
โลกเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติหนักหน่วงอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
เราต่างคิดว่าเพราะมนุษย์ทำให้ระบบนิเวศเสียหาย จึงทำให้เกิดภาวะโลกรวนขึ้น (climate change)
แต่ความจริงคือ ปัญหาของมนุษย์มิได้อยู่ตรงการทำลายสิ่งแวดล้อม แท้จริง ปัญหาคือมนุษย์ทำลายความสัมพันธ์อันพึงมีต่อพระผู้เป็นเจ้าต่างหาก ปฏิเสธพระองค์ ไร้ความจงรักภักดี และยังท้าทายพระองค์ในหลากหลายรูปแบบ
โดยเฉพาะในยุโรปและอเมริกา แหล่งกำเนิดลัทธิมนุษยนิยมที่เห็นว่าคนเราสามารถดำรงอยู่โดยมิพักต้องพึ่งพาพระเจ้า วันนี้ พวกเขากำลังประสบภัยร้อนแล้งอย่างแสนสาหัส โดยเทคโนโลยีที่ทำให้พวกเขาหยิ่งผยองไม่สามารถดลบันดาลให้ฝนตกลงมาสร้างความชื่นเย็นได้
ขณะที่จีนที่ซึ่งผู้ปกครองบังคับให้ผู้คนสมาทานชาตินิยมจีนเหนือความศรัทธาต่อพระเจ้า และต้องภักดีต่อพรรคคอมมิวนิสต์เหนือบทบัญญัติทางศาสนา วันนี้น้ำในแม่น้ำแยงซีแห้งขอดจนน่าตกใจ กระทั่งรัฐบาลต้องสั่งปิดโรงงานต่าง ๆ เกือบ 2 สัปดาห์เพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนพลังงานซึ่งส่วนใหญ่อาศัยการผลิตจากเขื่อนซึ่งสร้างขึ้นมากมายในวันที่ยังมีน้ำ แต่วันที่ไร้น้ำให้เขื่อนผลิตไฟฟ้า รัฐบาลจีนจะผลิตน้ำเองได้ละหรือ ???
ส่วนไทยซึ่งไม่มีแบบอย่างของความศรัทธาจริงแท้ นอกจากการบูชาวัตถุและอำนาจนิยม เสียงเตือนเรื่องภัยพิบัติเริ่มได้ยินถี่ขึ้น
และวันนี้ 29/08/65 ท้องฟ้าเหนือกรุงเทพก็ปรากฎภาพความน่าสะพรึงขึ้น คล้ายส่งสัญญาณบางอย่างแล้ว
เมื่อพระเจ้าทรงบัญชาให้ทหารของพระองค์ทำงานสั่งสอนมนุษย์ผู้ดันทุรังและจองหอง ย่อมไม่มีกองทหารหรือเทคโนโลยีใดสามารถทัดทานได้
มีหนทางเดียวคือการกลับคืนสู่พระองค์เท่านั้น
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " โลกเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติหนักหน่วง อย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน "