำผิดมีสิทธิสามารถประกันตัวออกมาสู้คดีได้ จึงอาจทำให้มีผู้ถูกหลอกเพิ่มเติมได้อีก จึงอยากฝากประชาชนว่าอย่าได้ร่วมลงทุนกับธุรกิจแชร์ลูกโซ่จะปลอดภัยที่สุด ในส่วนของคดีนั้น ทางเจ้าหน้าที่ทุกคนกำลังเร่งดำเนินการสอบสวนอยู่ตลอด เพื่อเอาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ต่อไป

ที่มา:มติชนออนไลน์