ทนายมะกัน เชื่อ‘มีอิทธิพลอื่น’อยู่เบื้องหลังเจ้าหญิงไดอานาสิ้นพระชนม์

ทนายความอเมริกัน หนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์เจ้าหญิงไดอานาทรงประสบอุบัติเหตุที่ปารีส เผยครั้งแรกในรอบ 20 ปี ตั้งคำถามทำไมรถพยาบาล-ทีมกู้ภัยมาถึงที่เกิดเหตุช้ามาก เชื่อ ‘มีปัจจัยที่มีอิทธิพลอื่น’ อยู่เบื้องหลังเจ้าหญิงไดอานาสิ้นพระชนม์

เมื่อ 21 ส.ค.60 เว็บไซต์ เดอะ มิร์เรอร์ รายงาน นายสแตนลีย์ คูลเบรธ ทนายความชาวอเมริกันจากเมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ วัย 69 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในพยานที่เห็นเหตุการณ์เจ้าหญิงไดอานา ทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ในกรุงปารีส จนสิ้นพระชนม์เมื่อ 31 ส.ค.2540 ยอมเปิดเผยครั้งแรกหลังจากเก็บความสงสัยในเรื่องนี้มานานนับ 20 ปี โดยเขาได้ตั้งคำถามในใจมาตลอดว่า ทำไมทีมกู้ภัยฉุกเฉินของฝรั่งเศส จึงมาที่เกิดเหตุล่าช้า และเขาเชื่อว่า ‘มีปัจจัยที่มีอิทธิพลอื่น’ อยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุสะเทือนใจครั้งนี้

คิดถึง…เจ้าหญิงไดอานาขณะจะเสด็จพระดำเนินออกจากโรงแรมริตซ์ ก่อนประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนสิ้นพระชนม์เมื่อ 31 ส.ค.40

นายคูลเบรธ กล่าวว่า สาเหตุที่เขาไม่เคยปริปากออกมาพูดเรื่องนี้เลยต่อสาธารณชนตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เป็นเพราะเขาตระหนักดีว่าขณะนั้น เจ้าชายวิลเลียม และเจ้าชายแฮร์รี่ พระโอรสทั้งสองพระองค์ของเจ้าหญิงไดอานายังทรงพระเยาว์ แต่เมื่อเวลาผ่านมาเกือบ 20 ปี แล้ว เขาจึงขอเปิดเผยเหตุการณ์ในคืนวันนั้นเป็นครั้งแรก ในฐานะที่เขาเป็นหนึ่งในพยานหลายคนที่เห็นเหตุการณ์หลังรถยนต์ที่เจ้าหญิงไดอานา ประทับมา พร้อมกับนายโดดี อัล ฟาเยด พระสหาย โดยมีนายเทรเวอร์ รีส์-โจนส์ ทำหน้าที่เป็นองครักษ์ และนายอองรี ปอล เป็นคนขับรถ ประสบอุบัติเหตุ

สภาพรถยนต์หลังประสบอุบัติเหตุ

ทนายความวัยเกษียณผู้นี้เล่าว่า เขาเพิ่งไปถึงกรุงปารีส เมื่อ 31 ส.ค.40 ระหว่างไปเที่ยวยุโรปพร้อมเพื่อนๆ และออกไปดูหอไอเฟลยามค่ำ โดยระหว่างนั่งรถแท็กซี่กลับโรงแรมที่พัก เมื่อเวลาประมาณ 00.20 น. ขณะรถวิ่งลงอุโมงค์ทางลอดสะพานปองต์เดอลัลมา ก็เห็นว่ามีรถยนต์คันหนึ่งเพิ่งประสบอุบัติเหตุแบบสดๆร้อนๆ อยู่ในสภาพพังยับเยิน คนขับรถแท็กซี่ที่พวกเขานั่งมา จึงจอดรถห่างจากรถคันที่ประสบอุบัติเหตุเพียงไม่กี่ฟุต

อุโมงค์ทางลอดสะพานปองต์เดอลัลมา จุดเกิดอุบัติเหตุช็อกโลก

นายคูลเบรธ เผยว่าตอนแรกเขาไม่รู้ว่าเจ้าหญิงไดอานาประทับอยู่ในรถยนต์คันนั้น แต่ตนกับเพื่อนได้ลงจากรถเพื่อดูว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอะไรได้บ้าง โดยนายคูลเบรธ เล่าว่าตอนนั้น เขาได้ตั้งคำถามว่าทำไมไม่มีรถพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่มาเลย นานประมาณ 15-20 นาทีเลยทีเดียว โดยนายคูลเบรธ บอกว่า มีตำรวจคนหนึ่งมาที่เกิดเหตุและบอกให้พวกตนกลับไป ตำรวจพูดกับพวกเราว่า ‘ออกไป ออกไป’ โดยจากการพยายามมองผ่านกระจกรถคันประสบอุบัติเหตุที่ติดฟิล์มค่อนข้างมืดนั้น เขาไม่รู้ว่า คนที่นั่งอยู่บนเบาะหลังคือ เจ้าหญิงไดอานา

นายคูลเบรธ คาดว่า กว่ารถพยาบาลจะมาถึงที่เกิดเหตุคงนานถึง 30 นาทีเลยทีเดียว ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เขาสงสัยมาตลอดหลังจากรู้ว่า คนที่นั่งอยู่บนเบาะหลังรถคันนั้น คือ เจ้าหญิงไดอานา ซึ่งขณะนั้น พระองค์ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังประสบอุบัติเหตุ และสิ้นพระชนม์ที่โรงพยาบาล ส่วนนายโดดี อัล ฟาเยด พระสหาย และนาย อองรี ปอล เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยนายคูลเบรธได้ตั้งคำถามมาตลอดว่า ถ้ารถพยาบาลและทีมกู้ภัยมาถึงที่เกิดเหตุเร็วกว่านี้ เจ้าหญิงไดอานาอาจมีโอกาสรอดชีวิต.