วันเสาร์ 5 กรกฎาคม 2568
ติดตามเว็บไซต์
หน้าแรก > ข่าวประจำวัน > ประยุทธ์ หยอดนายกฯมาเลย์ ครอบครัวเดียวกัน-หนุนคุยสันติชายแดนใต้

ประยุทธ์ หยอดนายกฯมาเลย์ ครอบครัวเดียวกัน-หนุนคุยสันติชายแดนใต้

หมวดหมู่ : ข่าวประจำวัน เปิดอ่าน 290 ครั้ง

ประยุทธ์ หยอดคำหวาน ไทย-มาเลเซีย “ครอบครัวเดียวกัน” นายกฯ มาเลย์ หนุนพูดคุยสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เดินหน้าการค้า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2568 เปิดด่านชายแดนทางบกเพิ่ม

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 18.15 น. ที่ตึกสันติไมตรีหลังใน ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถ้อยแถลงในการแถลงข่าวร่วมกับดาโตะ ซรี อิซมาอิล ซาบรี ยาคบ (The Honourable Dato’ Sri Ismail Sabri Yaakob) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในโอกาส เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลไทย ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวร่วม นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวยินดีที่ได้ต้อนรับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียถือเป็นผู้นำรัฐบาลต่างประเทศคนแรกที่เยือนไทย ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สะท้อนความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยกับมาเลเซีย

“นายกรัฐมนตรีชื่นชมความมุ่งมั่นและการมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ท่ามกลางความท้าทายต่าง ๆ พร้อมยืนยันความตั้งใจเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งแก่ประชาชนทั้งสองประเทศ บนพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจในฐานะเพื่อนบ้านใกล้ชิด เสมือนครอบครัวเดียวกัน”

นายธนกรกล่าวว่า จากการหารือร่วมกันระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ทั้งสองฝ่ายได้หารือประเด็นสำคัญร่วมกัน 4 ประเด็น ดังนี้

ประการแรก การฟื้นฟูความเชื่อมโยงในทุกมิติ ทั้งสองฝ่ายสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนการเดินทางระหว่างประชาชนในทั้งสองประเทศมากขึ้นอย่างปลอดภัย โดยเฉพาะการเดินทางของผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้วโดยไม่ต้องกักกันโรค ซึ่งมาเลเซียเรียกช่องทางดังกล่าวว่า Vaccinated Travel Lane (VTL)

ขณะที่ไทยได้เปิดรับผู้เดินทางจากมาเลเซียที่ฉีดวัคซีนครบ เดินทางเข้าประเทศทางอากาศโดยไม่ต้องกักตัวแล้ว ผ่านระบบ Test and Go และไทยกำลังเตรียมความพร้อมเปิดการเดินทางผ่านพรมแดนทางบกเพิ่มเติม

โอกาสนี้ ทั้งสองเห็นพ้องจัดตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อเร่งหารือรายละเอียดการเปิดพรมแดนระหว่างกัน เพื่อให้ภาคธุรกิจและประชาชนของทั้งสองประเทศเดินทางไปมาหากันได้อย่างสะดวกดังเดิม นอกจากนี้ ทั้งสองพร้อมร่วมผลักดันโครงการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานบริเวณชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่คั่งค้างให้มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม

ประการที่สอง การกระตุ้นเศรษฐกิจและแสวงหาความร่วมมือสาขาใหม่ ๆ ทั้งสองฝ่ายต่างให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยได้มีความร่วมมือระหว่างกันอย่างใกล้ชิด เพื่อลดผลกระทบของโควิด-19 ต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ส่งผลให้ปริมาณการค้าชายแดนและผ่านแดนในช่วงที่ผ่านมามีมูลค่าเพิ่มขึ้น และคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก

“ทั้งสองฝ่ายจึงเห็นพ้องคงเป้าหมายมูลค่าการค้าระหว่างกันที่ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยขยายระยะเวลาการบรรลุเป้าหมายเป็นภายในปี 2568 และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย – มาเลเซีย ครั้งที่ 3 เพื่อขับเคลื่อนแนวทางให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว”

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องแสวงหาแนวทางส่งเสริมความร่วมมือด้านใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้อย่างยั่งยืน เช่น ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งอาจใช้เป็นตัวอย่างในการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนากับประเทศในอาเซียนได้ต่อไป

ประการที่สาม การพัฒนาพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้และความมั่นคงชายแดน ทั้งสองฝ่ายได้หารือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนทั้งสองประเทศ นายกรัฐมนตรีเชิญชวนให้มาเลเซียร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาเศรษฐกิจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงอุตสาหกรรมยางพาราและฮาลาล

“พร้อมทั้งชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งฝ่ายมาเลเซียสนับสนุนท่าทีของไทยในการแสวงหาทางออกด้วยสันติวิธี ขับเคลื่อนการพูดคุยเพื่อสันติสุขให้มีความคืบหน้า”

ตลอดจนพร้อมร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิดในการเสริมสร้างความมั่นคงชายแดน การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและข้ามแดน คู่ขนานไปกับการร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ

ประการสุดท้าย การรื้อฟื้นกลไกหารือทวิภาคี การพบหารือระหว่างผู้นำไทยกับมาเลเซียในวันนี้ จะปูทางสู่การแลกเปลี่ยนการเยือนและการประชุมหารือกันภายใต้กลไกและกรอบความร่วมมือต่าง ๆ ที่มีร่วมกัน เพื่อผลักดันความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกันให้มีความคืบหน้าเป็นรูปธรรม

“ฝ่ายไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย – มาเลเซีย ครั้งที่ 14 ในเดือนมีนาคมนี้ และหวังว่าจะมีการประชุมหารือในกรอบอื่น ๆ ระหว่างกันอย่างต่อเนื่องต่อไป”

นายธนกรกล่าวว่า นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับประเด็นภูมิภาคและระหว่างประเทศที่สนใจร่วมกัน โดยเฉพาะบทบาทที่สร้างสรรค์ของอาเซียนในประเด็นสถานการณ์ในเมียนมา เน้นย้ำการรักษาความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของอาเซียนท่ามกลางความท้าทายเพื่อรักษาดุลยภาพในภูมิภาค โดยทั้งสองพร้อมร่วมมือกันในกรอบความร่วมมือต่าง ๆ มาเลเซียพร้อมให้การสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยในปีนี้ด้วย

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรียืนยันเจตนารมณ์ของไทยที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลมาเลเซียในทุกระดับและทุกมิติ โดยมีประโยชน์สุขของครอบครัวชาวไทยและมาเลเซียเป็นหมุดหมายสำคัญ

นายธนกรกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้กล่าวตอบในการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการสอดคล้องกับแนวทางการแถลงข่าวของไทย โดยนายกรัฐมนตรีมาเลเซียหวังว่าไทยและมาเลเซียจะมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นอย่างแข็งขันในทุกระดับ และได้ขยายความร่วมมือไปยังประเด็นใหม่ๆ ของความร่วมมือ

โดยเฉพาะเพื่อได้ฟื้นฟูจากผลกระทบจากสถานการณ์โควิด – 19 โดยเห็นด้วยกับบริบทจากการหารือกันเพื่อเปิดการเดินทางระหว่างประชาชนสองประเทศให้มากขึ้น การมุ่งส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกัน และการส่งเสริมกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ให้เกิดการพบปะหารือระหว่างกัน

โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะเผยแพร่แถลงข่าวร่วม (Joint Press Statement) สะท้อนเจตนารมณ์ทางการเมืองร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป

ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวร่วม นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเยี่ยมชมนิทรรศการศิลปหัตถกรรม ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี และนายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน เมื่อเวลา 17.00 น. ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายกรัฐมนตรีไทยและนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ร่วมตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

ต่อมา เวลา 17.15 น. ทั้งสองฝ่ายได้เข้าร่วมหารือกลุ่มเล็ก ณ ห้องโดมทอง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียลงนามสมุดเยี่ยมและชมของที่ระลึกที่ทั้งสองฝ่ายมอบให้แก่กัน ก่อนหารือข้อราชการเต็มคณะ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

ผู้นำทั้งสองได้ร่วมกันหารือข้อราชการ โดยฝ่ายไทยมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมด้วย ดังนี้

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และพล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ

สำหรับคณะรัฐมนตรีฝ่ายมาเลเซีย ประกอบด้วย ดาโตะ ไซฟุดดิน อับดุลละฮ์ (Dato’ Saifuddin Abdullah) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดาโตะ ซรี โมฮัมหมัด อัซมิน บิน อาลี (Dato’ Seri Mohamed Azmin bin Ali) รัฐมนตรีอาวุโสและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรม ดาตุก ซรี จาลาลุดดิน อาลิอาส (YB Datuk Seri Jalaluddin Alias) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงดินแดนสหพันธ์ ดาตุก ซรี ฮัญจี โมฮัมหมัด ซาลิม โมฮัมหมัด ชาริฟ (YB Datuk Seri Hj. Mohd Salim Mohd Sharif) ประธานองค์กรการพัฒนาผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยางรายย่อย ดาโตะ โนร นาซิมะฮ์ บินติ ฮาชิม (YBhg. Dato’ Nor Nazimah binti Hashim) เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และดาโตะ อัมรัน โมฮัมหมัด ซิน (Dato’ Amran Mohamed Zin) รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ

ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือข้อราชการ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียและคณะ รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบปะหารือกัน โดยไทยและมาเลเซียเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด มีความร่วมมือกันในหลายด้าน การมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะทำให้ทั้งสองฝ่ายร่วมขับเคลื่อนความร่วมมือไปพร้อมกัน และเดินหน้าควบคู่ไปกับอาเซียนอย่างแข็งแกร่ง ทั้งนี้ การหารือกลุ่มเล็กก่อนหน้านี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และกระชับความร่วมมือในทุกมิติ ซึ่งหลังจากนี้จะให้หน่วยงานของทั้งสองฝ่ายได้สานต่อความร่วมมือในรายละเอียดให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวว่า ยินดีอย่างยิ่งที่ได้เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ขอบคุณต่อการต้อนรับที่อบอุนตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศไทย การหารือในวันนี้ช่วยให้ทั้งสองฝ่ายได้กระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น ด้วยพื้นฐานที่ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและความร่วมมือที่แน่นแฟ้นมายาวนาน ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ ความเป็นพี่น้องระหว่างสองประเทศ รวมถึงมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน หวังว่าความสัมพันธ์และความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายจะพัฒนามากยิ่งขึ้นในอนาคต

นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีมาเลเซียต่างเห็นพ้องกันว่า ไทยและมาเลเซียมีแนวคิดที่คล้ายคลึงกันในการบริหารประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมแนวคิด “Malaysia Family” ของมาเลเซียที่ต้องการก้าวข้ามความแตกต่าง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายไทยที่ร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ควบคู่กับการพัฒนาประเทศอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ซึ่งหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะได้หารือต่อยอดนโยบายเพื่อให้ความร่วมมือระหว่างกันส่งผลถึงความกินดีอยู่ดีของประชาชนไทยและมาเลเซีย

ด้านการฟื้นฟูความเชื่อมโยง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานและเส้นทางคมนาคมทั้งทางบก ทางเรือ และอากาศ ให้คืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมสนับสนุนให้ประชาชนสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้มากขึ้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ประชาชนไทยรอที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียและรอการเดินทางไปมาหาสู่กันมากขึ้น ไทยมีศักยภาพ ความพร้อม และได้เตรียมมาตรการการท่องเที่ยวที่ปลอดภัยไว้แล้ว หวังว่าไทยและมาเลเซียจะเปิดการเดินทางระหว่างกันโดยไม่ต้องกักกันโรคในอนาคต ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียยินดีหารือเพิ่มเติมในเรื่องการเปิดด่านตามแนวชายแดนเพื่อฟื้นฟูผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจตามแนวชายแดน รวมถึงเรื่องการเปิดการเดินทางระหว่างกันโดยไม่ต้องกักกันโรค ซึ่งมาเลเซียได้มีการนำมาใช้กับสิงคโปร์แล้ว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้นำมาใช้กับไทยเช่นกัน

ด้านความร่วมมือสาธารณสุข นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณมาเลเซียที่ให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้คนไทยเดินทางกลับจากมาเลเซียในช่วงสถานการณ์โควิด-19 หวังว่าต่อไปทั้งสองจะร่วมแลกเปลี่ยนความร่วมมือในการจัดการสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงได้ร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีนต่อต้านโรคโควิด-19 มากขึ้นในอนาคต ด้านมาเลเซียยินดีที่ทั้งสองประเทศมีความร่วมมือการวิจัยและพัฒนาวัคซีนต่อต้านโรคโควิด-19 และทราบว่าไทยมีระบบ

prachachat.net

เปิดอ่าน 290 ครั้ง

ข่าวล่าสุดของหมวดหมู่ ข่าวประจำวัน

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " ประยุทธ์ หยอดนายกฯมาเลย์ ครอบครัวเดียวกัน-หนุนคุยสันติชายแดนใต้ "

ปิดการแสดงความคิดเห็น