ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันเสาร์, 27 เมษายน 2567

ดำเนินคดี 2 ตร.ตันหยง ข้อหาพยายามฆ่า กราดยิงเยาวชน บาดเจ็บสาหัส

SOUTH : ผู้การนราฯแจ้งความดำเนินคดี 2 ตำรวจ สภ.ตันหยง ข้อหาพยายามฆ่า กรณีก่อเหตุกราดยิงร ถเยาวชน เเคมป์ปิ้ง บาดเจ็บสาหัส 2 คน ด้านคุณพ่อเยาวชนเผยนาทีเกิดเหตุ-ทำไม่กล้าจอด

วันที่ 10 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีกองกำลังเจ้าหน้าที่ไม่ทราบฝ่าย แต่งกายชุดนอกเครื่องแบบ พกอาวุธครบมือตั้งด่านจุดสกัดลอย ห้ามรถกระบะเยาวชนที่กำลังขับรถออกมาหาซื้ออาหารที่ร้านสะดวกซื้อในตัวเมืองนราธิวาส เพื่อนำอาหารไปทานในแคมป์ฯบริเวณอ่างเก็บน้ำพิกุลทอง บ้านเขาตันหยง ต.กะลุวอ อ.เมือง จ.นราธิวาส แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่สกัดให้หยุด ซึ่งเยาวชนดังกล่าวไม่ยอมหยุดจึงถูกใช้อาวุธปืนสงครามไล่กราดยิงตามหลัง เป็นเหตุให้มีเยาวชนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย เหตุเกิดเมื่อช่วงดึกของวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา

นายอาสือมิง เจ๊ะนิ พ่อของหนึ่งในผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างไกล่เกลี่ยและเจรจากัน ถ้าเจรจาแล้วตกลงกันได้ ทุกอย่างก็จบ แต่ถ้ายังปัดเป็นเรื่องอื่น ก็คงต้องให้กระบวนการยุติธรรมจัดการ

“ในส่วนของเรื่องที่เกิดขึ้น ลูกสาวโทรมาบอกว่า น้องชายถูกยิง อยู่ที่โรงพยาบาล ก็ตกใจนะ รีบไปดูลูก ทราบเรื่องราวว่า ลูกไปแคมป์ปิ้งวันเด็กที่อ่างเก็บน้ำ เขาไปเที่ยวกับเพื่อนๆ รวมกันประมาณ 20 คน พอตอนดึกช่วงประมาณตี 2 เขาออกไปซื้อของที่เซเว่นฯ ไม่แน่ใจว่าเกิดเหตุตอนขาไปหรือตอนขากลับ ระหว่างทางมีชาย 2 คน (ทราบตอนหลังว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ) เขาอยู่ที่มืดข้างถนน และโบกให้หยุด ตอนนั้นพวกเขาไม่รู้เป็นใคร เพราะไม่ได้แต่เครื่องแบบตำรวจ จึงไม่กล้าจอด”

“จากนั้นจึงได้ยินเสียงยิงปืน และมีรถมอเตอร์ไซด์ขับไล่ตามรถ คนที่ไล่ตามก็ยิงปืนใส่จนทำให้กระสุนถูกฮานาฟี ที่หน้าอก และกระสุนถูกนิอัลฟาร์ ที่ท้อง กระสุนฝั่งในได้รับบาดเจ็บ คนที่เหลือจึงได้พาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาลและไปแจ้งความกับสถานีตำรวจใกล้ๆ” พ่อของวัยรุ่นเล่ารายละเอียดของเหตุการณ์
นายอาสือมิง กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นแบบนี้ เป็นใครก็กลัว ถ้าคนที่ออกมาโบกรถ เด็กๆ รู้ว่าเป็นตำรวจ ก็คงหยุดรถอยู่แล้ว แต่มาแบบนี้ ใครๆ ที่เจอก็กลัว ตอนนี้ยังไม่ได้ไปร้องเรียนที่ไหน คิดว่าน่าจะไกล่เกลี่ยกันได้ ก็ไม่ติดใจอะไร ถ้าทุกอย่างคุยกันได้

ด้าน นางอัญชนา เหมมิหน๊ะ กลุ่มด้วยใจนักสิทธิมนุษยชนชายแดนใต้ กล่าวว่า กรณีตั้งด่านและจุดสกัด มีองค์ประกอบอะไรบ้าง ด่านเจ้าหน้าที่ตำรวจมี 3 ประเภทหลัก คือ ด่านตรวจ จุดตรวจ จุดสกัด หลักการปฏิบัติงานทุกด่านต้อง มีเจ้าหน้าที่สัญบัตรยศ ร.ต.ต. ขึ้นไปเป็นหัวหน้าชุด แต่งเครื่องแบบปฏิบัติหน้าที่แสดงตนชัดเจน ใช้กิริยาวาจาสุภาพอธิบายว่าตั้งด่านเพื่ออะไร มีเครื่องหมายจราจรเช่น ป้ายหยุด ป้ายแสดงรายละเอียดผู้ควบคุม ป้ายชื่อและเบอร์โทรผู้บังคับบัญชา หากปฏิบัติงานช่วงกลางคืนต้องมีแสงสว่างมองเห็นได้ไม่น้อยกว่า 150 เมตร

“จุดตรวจ” เป็นจุดปฏิบัติงานชั่วคราวขนาดเล็กกว่าด่านตรวจ สามารถเคลื่อนย้ายง่าย ข้อบังคับห้ามปฏิบัติงานเกิน 24 ชั่วโมง ด่านลักษณะนี้ประชาชนมักเห็นเป็นประจำ เช่น ด่านตรวจทั่วไป ด่านความมั่นคง ด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ด่านตรวจควันดํา เป็นต้น
“จุดสกัด” มีขนาดเล็กใช้ปฏิบัติงานกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเร่งด่วนหลังได้รับแจ้งเหตุ เช่น สกัดจับการลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมาย หรือสกัดจับบุคคล การทำงานจบหลังเสร็จสิ้นภารกิจ ลักษณะการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ยังแยกออกได้อีก 2 แบบ คือ เพื่อกวดขันวินัยจราจร และตรวจค้นปราบปราม

กรณีที่เกิดขึ้นอาจเป็นการตรวจค้นเพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรม เมื่อขับรถเข้าด่านเจ้าหน้าที่จะประเมิน หากสงสัยจะเรียกจอดข้างทาง ก่อนสั่งให้เปิดประตูและกระโปรงรถ พร้อมเชิญผู้ขับขี่ลงก่อนตรวจค้น หากพบสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จะเชิญเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองสิ่งผิดกฎหมาย ไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ ก่อนเขียนบันทึกจับกุมโดยระบุว่ารับหรือไม่รับสารภาพ จากนั้นส่งตัวดำเนินคดีต่อศาล ทั้งนี้การทำผิดประเภทนี้พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจปรับ แต่ศาลจะเป็นผู้พิจารณาลงโทษ

แต่เมื่อสกัดแล้วไม่จอดเนื่องจากเจ้าหน้าที่แต่งกายนอกเครื่องแบบ เจ้าหน้าที่สามารถยิงได้หรือไม่ ในกรณีที่สงสัยว่าคนร้ายอาจมีอาวุธอยู่ในรถเจ้าหน้าที่ตํารวจทั้งชุดตรวจค้นและชุดคุ้มกันกันควรหาที่กําบังในขณะที่รถเข้ามาในบริเวณจุดสกัด และอาจใช้เครื่องขยายเสียงจากรถยนต์สายตรวจบังคับรถเพื่อตรวจค้น

กรณีนี้การยิงของผู้ที่ตั้งจุดตรวจหรือจุดสกัดจึงอาจเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ จึงควรตั้งคณะกรรมการสอบสวนและควรดำเนินการเยียวยาอย่างเป็นธรรมและดำเนินการตามกฎหมาย ควรอ่าน การตั้งด่าน จุดตรวจ จุดสกัดของตำรวจ ควรอ่าน มีข้อยกเว้นที่เจ้าพนักงานอาจใช้กําลังกับคนร้ายได้ 2 กรณีด้วยกันคือ กรณีที่ (1) เจ้าพนักงานกระทําไปเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่นให้พ้นภยันตราย ซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงพอสมควรแก่เหตุ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68” หรือ กรณีที่ (2) เจ้าพนักงานได้กระทําไปเพื่อความป้องกันทั้งหลายที่เหมาะสมแก่พฤติการณ์ แห่งเรื่องในการจับกุม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 83

ด้าน พล.ต.ต.แวสาแม สาและ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เปิเเผยว่าได้แจ้งดำเนินคดี กับ 2 ตำรวจ สภ.ตันหยง จ.นราธิวาส ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พร้อมยึดอาวุธปืน รถ จยย.นำไปพิสูจย์ เบื้องต้น ตร.2นาย ให้การว่าไม่มีเจตนาที่จะยิง แต่ยิงล้อเพื่อให้รถหยุด แต่กระสุนพลาดเป้า

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

White news