ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันจันทร์, 29 เมษายน 2567

โสมแดงท้าทายUNปัดฟื้นเจรจา


หวังอี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน แถลงที่ฟิลิปปินส์ ภาพ AFP

ทางการเปียงยางยืนยันข้อมติคว่ำบาตรฉบับใหม่ของยูเอ็นไม่อาจหยุดยั้งการพัฒนาคลังแสงนิวเคลียร์ของตน รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือ-ใต้พบหน้านอกรอบเวทีอาเซียน แต่รัฐมนตรีโสมแดงปฏิเสธรับข้อเสนอรื้อฟื้นเจรจา อีกด้านสหรัฐจับมือชาติพันธมิตรออกแถลงการณ์ตอกหน้าอาเซียน ประณามการถมทะเล-ขยายแสนยานุภาพในทะเลจีนใต้

สำนักข่าวกลางเกาหลี (เคซีเอ็นเอ) ของทางการเปียงยางเผยแพร่แถลงการณ์ของรัฐบาลเกาหลีเหนือเมื่อวันจันทร์ที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา มีเนื้อหาตอบโต้ข้อมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือฉบับใหม่ที่ผ่านมติเอกฉันท์ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งอาจทำให้เกาหลีเหนือสูญรายได้ปีละกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ โดยคำแถลงตอบโต้ว่า ข้อมติฉบับนี้ละเมิดอธิปไตยของเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง

“เราจะไม่ยอมนำการป้องปรามด้วยนิวเคลียร์เพื่อป้องกันตนเอง ของเราขึ้นสู่โต๊ะเจรจาต่อรอง ในช่วงยามที่เราเผชิญภัยคุกคามจากวอชิงตัน” คำแถลงกล่าว “และเราจะไม่ยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียวจากการเสริมสร้างแสนยานุภาพนิวเคลียร์ของเรา”

คำแถลง ซึ่งยังขู่จะทำให้สหรัฐชดใช้ผลลัพธ์เป็นพันๆ เท่า มีออกมาภายหลังรี ยงโฮ รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือ มาร่วมการประชุมความมั่นคงระดับภูมิภาคที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งมีรัฐมนตรีของสหรัฐ, จีน, รัสเซีย และชาติเอเชีย-แปซิฟิกอื่นๆ เข้าร่วมด้วย โดยเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่กรุงมะนิลาว่า สหรัฐจะพิจารณาการเจรจาก็ต่อเมื่อเกาหลีเหนือหยุดการทดสอบขีปนาวุธ

ข้อมติคว่ำบาตรของยูเอ็นฉบับล่าสุดนี้เป็นการลงโทษที่เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) ประสบความสำเร็จครั้งแรกเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมและยังทดสอบซ้ำอีกในเดือนเดียวกัน คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเปียงยาง คุยโวภายหลังการทดสอบครั้งที่ 2 ว่าไอซีบีเอ็มของเกาหลีเหนือสามารถโจมตีได้ทั่วทุกพื้นที่ของสหรัฐ

รัฐมนตรีของเกาหลีเหนือได้สนทนาแลกเปลี่ยนกับรัฐมนตรีคัง คยองวา ของเกาหลีใต้ ระหว่างดินเนอร์รับรองด้วยเมื่อวันอาทิตย์ สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า คังได้เรียกร้องให้รียอมรับข้อเสนอรื้อฟื้นการเจรจาทางทหารเพื่อลดความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี และเปิดหารือเพื่อรื้อฟื้นการรวมญาติระหว่างครอบครัวสองเกาหลีที่พลัดพราก แต่รีได้โต้ตอบว่า จากสถานการณ์ขณะนี้ที่เกาหลีใต้ร่วมมือกับสหรัฐกดดันเกาหลีเหนือ ข้อเสนอดังกล่าวจึงปราศจากความจริงใจ

เมื่อวันอาทิตย์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้ ซึ่งทั้งคู่เห็นพ้องกันว่า เกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามโดยตรงและร้ายแรงยิ่งขึ้น ต่อมาทรัมป์ยังโพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดีย ยกย่องรัสเซียและจีนที่ได้ร่วมลงมติสนับสนุนการคว่ำบาตรที่ผ่านคณะมนตรีฯ ด้วยคะแนนเห็นชอบ 15 เสียง โดยไม่มีชาติใดคัดค้านหรืองดออกเสียงเลย

ขณะเดียวกัน ในการมาร่วมประชุมระดับภูมิภาคที่ฟิลิปปินส์ ทิลเลอร์สันได้พบนอกรอบกับพันธมิตรสหรัฐหลายชาติ รวมถึงออสเตรเลียและญี่ปุ่น โดยรัฐมนตรีทั้งสามชาตินี้ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันฉบับหนึ่งเมื่อวันจันทร์ กล่าวถึงความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ ซึ่งทั้งสามประเทศนี้ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับจีนและอาเซียนด้วย

แถลงการณ์ร่วมฉบับนี้วิจารณ์ “การแปรสภาพที่ดิน, การก่อสร้างด่านนอก, การเสริมสร้างแสนยานุภาพทางทหาร ในภูมิประเทศที่เป็นข้อพิพาท” ในทะเลจีนใต้ ทั้งยังเรียกร้องว่า หลักปฏิบัติทางทะเลใดๆ จะต้อง “มีผลผูกมัดทางกฎหมาย มีความหมาย และมีประสิทธิผล”

เนื้อหาเหล่านี้ไม่ได้บรรจุอยู่ในแถลงการณ์ร่วมของที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่สามารถเข็นออกมาได้ในท้ายที่สุดเมื่อวันอาทิตย์.

ที่มาของเนื้อหา : www.thaipost.net